การแข่งขันบาสเกตบอล ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2019 ครั้งที่ 30 ที่สนามเอสเอ็ม มอลล์ ออฟ เอเชีย อารีน่า กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย ชิงชัย 2 เหรียญทอง จากประเภททีมหญิง และทีมชาย
เริ่มต้นจากทีมหญิง ซึ่งมี 4 ทีมเข้าร่วม ประกอบด้วย ไทย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย แข่งขันระบบพบกันหมด ทีมที่มีคะแนนมากที่สุดได้แชมป์ไปครอง
การแข่งขันในนัดสุดท้าย ทีมยัดห่วงสาวไทย ที่ชนะมา 2 นัดก่อนหน้านี้ ลงสนามพบ ฟิลิปปินส์ ที่ชนะมา 2 นัดเช่นกัน โดยผลปรากฏว่า ทีมไทย ต้านความแข็งแกร่งไม่ไหว แพ้ไป 71-91 ได้เพียงเหรียญเงิน ส่วนฟิลิปปินส์ ได้เหรียญทอง
“เฮียต่าย” นายนิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลเเห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนต้องขอโทษด้วยที่ทีมบาสเกตบอลหญิงไทยไม่สามารถเอาชนะฟิลิปปินส์ในเกมนี้ เเละคว้าเหรียญทองกลับไปฝากเเฟนๆกีฬาชาวไทยได้ เเต่ขอยืนยันว่าเด็กๆ ทุกคนทำหน้าที่กันอย่างสุดความสามารถเเล้ว ซึ่งด้วยองค์ประกอบเเละปัจจัยต่างๆ ก็ต้องยอมรับว่าเราเเพ้พวกเขาจริงๆ
เฮียต่าย กล่าวอีกว่า เกมนี้กรรมการมีผลเยอะมากกับรูปเกม แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่า ฟิลิปปินส์ เล่นได้ยอดเยี่ยม แก้เกมมาดี ขณะที่ผู้เล่นเราก็ผิดฟอร์มหลายคน ไม่ขอแก้ตัว ตนรับผิดชอบอยู่แล้วต่อผลงานที่เกิดขึ้น ซึ่งจุดที่คนไทยไม่ทราบ และไม่ได้เป็นข่าวออกไปก่อนหน้านี้คือตัวเก่งๆของเราหลายคน บาดเจ็บ ทำให้ฟอร์มโดยรวมออกมาไม่ดี
“ถึงแม้เราจะได้ ทิฟฟานี ไบแอส ลูกครึ่งไทย-อเมริกา มาช่วย แต่ก็โดนล็อกตาย ทำอะไรได้ไม่ถนัด นอกจากนี้ เจ้าภาพยังทำทุกอย่าง ทั้งในเรื่องโปรแกรมการแข่งขัน และเรื่องนอกสนามอื่นๆ แม้วันนี้เราจะยอมรับว่าแพ้เขาจริงๆ แต่ด้วยองค์ประกอบอื่นๆแล้ว ผลที่ออกมาไม่น่าขาดขนาดนี้ ขอโทษแฟนชาวไทยด้วย แต่บอกเลยว่าเราไม่เคยกลัวใคร หากไม่ได้เป็นเจ้าภาพ” เฮียต่าย กล่าว
ขณะที่ทีมบาสเกตบอลชาย รอบชิงชนะเลิศ ทัพแม่นหนุ่มห่วงไทย พ่ายเจ้าภาพ ฟิลิปปินส์ 81-115 ทำให้ทีมบาสหนุ่มไทยคว้าได้เพียงเหรียญเงินไปครองเช่นกัน
ด้านผลการแข่งขันฮอกกี้ในร่ม ทีมหญิง รอบชิงชนะเลิศ ไทย แพ้ มาเลเซีย 1-3 ได้เพียงเหรียญเงิน เช่นเดียวกับ ทีมชายไทย รอบชิงชนะเลิศ ไทย พ่ายให้กับ มาเลเซีย 1-3 ได้เหรียญเงินไปครอง
