นายทินกร นำบุญจิตต์ รองหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ในกีฬาซีเกมส์ 2019 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ทัพนักกีฬาไทยนับ 100 ชีวิต ทั้งทีมกรีฑา และทีมกระโดดน้ำ ได้เดินทางจากประเทศไทยมาถึงกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์แล้ว โดยเดินทางมาถึงในช่วงเวลา 02.00 น. ก่อนจะนั่งรถบัสออกจากสนามบิน เดินทางต่อไปยังสนามแข่งขัน ที่เมืองคลาร์ก ซิตี้ ต่อทันที ซึ่งตนยังได้รับแจ้งมาอีกว่า ทีมกรีฑาไทยได้ลงซ้อมปรับตัวทันที เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา
นายทินกร กล่าวอีกว่า ในส่วนทีมกีฬาไทย ที่ตกค้างไม่ได้กลับบ้านทั้ง ทีมบาสเกตบอล 3 คน, คูราช และเนตบอล รวมกว่า 40 ชีวิต ได้กำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 4 ธันวาคม หลังเมื่อวานก่อนก่อนทั้ง 3 ทีมกีฬา ชวดเดินทางกลับ หลังถูกอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “คัมมูริ” ที่พัดกระหน่ำเข้าสู่พื้นที่ต่างๆทั่วประเทศฟิลิปปินส์ เล่นงาน จนทำให้ฟิลิปปินส์ประกาศปิดสนามบิน และยกเลิกไฟลท์บิน ส่งผลกระทบให้คณะนักกีฬาไทยไม่สามารถเดินทางกลับได้ในวันที่ 3 ธันวาควตามกำหนดเดิม
รองหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงแรกของกีฬาซีเกมส์ 2019 ผลงานของทัพนักกีฬาไทยในซีเกมส์ 2019 อาจยังไม่กระเตื้อง เพราะชนิดกีฬาหลักที่เป็นความหวัง อาทิ กรีฑา, มวยสากล กีฬาเรือต่างๆ และอีกหลายๆ ประเภทของเรา ยังไม่ได้ลงชิงชัยทำการแข่งขัน ดังนั้นก็เชื่อว่าอีก 1 สัปดาห์ที่เหลือ เราจะสามารถขยับคว้าเหรียญรางวัลเพิ่มได้อีกหลายเหรียญอย่างแน่นอน
“ส่วนฟิลิปปินส์ที่นำโด่งเป็นจ่าฝูงเหรียญรางวัลรวม คว้าทะลุ 40 เหรียญทองไปแล้ว แม้แข่งขันมาแค่ 3 วัน นับเป็นงานยากแล้วที่เราจะไล่แซง ดังนั้นเราขอโฟกัสในการขยับทำเหรียญทอง เพื่อบี้กับอินโดนีเซีย, มาเลเซีย และเวียดนาม 3 ชาติซึ่งดูแล้วมีแนวโน้มว่าจะขยับคว้าเหรียญทองอย่างต่อเนื่องแข่งกับเราไปจนถึงวันสุดท้าย” นายทินกร กล่าว
