สมาพันธ์ครูชายแดนใต้ วอนดูแลธุรการ ร.ร. กว่า600 ชีวิตระส่ำหลัง”สพฐ.”เลิกจ้าง

ภาพประกอบ

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา จ.ปัตตานี นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมประชุมกับตัวแทน ผู้อำนวยการโรงเรียน ครู และธุรการของโรงเรียน ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 300 คน เพื่อหารือ แนวทางการช่วยเหลือบุคลากรปฏิบัติงานธุรการในสถานศึกษา 629 ราย กำลังถูกเลิกจ้าง เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แจ้งจัดสรรงบประมาณเป็นค่าจ้างเหมาบุคลากรปฏิบัติงานในสถานศึกษา ในเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนใต้ ประจำเดือน เมษายน – มิถุนายน 2561 โดยแจ้งสิ้นสุดการจ้างภายในเดือนมิถุนายน 2561 นี้

ทำให้ธุรการของโรงเรียนได้รับผลกระทบ รวมทั้งโรงเรียนได้รับผลกระทบ เนื่องจากขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเอกสาร ข้าราชการครูต้องเสียเวลาการสอนเพื่อดำเนินงานธุรการแทน ทำให้ศักยภาพด้านการสอนลดลง นักเรียนจะได้รับความรู้ไม่เต็มศักยภาพ และไม่ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนั้น บุคลากรทางการศึกษาจึงรวมตัวกันเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจ เห็นใจ และให้ความเป็นธรรมต่อพนักงานธุรการสถานศึกษา ซึ่งเป็นคนในพื้นที่โดยตรง อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยเหลือและหาทางออกที่ดี เพื่ออนาคต ความเป็นอยู่ที่มั่นคงของบุคลากรปฏิบัติงานธุรการโรงเรียน

นายบุญสม กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อเรียกร้องสิทธิ อยากให้กระทรวงศึกษาธิการดูแลบุคคลเหล่านี้ ได้มีอาชีพ และอนาคตที่ยั่งยืน โครงการนี้จุดประกายให้การศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ขยับขึ้นแน่นอน ธุรการโรงเรียนเป็นบุคลากรที่เข้ามาทำให้การศึกษามีคุณภาพ สมเจตนารมณ์คืนครูสู่ห้องเรียน คืนครูสู่ชั้นเรียน คืนครูสู่นักเรียน ซึ่งธุรการทำหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษาในประเทศซึ่งตกต่ำมานานให้ดีขึ้น จึงมาสมัครเป็นครูธุรการได้ประมาณ 10 เดือน แต่กลับมีคำสั่งว่าไม่มีงบประมาณ เนื่องจากว่างบไม่พอ จะเลิกสัญญาจ้างเหมา 9,000 ทำให้น้องๆวิตกกังวล กลัวไม่มีความมั่นคง โดยหลายคนลาออกจากงานเดิมมา หลายคนเป็นผู้นำครอบครัว
“ฝากเรียนไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ช่วยดูแลน้องๆเหล่านี้ให้มีงานทำต่อเนื่อง และเป็นระบบ เพียงแค่มีความหวังว่า บุคคลเหล่านี้เป็นคนในพื้นที่ คำพูดที่ว่าคนในพื้นที่สามารถช่วยชาติได้ น่าจะสมเจตนารมณ์ และเด็กตรงนี้เป็นเด็กในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งสิ้น ทั้งไทยพุทธและมุสลิม ซึ่งอยู่ภายใต้พหุวัฒนธรรม หวังว่ากระทรวงศึกษาธิการและผู้ที่เกี่ยวข้องจะช่วยเหลือน้องๆเหล่านี้ให้มีงานทำ” นายบุญสม กล่าว

นายปฏิวัติ หมานเหม ธุรการโรงเรียนบ้านควนขี้แรด อ.จะนะ จ.สงขลา กล่าวว่า หลังรู้ตัวเองว่าจะถูกเลิกจ้าง ตนรู้สึกกังวล เนื่องจากแต่ก่อนทำงานได้เงินเดือน 15,000 บาท แต่พอสอบธุรการได้เงินเดือน 9,000 จึงตัดสินใจออกจากงานเดิม เนื่องจากงานธุรการ ทำให้มีความสุขที่ได้ทำงานและอยู่กับลูกภรรยา ซึ่งเงินเดือน 9,000 บาทไม่มาก แต่อยู่ได้บนพื้นฐานของการอยู่บ้าน อยู่ในพื้นที่ ขณะที่มีคนวิตกกังวล 629 คน บางคนทุกข์มากถึงขั้นล้มป่วย ประกอบกับเงินเดือนไม่ออก ต้องไปกู้เงินนอกระบบ ทำให้ครอบครัวเกิดปัญหาขึ้น เมื่อมีหนังสือขอสพฐ.เลิกจ้าง ความกังวลยิ่งเพิ่มขึ้น
“จากการสอบถามผู้ใหญ่ในระบบราชการไทย ทราบว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อมีหนังสือจากเขตพื้นที่ออกมายืนยันว่าสิ้นสุดการจ้างเดือนมิถุนายน คือเดือนนี้ ยิ่งเพิ่มทวีความวิตกเพิ่มมากขึ้น จึงมาร่วมกันประชุม ไม่ได้ประท้วง แต่ ขอความเห็นใจให้พวกเราได้อยู่ต่อ ซึ่งการอยู่ต่อจะส่งผลให้กับโรงเรียนอย่างมาก ถ้าโรงเรียนมีธุรการ ครูได้สอนเต็มที่จริงๆเพราะธุรการทำหมดทุกอย่าง เมื่อครูไม่อยู่ ธุรการก็เป็นครูด้วย ดังนั้นมองว่าธุรการมีความสำคัญอย่างยิ่งในระบบการศึกษาบ้านเรา” นายปฏิวัติ กล่าว
ว่าที่ร.ต. ปพน มีสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตาหมน อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ตำแหน่งธุรการมีคุณูปการต่อโรงเรียน มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นคนในพื้นที่ สามารถทำงานต่างๆในพื้นที่ได้อย่างจัดเจนและเป็นรูปธรรม งานด้านธุรการโรงเรียน รับหนังสือ ตอบโต้หนังสือ ทำรายงานต่างๆ เตรียมเอกสารต่างๆตลอดจนช่วยเหลือเอกสารทางวิชาการของครู จะทำให้ครูสามารถลดภาระหน้าที่เรื่องการจัดทำเอกสารต่างๆและมีเวลาทำการเรียนการสอนและสื่อการเรียนการสอนได้อย่างเต็มที่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image