เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่โรงแรมเคอาร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนางสาวจิรัชญา ขอบกิ่ง อายุ 35 ปี ผู้ใหญ่บ้านวังโรงน้อย หมู่ 4 ต.กฤษณา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งในพลเมืองดี ที่เข้าไปช่วยอุ้มเด็กชายวัย 2 ขวบ ออกมาจากรถเก๋งที่เกิดอุบัติเหตุและไฟไหม้ทั้งคัน บนถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ทราบข่าวและประกาศตามหาตัวเพื่อที่จะมอบโล่ให้เป็นขวัญกำลังใจ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม
ซึ่งวันนี้ (14 มิ.ย.) นางสาวจิรัชญา ได้นำกลุ่มแม่บ้านในหมู่บ้านวังโรงน้อย จำนวน 10 คน มาร่วมกิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่ทางสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมาจัดขึ้น พร้อมกับเปิดเผยถึงความรู้สึกว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่านายกรัฐมนตรี ประกาศตามหาตัวพลเมืองดีที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุรถเก๋งไฟไหม้ ซึ่งมีตนเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ก็รู้สึกตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก
ทั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์วันนั้น ตนเองพร้อมกับสามีได้ขับรถเดินทางจะเข้ามาทำธุระในตัวเมืองนครราชสีมา บังเอิญพบอุบัติเหตุขึ้น จึงได้จอดรถวิ่งเข้าไปช่วยอุ้มเด็กชายวัย 2 ขวบ ที่กระเด็นออกมาจากรถเก๋งมานั่งอยู่บริเวณเกาะกลางถนน ขณะนั้นก็ได้ยินแม่ของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บร้องให้ช่วยเด็กอีกคนที่ติดอยู่ในรถ ซึ่งกำลังไฟไหม้ ก็เห็นชายหนึ่งคนวิ่งเข้าไปอุ้มเด็กหญิงวัย 1 ขวบออกมาจากรถทัน ก่อนที่รถจะไฟลุกไหม้ทั้งคัน โดยตนก็ได้นั่งอุ้มเด็กไปกับรถกู้ภัย เพื่อไปส่งที่โรงพยาบาลสีคิ้วด้วย ส่วนสามีก็ขับรถตามหลัง จนกระทั่งส่งเด็กถึงมือแพทย์จึงได้พากันกลับบ้าน
ทั้งนี้ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (13 มิ.ย. 61) ก็ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์มาบอกว่า นายกรัฐมนตรีอยากพบตัว โดยได้นัดให้ตนเองเดินทางไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเช้าวันอังคารที่ 19 มิถุนายน โดยจะต้องเดินทางไปก่อนล่วงหน้า 1 วัน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่จัดห้องพักรับรองไว้ให้ เมื่อวางโทรศัพท์ลงตนเองก็รู้สึกตื่นเต้นจนนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะไม่เคยเข้าพบผู้หลักผู้ใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย ส่วนการเข้าพบนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูล และถือว่าเป็นขวัญกำลังใจให้กับตนเองได้มุ่งมั่นทำความดีต่อไป
นอกจากนี้ ถ้าหากมีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ก็อยากจะพูดในฐานะเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยด้วย ว่าตอนนี้มีเกษตรกรชาวไร่อ้อยกำลังเดือดร้อน เพราะโรงงานต่างๆ ปิดหีบห้อยกันหมดแล้ว ทำให้ตัดอ้อยส่งโรงงานไม่ทัน ตนเองก็เป็นหนึ่งในเกษตรกรที่เปลี่ยนพื้นที่นาปลูกข้าว จำนวน 60 ไร่ มาปลูกอ้อยแทน ตามนโยบายของรัฐบาล แต่ตอนนี้ยังเหลืออ้อยอีกกว่า 20 ไร่ที่ตัดส่งโรงงานไม่ทัน จึงอยากขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในครั้งนี้ด้วย นางสาวจิรัชญากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทางประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา ได้ติดตามรวบรวมรายชื่อจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ขณะเกิดเหตุ จนทราบตัวพลเมืองดีแล้ว มีจำนวนทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย
1.นายประสิทธิ์ สาราบรรณ พขร.ขับรถ บ.ซันกิควอลิตี้โปรดัคส์ จ.สมุทรปราการ (ช่วยดึงเด็กหญิงออกมาจากรถ)
2.นายอุดมเดช ประเสริฐชัยโชคดี เข้าไปช่วยดึงแม่เด็กที่คลานอยู่ใกล้ตัวรถ และเป็นคนถ่ายคลิปวิดีโอ
3.นางสาวจิรัชญา ขอบกิ่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ตำบลกฤษณา อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นคนช่วยดึงเด็กชายออกมาจากรถ
4.นายวิจิตร สืบสาย พนักงานโรงงาน บริษัท โคราชออโต้โปรดักส์ จำกัด อำเภอสีคิ้ว
5.นายจักรพันธุ์ จักรแก้ว ช่างบริการเครื่องจักรกลหนัก บ.อริยะ อิควิปเม้นท์ ขับรถ มาเจอเหตุ (ช่วยดับไฟ+ช่วยดึงผู้ชายออกมาจากรถ)
6.นายวัชรินทร์ เลื่อยเป็น (ช่วยผู้หญิงที่ขาหัก) ช่วยผู้ชายคนขับที่ติดในรถ
7.นายอมรเทพ มีมาก (น.ศ.ฝึกงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (นครราชสีมา) ช่วยดับไฟ
8.นายบวรพงศ์ พรมห์บุตร (น.ศ.ฝึกงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (นครราชสีมา) ช่วยดึงผู้หญิงออกมาจากเปลวเพลิง
โดยรายชื่อพลเมืองดีทั้ง 8 คน ได้ถูกส่งรายงานไปยังกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อรายงานต่อไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีให้รับทราบต่อไป
