เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง ผอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ นายเดชา เจนกลรบ ปฏิรูปที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ นายพลานุภาพ ธนพรคำแพทย์ นายอำเภอท่าคันโท พ.ต.ท.ชำนาญ โชติประดิษฐ์ รอง ผกก.(ป.) สภ.ท่าคันโท พ.ต.ท.กิตติ์ธานี ทิพย์ศิริคำ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าคันโท นายอาวุธ สมยา นิติกรชำนาญการสำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบแปลงที่ดิน ส.ป.ก.ในพื้นที่บ้านยางอู้ม หมู่ 1 ต.ยางอู้ม อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มนายทุนรับเหมานำเครื่องจักรเข้ามาลักลอบขุดดินและหินลูกรังในที่ดินหลวง ซึ่งอยู่ในที่ดิน ส.ป.ก.บริเวณดังกล่าวแล้วนำไปขาย โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
จากการตรวจสอบพบว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดิน ส.ป.ก. มีเนื้อที่ 4 แปลง จำนวน 30 ไร่ มีชาวบ้านเป็นผู้ครอบครองและใช้กรรมสิทธิ์จำนวน 4 ราย พบร่องรอยการใช้เครื่องจักรเข้ามาลักลอบขุดดินและหินลูกรังจำนวน 15 ไร่เศษ จนเป็นบ่อขนาดใหญ่ ความลึก 5-7 เมตร หลายจุดมีการลักลอบขุดลึกลงไปมากกว่า 10 เมตร แล้วนำดินออกไปจากพื้นที่ มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดรถแบ๊กโฮยี่ห้อฮุนไดสีเหลือง มีป้ายข้อความติดบริเวณหน้ากระจกคนขับว่า “เทพเขมราฐ” ไว้ตรวจสอบ
นายเดชากล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักงาน ส.ป.ก.กาฬสินธุ์ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีนายทุนนำเครื่องจักรเข้ามาลักลอบขุดดินและหินลูกรัง ซึ่งเป็นทรัพย์สินของหลวง เพราะอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก.บริเวณดังกล่าว และนำไปขายโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที ขณะนั้นพบรถแบ๊กโฮจำนวน 2 คัน กำลังขุดดินและหินลูกรังอยู่ พร้อมทั้งมีรถบรรทุก 6 ล้อ ลักลอบบรรทุกดินวิ่งเข้าออกอย่างไม่ขาดสาย เจ้าหน้าที่จึงประสานขอกำลังไปยังเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองลงพื้นที่ตรวจสอบ แต่ระหว่างที่กำลังจะเข้าไปกลุ่มนายทุนรับเหมากลับไหวตัวทัน นำรถบรรทุกและรถแบ๊กโฮหลบหนีไปได้ 1 คัน และทิ้งรถแบ๊กโฮไว้ 1 คัน ยี่ห้อฮุนได สีเหลือง มีป้ายข้อความติดบริเวณหน้ากระจกคนขับว่าเทพเขมราฐ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบ ส่วนคนงานสามารถหลบหนีไปได้
ทั้งนี้ ทาง ส.ป.ก.กาฬสินธุ์ได้เข้าแจ้งความกับ สภ.ท่าคันโท ไว้แล้ว พร้อมกับกำลังตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าชาวบ้านที่ครอบครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวทั้ง 4 รายเป็นใครบ้าง และกลุ่มนายทุนรับเหมาเข้ามาลักลอบขุดดินและหินลูกรังได้อย่างไร
ด้าน พ.อ.มานพกล่าวว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินอยู่ในเขต ส.ป.ก.ทั้งหมด มีจำนวน 4 แปลง เนื้อที่รวม 30 ไร่ ซึ่งมีชาวบ้านถือครองกรรมสิทธิ์ 4 ราย โดยพื้นที่ติดถนนปลูกอ้อย แต่จากการตรวจสอบลึกเข้าไปข้างในพบมีการลักลอบขุดดินและหินลูกรังในพื้นที่จำนวน 15 ไร่เศษ จากทั้งหมด 30 ไร่ บางจุดมีการขุดลึก 5-7 เมตร และหลายจุดมีการขุดลึกลงไปมากกว่า 10 เมตร ทำให้เป็นบ่อขนาดใหญ่ เบื้องต้นเป็นการลักลอบขุดทำมานานแล้ว และคาดว่าดินและหินลูกรังที่ถูกขุดลักลอบนำออกไปน่าจะนำไปสร้างถนน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดคาดว่าความเสียหายน่าจะอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มนายทุนรับเหมาในพื้นที่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทาง กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตรวจสอบ พร้อมเร่งขยายผลหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายตามนโยบายของรัฐบาล นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ตลอดจนนโยบายของนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพราะถือเป็นการขโมยดิน ซึ่งเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินไปสร้างประโยชน์ให้กับตนเอง
