ควันหลงหลังจากที่ทัพ “ชบาแก้ว” ทีมฟุตบอลหญิง ทีมชาติไทย พลาดเหรียญทองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน หลังแพ้ให้กับ เวียดนาม 0-1 ในการต่อเวลาพิเศษ ในเกมนัดชิงชนะเลิศ เมื่อค่ำวันที่ 8 ธันวาคม
หลังแข่ง “โค้ชก้าง” นฤพน แก่นสน กุนซือใหญ่ชบาแก้ว กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ ไม่ได้คาดหวังว่าจะมาแพ้ พยายามปิดเกมใน 90 นาทีให้ได้ แต่ทำไม่ได้ แล้วโดนลงโทษ นักเตะชุดนี้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่าย มีหน้าใหม่ค่อนข้างเยอะ ต้องใช้เวลา นักเตะรุ่นพี่มีดี แต่สมรรถภาพร่างกายเริ่มลดลงตามวัย ขณะที่รุ่นน้องสมรรถภาพดี แต่ขาดประสบการณ์
สำหรับโปรแกรมต่อไปทีมไทย จะแข่งขันคัดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ร่วมกลุ่ม ออสเตรเลีย, จีน, ไต้หวัน คัดที่ 1-2 ไปเพลย์ออฟกับอีกกลุ่ม หา 2 ทีมไปโอลิมปิกเกมส์ที่ญี่ปุ่น
โค้ชก้าง ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมทีมว่า เบื้องต้นเขียนแผนงานส่งให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยแล้ว ต้องมีแผนระยะสั้น กลาง ยาว เรื่องการเก็บตัวต้องไปสภาพอากาศเหมือนจริงที่สุด
ขณะที่ในส่วนของทีมฟุตบอลหญิง เป็นที่น่าจับตาว่า บรรดานักเตะรุ่นเก๋า จะยังเดินหน้าเล่นให้ทีมชาติต่อหรือไม่ เนื่องจากหลายคนอายุเริ่มมากขึ้น
กรณีนี้ผู้สื่อข่าวสอบถาม “ปุ๋ย” พิสมัย สอนไสย์ ดีกรีนักเตะยอดเยี่ยมอาเซียน กล่าวว่า เพื่อนๆ ไม่มีใครจะเลิกทีมชาติไปเลย แต่อาจพักรักษาร่างกาย หลังกรำศึกหนักมา บางคนบาดเจ็บติดตัว ก็อยากไปรักษาให้หายขาด มีน้องๆ ดาวรุ่งทดแทนอยู่ ขณะที่ส่วนตัวแล้วในศึกคัดโอลิมปิกยังไม่แน่ว่าจะเล่นหรือไม่ ต้องขอดูสภาพร่างกายเช่นกันเพราะศึกหนักมาตลอดทั้งปี แต่ยืนยันยังไม่เลิกทีมชาติแน่
“แนนซี่” สุนิสา สร้างไธสง แบ๊กซ้าย ซึ่งซีเกมส์หนนี้ไม่ค่อยได้โอกาสนัก กล่าวว่า นักเตะรุ่นเดียวกัน จริงๆแล้วไม่มีใครคิดจะเลิก รู้ดีว่ามีศักยภาพแค่ไหน และส่วนตัวก็ไม่คิดจะเลิก ยังพยายามสู้ต่อไป ขณะที่ “เนตร” กาญจนา สังข์เงิน แนวรุกความเร็วสูง กล่าวว่า อนาคตตัวเองก็ไม่แน่เหมือนกัน ขอดูสภาพร่างกาย ถ้าช่วยได้ก็อยากช่วยทีมชาติต่อ แต่ขอกลับไปดูตัวเอง ถ้าเหนื่อยแล้วก็อาจจะพอ
นอกจากนี้ “ไหม” ธนีกานต์ แดงดา กล่าวว่า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในไทยควรมีลีกหญิงที่ดี หรือทัวร์นาเมนท์ ให้นักเตะลงเล่นบ่อยๆ จะมีประสบการณ์เกมกดดัน ไม่เหมือนซ้อมทีมชาติที่ซ้อมกับเพื่อน ไม่เจอสถานการณ์กดดันจริงๆ
