กองทุนอนุรักษ์อัดงบ 2.7 พันล้าน เปิดรับโครงการ 19 มิ.ย.นี้

กองทุนอนุรักษ์อัดงบ 2.7 พันล้าน เปิดรับโครงการ 19 มิ.ย.นี้

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ครั้งที่ 2/2568 (ครั้งที่ 101) ว่า วาระสำคัญ ได้แก่ การพิจารณาร่างประกาศเปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อรับคำขอรับการสนับสนุนเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติ

1. เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการเปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อรับคำขอรับการสนับสนุนเงินกองทุน
เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ดังนี้

ตามมาตรา 25 (1) วงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้หน่วยงานราชการลงทุน
และดำเนินการด้านการลดการใช้พลังงาน และดำเนินการด้านการอนุรักษ์พลังงานด้วยบริษัทจัดการพลังงาน (Energy Service Company : ESCO) ในหน่วยงานราชการ (ในรูปแบบ co-pay ไม่เกินร้อยละ 50) รวมถึงการสนับสนุนและส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หรือการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกในพื้นที่พิเศษ ตามมาตรา 25 (3) วงเงิน 2,250 ล้านบาท สนับสนุนส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา หรือองค์กรเอกชน เพื่อดำเนินการดังนี้

(1) โครงการทางด้านการอนุรักษ์พลังงาน (วงเงิน 1,000 ล้านบาท) ได้แก่
• การสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพลังงาน
• การกำกับ ดูแล หรือบังคับใช้ภายใต้ข้อกฎหมาย และส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
หรือพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ให้แก่ อาคาร/โรงงานควบคุม (ในรูปแบบ co-pay ไม่เกินร้อยละ 20) อาคาร/โรงงานนอกข่ายควบคุม ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่
และกลุ่มธุรกิจการขนส่ง (ในรูปแบบ co-pay ไม่เกินร้อยละ 30) ทั้งนี้จะสนับสนุนรายละ
ไม่เกิน 3 ล้านบาท
• การสนับสนุนและส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หรือการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ให้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร(ในรูปแบบ co-pay ไม่เกินร้อยละ 50) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
และประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย (สนับสนุนเงินอุดหนุนดอกเบี้ยเงินกู้
หรือสินเชื่อสำหรับการลงทุนและดำเนินงานในการอนุรักษ์พลังงาน) และจะสนับสนุน
ตามค่าใช้จ่ายจริงสำหรับโรงพยาบาลของรัฐ โรงเรียนและศาสนสถานในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารที่สายไฟฟ้าเข้าไม่ถึง/ไม่มีไฟฟ้า หรือไฟฟ้าไม่เพียงพอ และประชาชนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารที่สายไฟฟ้าเข้าไม่ถึง/ไม่มีไฟฟ้า

(2) การค้นคว้า วิจัย (วงเงิน 400 ล้านบาท) ได้แก่ การวิจัยตามภารกิจของกระทรวงพลังงาน
การวิจัยเพื่อสร้างงานต้นแบบ (Prototype) หรือนวัตกรรม การวิจัยเชิงนโยบาย การวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการอนุรักษ์พลังงานในระดับชุมชน

ADVERTISMENT

(3) โครงการสาธิต หรือโครงการริเริ่มที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน (วงเงิน 400 ล้านบาท) ได้แก่ การสาธิตที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานตามภารกิจของกระทรวงพลังงาน การสาธิตที่ยังไม่เคยนำไปดำเนินการ หรือยังไม่มีผลลัพธ์เชิงประจักษ์อย่างชัดเจน มีลักษณะสาธิตในพื้นที่เฉพาะ มีศักยภาพที่แตกต่างกันมีลักษณะการบริหารจัดการในสังคมที่แตกต่างกัน และยังไม่เคยดำเนินการในพื้นที่นั้นมาก่อน

(4) การศึกษา การฝึกอบรม และการประชุมเกี่ยวกับพลังงาน (วงเงิน 225 ล้านบาท) ได้แก่
การพัฒนาบุคลากร เครือข่ายพลังงาน การพัฒนาหลักสูตร การจัดประชุมสัมมนาด้านวิชาการเกี่ยวกับพลังงาน การให้ทุนการศึกษาแก่บุคลากรของส่วนราชการและสถาบันการศึกษา
ในการศึกษาต่อในประเทศและต่างประเทศ การให้ทุนอุดหนุนการวิจัยสำหรับนักศึกษา การพัฒนาวิทยาลัยพลังงานแห่งชาติของกระทรวงพลังงาน

(5) การโฆษณา การเผยแพร่ข้อมูล และการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการพัฒนาการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (วงเงิน 225 ล้านบาท) ได้แก่ กิจกรรมเผยแพร่นโยบาย มาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพ หรือผลงานโครงการที่เกี่ยวกับด้านพลังงาน กิจกรรมสร้างความรู้ ความเข้าใจปลูกจิตสำนึก และสร้างความตระหนักเรื่องการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การผลิต
และการใช้พลังงานทดแทน กิจกรรมเผยแพร่การผลิตและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีด้านพลังงานที่ประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ การสนับสนุนตามมาตรา 25 (2) เพื่อเป็นเงินหมุนเวียน เงินช่วยเหลือ หรือเงินอุดหนุนแก่เอกชน สำหรับการลงทุนและดำเนินงานในการอนุรักษ์พลังงาน อยู่ระหว่างการจัดทำระเบียบเพื่อรองรับการสนับสนุนเงินให้แก่เอกชนโดยตรง

2. เห็นชอบให้เปิดรับข้อเสนอโครงการตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2568 รวมระยะเวลาการเปิดรับข้อเสนอ 2 เดือน ทั้งนี้ในการสนับสนุนโครงการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้ความสำคัญกับโครงการที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นโครงการที่ดำเนินการในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร หรือพื้นที่สาธารณะประโยชน์กับประชาชนเป็นส่วนใหญ่