16 ปีของ ปีเตอร์ กิลคริสต์ แชมป์โลกอิมพอร์ตหัวใจลอดช่อง

(Photo by Quy Le BUI / AFP)

16 ปีของ ปีเตอร์ กิลคริสต์ แชมป์โลกอิมพอร์ตหัวใจลอดช่อง

มีกีฬาอยู่ไม่มากนักที่นักกีฬาสามารถเล่นไปได้จนอายุเยอะๆ และเผลอๆ ยิ่งอายุมากขึ้น ประสบการณ์มากขึ้น อาจจะยิ่งเป็นประโยชน์เวลาแข่งขัน ซึ่งกีฬา สอยคิว ก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้

วงการสนุกเกอร์ไทยเคยมี “ปู่ตึ๊ก โคราช” มงคล กั้นฝากลาง อดีตนักสอยคิวและโค้ชทีมชาติผู้ล่วงลับซึ่งรับใช้ชาติในมหกรรมกีฬานานาชาติหลายสมัย ขณะที่ฟิลิปปินส์มี เอฟเรน เรเยส เจ้าของฉายา “นักมายากล” ดีกรีอดีตแชมป์โลกพูลวัย 67 ปี ซึ่งร่วมแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ในขณะนี้ด้วย

ส่วนสิงคโปร์มีมือเก๋าอย่าง ปีเตอร์ กิลคริสต์ อดีตแชมป์โลกอิงลิช บิลเลียด 6 สมัย เป็นตัวชูโรง โดยก่อนหน้าการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้จะเปิดฉาก กิลคริสต์มีดีกรีเป็นเจ้าของเหรียญทองบิลเลียดซีเกมส์ บุคคลชาย ถึง 6 สมัยติดต่อกัน

AFP

กิลคริสต์วัย 53 ปี เป็นชาวอังกฤษโดยกำเนิด คว้าแชมป์โลกครั้งแรกเมื่อปี 1994 ต่อด้วยปี 2001 ซึ่งหลังจากนั้น เขาก็ได้รับการติดต่อจากองค์กรกีฬาของสิงคโปร์ให้ไปทำหน้าที่โค้ชคิวสปอร์ตทีมชาติ กิลคริสต์จึงข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำหน้าที่โค้ชให้แดนลอดช่องทำศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 22 ซึ่งเวียดนามเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2003 แม้จะร่วมงานก่อนแข่งเพียง 6 เดือน ทีมสิงคโปร์ก็คว้าเหรียญทองสนุกเกอร์คู่จากซีเกมส์ครั้งนั้น

Advertisement

ระหว่างที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์เพื่อทำหน้าที่โค้ช กิลคริสต์ได้รับการติดต่อจากองค์กรกีฬาและหน่วยงานรัฐให้เข้าโครงการโอนสัญชาติซึ่งเป็นโปรเจกตที่รัฐบาลสิงคโปร์ริเริ่มเมื่อปี 1993 นำร่องโดยกีฬาเทเบิลเทนนิส มีวัตถุประสงค์เพื่อทาบทามนักกีฬาต่างชาติฝีมือดีมาช่วยยกระดับมาตรฐานกีฬาในประเทศ เนื่องด้วยสิงคโปร์ที่เป็นประเทศเล็กๆ มีประชากรราว 5.5 ล้านคน ผลงานในอีเวนต์กีฬาจึงมักเป็นรองชาติอื่นๆ

กิลคริสต์ตัดสินใจตอบรับข้อเสนอ และโอนสัญชาติเป็นสิงคโปร์ในปี 2006 ช่วงแรกอะไรๆ ก็ไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง ถึงจะแบกดีกรีแชมป์โลก แต่กลายเป็นว่าเจอกับใครก็แพ้ตลอด ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าปัญหาหลักเกิดจากการควบตำแหน่งโค้ชและนักกีฬาทำให้ไม่มีเวลาโฟกัสที่การซ้อมของตัวเอง

เขาประเดิมลงแข่ง ซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่โคราช ประเทศไทย แต่ปิดฉากแบบมือเปล่า หลังจากนั้นอีก 2 ปี จึงประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองอิงลิช บิลเลียด อีเวนต์ถนัด กับเหรียญทองแดงจากบิลเลียดคู่ใน ซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ไม่เคยพลาดเหรียญทองบิลเลียดเดี่ยวอีกรวม 6 สมัยติดต่อกัน อีกทั้งยังไปคว้าเหรียญทองแดงจาก เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 15-16 รวมถึงคว้าแชมป์โลกบิลเลียดเพิ่มได้อีก 4 ครั้งในปี 2013, 2015 (ระบบ 150 แต้ม), 2016 และ 2019 อีกด้วย

Advertisement
(Photo by Quy Le BUI / AFP)

เป็นเวลา 16 ปีแล้วนับตั้งแต่โอนสัญชาติ และตอนนี้ปีเตอร์ กิลคริสต์ อดีตแชมป์โลกบิลเลียดชาวอังกฤษก็ซึมซับความเป็นชาวสิงคโปร์เต็มตัว โดยบอกว่าถึงศึกชิงแชมป์โลกจะเป็นรายการใหญ่ แต่ซีเกมส์กดดันมากกว่า เพราะเป็นเกมสั้น จึงต้องมีสมาธิและเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด คู่แข่งทั้งจากไทยและเมียนมาต่างก็เป็นมือท็อป 16 ของโลก ถ้าคิวไม่คมพอก็อาจพลาดพลั้งได้ เพราะถ้าเป็นเกมยาวมั่นใจว่าในโลกนี้มีคนชนะตนได้ไม่เกิน 5 คน แต่ถ้าเป็นเกมสั้น อาจจะมีถึง 50 ปี

ปรากฏว่าสิ่งที่เขาหวั่นใจกลายเป็นจริง กิลคริสต์พ่ายให้ พอก สา นักสอยคิวเมียนมา ในรอบชิงชนะเลิศ จนโดนหยุดสถิติแชมป์ไว้ที่ 6 สมัยติดต่อกัน

กระนั้น ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เขาท้อหรือคิดวางมือจากทีมชาติแต่อย่างใด วันนี้ด้วยวัย 53 ปี กิลคริสต์ประกาศว่าจะกลับมาใหม่ใน ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชาในปีหน้า โดยมีเป้าหมายทวงแชมป์บิลเลียดเดี่ยวที่พลาดไปในปีนี้ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะตั้งต้นนับ 1 เพื่อสถิติเหรียญทอง 7 สมัยติดที่พลาดไปในครั้งนี้

…เพราะเรื่องอายุไม่ใช่ปัญหาสำหรับกีฬาสอยคิวอยู่แล้ว!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image