วันที่ 31 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กระทรวงการคลังออกระเบียบว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ พ.ศ.2561 เนื้อหาโดยสรุป คือ ไม่ให้ต่อสัญญาลูกจ้างเดิม จะจ้างใหม่ต้องขออนุญาตกระทรวงการคลัง และห้ามขึ้นเงินเดือน ทำให้กลุ่มวิชาชีพแพทย์ และพยาบาลหลายฝ่าย ต่างออกมาคัดค้าน โดยที่โรงพยาบาลประทาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีพนักงานลูกจ้างได้รับผลกระทบกว่า 150 คน ได้ติดป้ายผ้าหน้าโรงพยาบาลโดยมีข้อความว่า “โรงพยาบาลประทาย ขอไว้อาลัยกระทรวงการคลังที่ออกระเบียบ ห้ามโรงพยาบาลจ้างลูกจ้างชั่วคราวและห้ามขึ้นเงินเดือนลูกจ้าง” เพื่อเป็นการคัดค้านระเบียบการดังกล่าวของกระทรวงการคลัง พร้อมกันนี้ก็มีพนักงานลูกจ้างของโรงพยาบาลประทายบางส่วนสวมใส่เสื้อที่มีสีดำเพื่อเป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่เห็นด้วยกับระเบียบการดังกล่าว
จากการสอบถามนางจุรีรัตน์ ทองจันทร์ พนักงานช่วยเหลือคนไข้โรงพยาบาลประทาย เปิดเผยว่า ผลกระทบที่เกิดจากการออกระเบียบใหม่นี้ ทำให้ลูกจ้างของโรงพยาบาลประทาย แบ่งออกเป็น 2 ส่วน บางส่วนไม่ค่อยกระตือรือร้นกับระเบียบการดังกล่าวมากนัก เนื่องจากยังคงมั่นใจว่าจะยังมีการจ้างงานอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างที่เพิ่งมีการจ้างเข้ามาใหม่ ส่วนลูกจ้างบางส่วนซึ่งทำงานมานานหลายสิบปียังคงรู้สึกเป็นกังวลกับระเบียบการดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะจะเกิดผลกระทบต่อค่าจ้างที่จะมีการปรับลดลง
ส่วนการนัดรวมตัวกันที่หน้ากระทรวงการคลังในวันที่ 1 มิถุนายนนี้นั้น ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประทายคงไม่ได้เข้าไปร่วมชุมนุมด้วย เนื่องจากติดภารกิจในเรื่องของงานซึ่งละทิ้งไม่ได้และพนักงานบางส่วนก็จะไปเรียกร้องที่สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เกี่ยวกับเรื่องเงินเหมาจ่ายหรือ ฉ.11 ซึ่งต้องจ่ายให้กับลูกจ้างที่มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี แต่ปัจจุบันเงินดังกล่าวยังไม่มีการเบิกจ่ายให้กับลูกจ้าง
โดยเนื้อหาที่สำคัญของระเบียบฉบับนี้ สรุปว่า ถ้าจ้างลูกจ้างก่อนระเบียบนี้บังคับใช้ ให้จ้างต่อไปได้ แต่หากหมดสัญญา หรือลูกจ้างลาออกให้ยุบเลิกตำแหน่งทันที หากจะจ้างพนักงานหรือลูกจ้างใหม่ให้ทำความตกลงกับกระทรวงการคลังก่อน โดยต้องแสดงเหตุผล ความจำเป็น เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย และที่สำคัญคือ ไม่ให้จ้างเกินปีงบประมาณ ให้จ้างได้ไม่เกินอัตราจ้างขั้นต่ำ และไม่มีการขึ้นเงินเดือน
