‘วรกร’ ขู่ฟ้องพศ.157 ไม่ดำเนินคดีข้าราชการ(คลิป)

เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 12 มิถุนายน ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม  นายวรกร พงศ์ธนากุล ประธานเครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา เดินทางมายื่นหนังสือเครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา เรื่องขอตรวจสอบเลขที่หนังสือ ที่พศ. 0001/06036 ฉบับลงวันที่ 8 มิถุนายน 2561 และขอทราบกฎหมายที่ให้อำนาจสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการขอข้อมูลวัดที่มีการวางระบบเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัด ต่อผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งอ้างถึงหนังสือที่พศ.0001/06036  ฉบับลงวันที่ 8 มิถุนายน 2561

ตามที่ได้ประกาศหนังสือดังกล่าว เรื่องขอทราบกฎหมายที่ให้อำนาจสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในการขอข้อมูลวัดที่มีการวางระบบเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัด ซึ่งเป็นคำสั่งของสำนักงานพระพุทธศาสนาชาติให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดดำเนินการสำรวจข้อมูลโดยด่วน. หากพบว่าวัดใดในพื้นที่ของแต่ละจังหวัดมีการดำเนินการวางระบบเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัดกรณีที่พระภิกษุสงฆ์ไม่ต้องถือเงินสดแต่จะนำเงินเข้าบัญชีส่วนกลางของวัดทันทีเมื่อได้รับ โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขอให้ทำการสัมภาษณ์เกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการดำเนินการโดยให้บันทึกเป็นวิดีโอพร้อมสรุปข้อมูล ข้อมูลขั้นตอนและวิธีการดำเนินการและส่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติผ่านทางโทรสารหรือทางอีเมล ภายในวันที่ 11 มิถุนายน 2561 ทั้งนี้หากสำนักงานพระพุทธพระศาสนาจังหวัดดำเนินการสำรวจทั้งพื้นที่แล้วไม่ปรากฏว่ามีวัดที่ดำเนินการดังกล่าวขอให้มีหนังสือแจ้งให้ทราบด้วยนั้น

ดังนั้นข้าพเจ้าเครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนาจึงมีความประสงค์ขอตรวจสอบเลขที่ส่งหนังสือที่พศ.0001/06036  ฉบับลงวันที่ 8 มิถุนายน 2561 ว่ามีการออกหนังสือฉบับดังกล่าวจริงหรือไม่และขอทราบกฎหมายที่ให้อำนาจสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในการขอข้อมูลวัดที่มีการวางระบบเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัดดังกล่าวด้วยโดยอาศัยพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารพ.ศ. 2540

มีนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม รองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มารับหนังสือดังกล่าว จากนายวรกร พงศ์ธนากุล ประธานเครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา แทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  และกล่าวว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ออกหนังสือที่ พศ. 0001/06036  ฉบับลงวันที่ 8 มิถุนายน 2561 จริง โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีวัตถุประสงค์เพื่อขอทราบ แนวทางปฏิบัติได้จริง ตามหลักการคือภิกษุสงฆ์มาถือเงินแต่ผ่านบัญชีส่วนกลางเพื่อให้วัดที่ยังไม่ได้ดำเนินการนำไปพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสมสอดคล้องกับวัดนั้นและปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของการบังคับ เป็นแต่เพียงว่าต้องการหาวัดตัวอย่างถ้าจังหวัดใดมีวัดตัวอย่างลักษณะแบบนี้ก็รายงานเข้ามาถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะเราต้องการให้วัดต่างๆเอาไปเป็นตัวอย่าง ก็จะให้การบริหารจัดการในวัดมีประสิทธิภาพ ตามที่ได้แถลงไปแล้วเมื่อวานนี้ ( 11 มิถุนายน2561)

นายวรกร พงศ์ธนากุล ถามว่าต้องการทราบผลการยื่นหนังสือ นายสิปป์บวร กล่าวเพียงว่าทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะตอบด้วยเอกสาร ตามระบบราชการ ไม่สามารถกำหนดเวลาได้ว่ากี่วัน แต่จะทำตามขั้นตอนให้เร็วที่สุด

ADVERTISMENT

นายวรกร พงศ์ธนากุล กล่าวหลังยื่นหนังสือ ว่า  พศ.ไม่ขอชี้แจงอะไรทั้งสิ้น การออกหนังสือห้ามพระถือเงินสดต้องเอาเข้าบัญชีกลางวัด ไม่ชี้แจง และถามหาข้อกฎหมาย ว่าเอากฎหมายอะไรมา เพราะพศ.มีหน้าที่สนับสนุนให้การดูแลให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ไม่ใช่เป็นผู้บังคับบัญชา สั่งการพระตามวัดต่างๆ

“ท่านมีอำนาจอะไรในการออกหนังสือฉบับนี้ ถ้าท่านไม่มี อำนาจ พรุ่งนี้ผมจะไปร้องกองปราบว่าท่านกระทำความผิดฐานมาตรา157 และการที่ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติออกไปร้องพระ แจ้งจับพระ ผมยังไม่เห็นมีการแจ้งจับข้าราชการบางคนที่ไปรับเงินจากพระแล้วยังไม่ถูกดำเนินคดี ดังนั้น อยากเห็น ว่า ผอ.สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงเหตุผลการไม่แจ้งความดำเนินคดีข้าราชการที่รับเงินจากพระ  ว่ามีใครบ้าง พระเป็นเพียงปลายทาง สิ่งที่ข้าราชการบางคนไปทำ แล้วไปหลอกพระว่าจะเอาเงินเหล่านี้ไปช่วยวัด ข้าราชการคนนั้นถือว่าฉ้อโกงเงินพระ เพราะเงินนั้นเป็นเงินของพระของวัด ถ้าไปหลอกลวงมาแบบนี้ถือว่า ”ฉ้อโกง” ไปเบียดเบียนทุจริตต่อหน้าที่ เอาเงินของหลวงไปให้อีก ถือว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ 157 ก็เข้าข่าย แต่ทำไมยังไม่มีการดำเนินคดีกับข้าราชการ จริงๆ  พระ ต้องกันไว้เป็นพยาน ไม่ใช่ให้พระไปเป็นจำเลย แล้วยังไม่ดำเนินคดีกับคนที่เอาเงินไป วันนี้จึงมาขอคำชี้แจงจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าทำไมยังไม่แจ้งความดำเนินคดีกับข้าราชการสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติที่มีชื่อออกมาแล้ว มีทั้งหลักฐานการโอนเงิน เมื่อไหร่จะแจ้งความ” นายวรกร กล่าว

นายวรกร กล่าวอีกว่า  ในวันพรุ่งนี้ (13 มิถุนายน 2561)เครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา จะไปยื่นหนังสือกล่าวโทษเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ที่ได้รับเงินทอนจากพระภิกษุสงฆ์ในกรณีเงินอุดหนุนจากวำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคน ต่อผู้บังคับการกองปราบปราม “