เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตรัง ว่าได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง เขต อ.ปะเหลียน ว่ามีหญิงสาวรายหนึ่งหอบลูก 5 คน ขับรถซาเล้งเร่ร่อนหนีสามีมาจาก จ.กระบี่ เพื่อกลับมายังบ้านเกิดในพื้นที่ บ้านหินจอก ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ระยะทางเกือบ 300 กิโลเมตร แต่ปรากฏว่าญาติพี่น้องที่เคยมีไม่เหลือแม้แต่คนเดียว จึงต้องไปขออาศัยขนำ หรือกระท่อมเล็กๆ ของชาวบ้าน อยู่กับลูกทั้ง 5 คน โดยไม่มีรายได้และมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบกับ น.ส.อุไรวรรณ หรือวัน ศรีแก้ว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 4/6 หมู่ 4 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ อาศัยอยู่ในขนำเล็กๆ ที่ไม่มีแม้ฝาผนังกั้น กับลูกอีก 5 คน
น.ส.อุไรวรรณเปิดเผยว่า ตนมีลูกอายุตั้งแต่ 1 ขวบ 5 ขวบ 7 ขวบ 9 ขวบ และ 14 ขวบ (พิการหูหนวก) ในอดีตเกิดและเติบโตที่ อ.ปะเหลียน ต่อมามีสามีและไปอาศัยอยู่ด้วยกันใน จ.กระบี่ โดยตนประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป สามีไม่มีงานทำติดสุราและสารเสพติดอย่างหนัก และทำร้ายร่างกายตนรวมทั้งลูกๆ อยู่บ่อยครั้ง ขณะที่อยู่ด้วยกัน ตนต้องเป็นฝ่ายหาเงินเลี้ยงลูกเพียงคนเดียว และบางครั้งหากสามีมีอาการคลั่งจำเป็นต้องพาลูกๆ ไปหลบนอนกันอยู่ข้างถนนเป็นประจำ เพราะหวาดกลัวกันทั้งหมด และล่าสุดสามีได้ใช้อาวุธมีดฟันที่แขนของลูกสาวอายุ 9 ขวบ จนได้รับบาดเจ็บ ทำให้ตนหมดความอดทน เพราะทนดูลูกๆ เจ็บปวดไม่ได้ จึงได้นำลูกทั้ง 5 คน ขึ้นรถซาเล้ง 3 ล้อ ไม่มีหลังคา เดินทางออกจาก จ.กระบี่ ใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมง ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร หวังเพื่อนำลูกกลับมายังบ้านเกิด และหลีกหนีจากความหวาดกลัว แต่ปรากฏว่าบ้านและพี่น้องที่เคยมี กลับไม่หลงเหลือแม้แต่สักคนเดียว จึงได้ขอพักอยู่ที่ขนำเล็กๆ ของชาวบ้าน อยู่กันแบบนอนกลางดินกินกลางทราย และได้ปลูกผักข้างๆ ขนำ เพื่อให้มีรายได้บางส่วนมาจุนเจือ และมีเพื่อนบ้านนำอาหารมาให้ลูกๆ ได้กินกันประทังชีวิต
“ที่ผ่านมา สามีก็มีการติดต่อมา ขู่จะทำร้ายตลอดหลังจากที่หนีออกมา แต่มาทราบข่าวว่าล่าสุดติดคุกอยู่ในเรือนจำ จ.กระบี่ ในข้อหาฆ่าผู้อื่น” น.ส.อุไรวรรณกล่าว
ขณะที่ นายสุพิษ แก้วพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านหินจอก ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กล่าวว่า หลังจากที่ทราบว่าหญิงสาวรายนี้พร้อมกับลูกๆ เข้ามาอยู่ในพื้นที่ ก็ได้เข้าไปดูแล ซึ่งน่าสงสารและเวทนาเป็นอย่างมาก เบื้องต้นได้ให้มาพักอาศัยอยู่ในโรงยางเก่าของตน เพื่อได้หลบแดดหลบฝน ตนและชาวบ้านก็ได้ส่งข้าวและน้ำให้กิน และหลังจากนี้ จะรวบรวมเงินจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น เพื่อสร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้ทั้งหมดได้อยู่อาศัยกันในที่ดินของตน
“ส่วนเด็กๆ ก็ได้เรียนหนังสือกันแค่ 2 คน ขณะนี้ก็ได้ไปฝากให้เรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหินจอกแล้ว และอยากจะวิงวอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาดูแลในส่วนของความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ เพราะต่างก็ไม่มีรายได้ รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่เด็กๆทั้ง 5 คน ลำบากเป็นอย่างมาก ซึ่งเงินสวัสดิการแห่งรัฐที่เคยได้ ก็ถูกตัดไม่มีเงินเข้าตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 หากมีผู้ใจบุญที่อยากช่วยเหลือสามารถบริจาคเงินเข้าบัญชี ธนาคารออมสิน บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก สาขาตลาดเก่า เลขที่บัญชี 020169927256 และหมายเลขติดต่อ 08-8751-6103” นายสุพิษกล่าว
