ทูตออสเตรเลีย เล่าความประทับใจสารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ ‘ในหลวง’ เผย ‘ภาพหาชมยาก’ ขณะทรงศึกษาวิทยาลัยดันทรูน
ตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทอดพระเนตรวีดิทัศน์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงศึกษาในเครือรัฐออสเตรเลีย ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นั้น
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ฯพณฯ นายอัลลัน แมคคินนอน เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย กล่าวในการนำสื่อมวลชนชมวีดิทัศน์เฉลิมพระเกียรติและนิทรรศการพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนเครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อปีพ.ศ.2505 และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงศึกษาในเครือรัฐออสเตรเลีย ระหว่างพ.ศ.2513-2519 ซึ่งมีสื่อมวลชนจากหลายสำนักเข้าร่วมทำข่าว ว่า สืบเนื่องจาก ปีพ.ศ.2561 เจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ได้ค้นพบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงศึกษาในเครือรัฐออสเตรเลียส่วนหนึ่ง และคิดว่าน่าจะขยายทำสารคดีได้
จึงไปค้นหาต่อที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย ได้พบวีดิทัศน์และพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในงานเลี้ยงต้อนรับ ครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนเครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อปีพ.ศ.2505 พร้อมวีดิทัศน์และพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงศึกษาระดับเตรียมทหาร ณ คิงส์สกูล เขตพารามัตตา นครซิดนีย์ และวิทยาลัยการทหารชั้นสูง ที่วิทยาลัยการทหารดันทรูน กรุงแคนเบอร์รา ซึ่งไม่เคยเผยแพร่ต่อสาธารณะมาก่อน ทั้งในประเทศออสเตรเลียและประเทศไทย




นายอัลลันกล่าวอีกว่า สถานทูตคิดว่านี่จะเป็นผลงานสำคัญที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น จึงเริ่มทำสารคดีตั้งแต่ปี 2561 โดยนำเสนอวีดิทัศน์และพระบรมฉายาลักษณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว พร้อมสัมภาษณ์พระสหายร่วมชั้นเรียน เช่น พล.อ.เดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการฯ คนปัจจุบัน, พล.อ.เซอร์ ปีเตอร์ คอสโกรฟ อดีตผู้สำเร็จราชการฯ บอกเล่าเหตุการณ์ขณะทรงศึกษา โดยเป็นสารคดีความยาวประมาณ 18 นาที ที่ได้ปรึกษาสำนักพระราชวัง และกระทรวงการต่างประเทศของไทยแล้ว
ทั้งนี้ ตอนแรกทำเป็นภาคภาษาไทย แต่ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทอดพระเนตรก่อนหน้านี้ ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยให้ทำเป็นภาคภาษาอังกฤษด้วย อาจเพราะทรงอยากฟังเสียงต้นฉบับพระสหายและบรรยากาศจริงในวีดิทัศน์ จึงได้จัดทำเป็นฉบับภาษาอังกฤษด้วย และฉายในพิธีที่พระองค์ พร้อม พระราชินี เสด็จฯ ทอดพระเนตร เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ด้วย
“หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตร ผมได้กราบบังคมทูลฯ ว่าตัวผมเองได้ดูสารคดีนี้มา 10 กว่าครั้งแล้ว พระองค์รับสั่งกลับมาว่า ทรงทอดพระเนตรสารคดีนี้มาหลายครั้งแล้วเช่นกัน แสดงว่าพระองค์ทรงพึงพอใจ และเป็นสิ่งที่ผมยังจำขึ้นใจตอนเข้าเฝ้าฯ ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง พระองค์ตรัสว่า รักออสเตรเลีย ส่วนตัวคิดว่านี่จึงเป็นเหตุผลที่พระองค์และพระราชินีเสด็จฯ มา” นายอัลลันกล่าวด้วยน้ำเสียงประทับใจ











สำหรับวีดิทัศน์เฉลิมพระเกียรติฯ จะฉายหลังข่าวพระราชสำนัก แบ่งเป็น 3 ตอนคือ
1.ช่วงที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยือนเครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อปีพ.ศ.2505 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงศึกษาในเครือรัฐออสเตรเลีย
2.ช่วงที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมุ่งมั่นตั้งใจศึกษาในวิทยาลัยการทหารดันทรูน
และ3.ช่วงที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสำเร็จการศึกษา วิทยาลัยการทหารดันทรูน และอนาคตความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ตอนละ 6-8 นาที เริ่มวันที่ 16, 17 และ 18 กุมภาพันธ์ และสื่อมวลชนต่างๆ ส่วนพระบรมฉายาลักษณ์ จะเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ต่อไป