ในหลวง พระราชินี มีพระราชดำรัสแก่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด-ผู้พิพากษา ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ
เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าฯ ตามลำดับดังนี้
นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาล เฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ การนี้ พระราชทานพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า การที่ท่านจะอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยวิจารณญาณอันถูกต้องแท้จริง วิจารณญาณดังกล่าวสร้างสมขึ้นจากความรู้ในตัวบทกฎหมาย ประสบการณ์ชีวิต และการทำงาน ใจที่ยึดมั่นในคุณธรรม ความสุจริต พร้อมทั้งปัญญารู้แจ้งชัดในเหตุและผล หากผู้พิพากษาประจำศาลทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยวิจารณญาณอันเที่ยงตรงอยู่เสมอแล้ว ก็จะมั่นใจได้ว่าจะสามารถรักษาคำปฏิญาณที่จะให้ประชาชนได้รับประโยชน์สุขจากการทำหน้าที่ของท่านได้ตลอดไป
เวลาต่อมา นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ประธานศาลปกครองสูงสุด นำ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายสมชาย กิจสนาโยธิน นายบรรยาย นาคยศ และ พล.ท.สุรพงศ์ เปรมบัญญัติ เฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ การนี้ พระราชทานพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า ทุกท่านถือได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ มีเกียรติประวัติในการปฏิบัติงานมาด้วยดี คงจะทราบดีอยู่แล้วว่างานของท่านนั้นนอกจากต้องอาศัยความรู้ทั้งในตัวบทกฎหมาย ในวิชาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเหตุผลข้อเท็จจริงของคดีอย่างรอบคอบ รอบด้านแล้ว ยังต้องมีศีลธรรมเป็นพื้นฐานสำคัญด้วย
ทั้งนี้ เพราะศีลธรรมจะเป็นเครื่องกำกับและเกื้อกูลการประพฤติปฏิบัติ ตลอดจนการพิจารณาตัดสินใจให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานของท่านสามารถอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง เกียรติและศักดิ์ศรีของท่านก็จะยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ในฐานะที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อันสำคัญนี้ให้บังเกิดผลเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
– ในหลวง พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ตุลาการศาลปกครองสูงสุด-ผู้พิพากษา เฝ้าฯ