เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการที่ขณะนี้มีการแอบลักลอบตัดไม้พะยูงตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา และซุกซ่อนไม้พะยูงเพื่อส่งขายให้พ่อค้าที่มารับซื้อ จึงสั่งการให้นายอรรถพล อรรคบุตร นายอำเภอภูสิงห์ จัดชุดออกสืบสวนหาข่าวการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ และได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า มีกลุ่มขบวนการค้าไม้พะยูงกำลังรวบรวมไม้พะยูงซุกซ่อนในสระน้ำด้านทิศตะวันตกของวัดบ้านคลองสาน หมู่ที่ 15 ต.ห้วยตึ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และเตรียมเคลื่อนย้ายไม้พะยูงออกไป
ล่าสุด นายอรรถพล อรรคบุตร นายอำเภอภูสิงห์ ได้สั่งการให้ นายสรศิริ จันดีบุตร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ภูสิงห์ และ สมาชิก อส.อ.ภูสิงห์19 สนธิกำลังร่วมกับ ทหาร ร้อย.ร.1611 ฉก.3 และ หน่วยป่าไม้ ศก.4 เดินทางร่วมตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบรถเก๋งต้องสงสัยและกลุ่มชายต้องสงสัย 4 คนกำลังนั่งจับกลุ่มอยู่ในกระท่อม เมื่อกลุ่มผู้ต้องสงสัยเห็นเจ้าหน้าที่จึงพากันวิ่งหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมแต่คนร้ายหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
นายอรรถพลกล่าวว่า จากการตรวจค้นรอบบริเวณอย่างละเอียดพบ ของกลางประกอบด้วย 1.รถยนต์เก๋ง วีออส สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน พร้อมไม้พะยูงแก่นล่อน 4 ท่อน/เหลี่ยม 2.ไม้พะยูงแปรรูป 55 ท่อน/เหลี่ยม ซุกซ่อนในสระน้ำ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันงมขึ้นมาจากสระน้ำ 4.เครื่องปั่นไฟฟ้า 1 เครื่อง 5.ปั้มน้ำ 1 เครื่อง และ 6.โซ่สำหรับชักลาก 2 ม้วน สำหรับไม้พะยูงทั้งหมดหากส่งไปขายต่างประเทศจะมีราคาประมาณ 2 ล้านบาทเศษ จากการสอบสวนเบื้องต้น นายไสว ผิวงาม ผู้ใหญ่บ้านบ้านคลองสาน แจ้งว่า กระท่อมดังกล่าวเป็นของ นายธีรเดช หรือตี๋ แซ่โก ลูกบ้านของตน ซึ่งหลบหนีไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางของทั้งหมดไว้ ก่อนนายสรศิริ จันดีบุตร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ภูสิงห์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
