นับแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงดำรงตำแหน่งพระบรมราชูปถัมภก สภากาชาดไทย พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์แก่ราษฎรผู้ตกทุกข์ได้ยากอย่างไม่แบ่งแยกชนชั้น วรรณะ
โดยเฉพาะโครงการ “เรือพระราชทานเวชพาหน์” ที่เกิดจากสายพระเนตรอันกว้างไกล และพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อราษฎรที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ โดยเห็นว่าในหลายตำบลยังไม่มีทางหลวงเชื่อมต่อจังหวัด การเดินทางทางน้ำก็ห่างไกลจากโรงพยาบาลประจำจังหวัดมาก จึงหันไปรักษาแผนโบราณแทน ทำให้ไม่ค่อยได้ผลในโรคหลายอย่าง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้บริษัท อู่เรือกรุงเทพฯ จำกัด ต่อเรือยนต์ขึ้นด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อให้สภากาชาดไทยใช้เป็นหน่วยแพทย์เคลื่อนที่รักษาพยาบาลทางน้ำ โดยพระราชทานชื่อว่า “เวชพาหน์” และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีพระราชทานเรือ เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2498 เวลา 12.00 น. ณ ท่าวาสุกรี กรุงเทพมหานคร โดยออกปฏิบัติงานครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มกราคม-17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2498 ที่จังหวัดนนทบุรี
ตราบจนปัจจุบันเป็นเวลาถึง 63 ปี ที่สภากาชาดไทย โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ ได้สานต่อพระราชปณิธานนำเรือพระราชทานเวชพาหน์ออกปฏิบัติงานให้บริการตรวจรักษาประชาชนตามพระราชประสงค์ทุกประการ ดังข้อความที่เขียนติดไว้ด้านข้างเรือ ความว่า
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเรือลำนี้ เมื่อ พ.ศ.2498 เพื่อใช้บรรเทาทุกข์และรักษาประชาชน โดยไม่คิดมูลค่าใดๆ ทั้งสิ้น”
โดยปีนี้ ได้ทำพิธีปล่อยเรือพระราชทานเวชพาหน์ ครั้งที่ 153 เมื่อวันที่ 26 กันยายน ณ ท่าวาสุกรี และได้ออกปฏิบัติการตรวจรักษาโรคทั่วไป การฝังเข็มประยุกต์ ตรวจรักษาทางทันตกรรม รวมทั้งให้ความรู้ด้านสุขศึกษา การป้องกันโรค และมอบชุดของขวัญแก่ประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
แพทย์หญิงวรางคณา ทองคำใส ประธานโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เรือพระราชทานเวชพาหน์ สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า เวลาออกให้บริการจะมีชาวบ้านมารับบริการจำนวนมาก จนบางครั้งคนไข้อาจจะต้องรอนานๆ แต่เท่าที่เห็นส่วนใหญ่คือ พอคนไข้รู้ว่าเรือลำนี้เป็นเรือที่พระราชทานมาจากความห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ ชาวบ้านก็ออกมารอกันแต่เช้า และยินดีรอเพื่อที่จะได้รับการบริการรักษาจากเรือพระราชทานเวชพาหน์ลำนี้

ยายละเอียด แย้มสูงเนิน อายุ 78 ปี ผู้มารับบริการ เปิดเผยว่า รู้ข่าวจากผู้ใหญ่บ้านว่าเรือของสภากาชาดไทยจะมาที่วัดสีกุก ก็ตั้งใจมาให้ได้ วันนี้ได้มีโอกาสมารับชุดของขวัญ ได้ตรวจโรคทั่วไป ได้รับยารักษาก็รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้รับของจากสภากาชาดไทย แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับชุดของขวัญก็จะมาดูเรือ อยากมาเห็นเรือของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะคิดถึงพระองค์