พม่าสกัดรถบรรทุกสารตั้งต้นนำเข้ามาจากไทย

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่าในปัจจุบันทางการเมียนมาได้ตรวจยึดรถบรรทุกที่ข้ามจากฝั่ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ได้ 1 คัน พร้อมมีสารเคมีที่คาดว่าใช้เพื่อการผลิตยาเสพติดอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. เมื่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.30 และทหาร บก.ยศ.จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา นำกำลังเข้าตรวจค้นรถบรรทุก 10 ล้อ ที่ขับข้ามสะพานแม่น้ำสายไปจากฝั่ง อ.แม่สาย แล้วข้ามไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก เนื่องจากได้รับการประสานจากหน่วยงานในฝั่งไทยให้ช่วยสกัดเอาไว้

จากการตรวจสอบพบเป็นรถยนต์บรรทุก ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ป้ายเหลือง ป้ายทะเบียนจาก จ.เชียงราย มีชายไทยอายุ 42 ปี เป็นคนขับ ด้านหลังกระบะมีผ้าใบปกคลุมและเมื่อเปิดออกพบถังอะลูมิเนียมพ่นสีดำ จำนวน 300 ถัง น้ำหนักถังละ 50 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งหมด 15,000 กิโลกรัม ภายในถังพบว่าได้บรรจุสารเคมีโซเดียมไซยาไนด์ชนิดเกล็ดแข็งไม่ทราบต้นกำเนิด โดยเป็นการส่งออกแบบผ่านแดนโดยไม่แจ้งสำแดงว่าเป็นสินค้าชนิดใด อย่างไรก็ตามทางการเมียนมาถือว่าเป็นสารพิษและสารอันตราย โดยมีความผิดตามกฎหมายของประเทศเมียนมา ส่วนฝั่งประเทศไทยเองก็ถือเป็นสารเคมีที่ต้องควบคุมด้วย โดยจัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตรายของกรมโรงงาน

แหล่งข่าวชายแดนระบุว่า สารเคมีโซเดียมไซยาไนด์สามารถนำไปผลิตเป็น P2P หรือเฟนิล-2-โพรพาโนน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์ P2P จึงจัดเป็นยาเสพติดประเภท 4 และเมื่อนำมาสังเคราะห์พบว่าโซเดียมไซยาไนด์น้ำหนัก 1 กิโลกรัม สามารถนำมาผลิตเป็นยาไอซ์ได้ประมาณ 400 กรัม โดยถือเป็นสารหลักที่ใช้เตรียมสารตั้งต้นหรือเรียกกันว่า Pre-Precursor

สำหรับรถบรรทุกคันดังกล่าวทางการไทยตรวจย้อนหลังพบว่าแล่นไปมาระหว่าง จ.เชียงใหม่-อ.แม่สรวย-อ.เมืองเชียงราย หลายรอบอย่างน่าสงสัย กระทั่งวันที่ 31 พ.ค.ได้ขับจาก อ.แม่สรวย เข้าสู่ อ.เมืองเชียงราย มุ่งหน้าสู่ อ.แม่สาย กระทั่งถูกตรวจพบว่ามีสารเคมีดังกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image