| ที่มา | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
|---|---|
| ผู้เขียน | อันติกา |
“กวาง” สัตว์เศรษฐกิจ เลี้ยงง่าย สร้างรายได้ได้ทั้งตัว ขอเพียงเรียนรู้กระบวนการต่อยอด นำส่วนต่างๆ อาทิ หนัง นำมาทำเสื้อผ้า เครื่องหนัง ขายได้ราคาสูงลิ่ว ส่วนเขากวางอ่อน ตอนนี้ขายกันกิโลกรัมละ 6,000-12,000 บาท เริ่มต้นเลี้ยงกวาง จาก 17 เป็น 140 ตัว
“กวาง” สัตว์เศรษฐกิจให้ผลตอบแทนที่อาจจะเรียกได้ว่าทั้งตัว จึงมีผู้ประกอบการเริ่มเห็นช่องทางสร้างอาชีพเปิดฟาร์มกวางกันมากขึ้น เฉกเช่น “ภักดีฟาร์ม” ที่เปิดธุรกิจสร้างฟาร์มเลี้ยงขึ้นในปี 2546 โดยจุดเริ่มต้นนำกวางสายพันธุ์ “รูซ่า” (Rusa Deer) จากประเทศออสเตรเลีย จำนวน 17 ตัว มาเลี้ยง บนพื้นที่ขนาด 40 ไร่ จนตอนนี้สามารถต่อยอด ขยายธุรกิจได้อย่างครบวงจร
จากจุดมุ่งหมายแรกต้องการเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ กระทั่งต่อมาเล็งเห็นโอกาสกับการสร้างมูลค่าเพิ่ม จึงเปิดรีสอร์ตแล้วนำกวางมาเป็นจุดขายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสรูปแบบการเลี้ยงกวาง ซึ่งในขณะนี้มี “กวางดาว” จำนวน 20 ตัว ทำหน้าที่เรียกลูกค้า ส่วนกวางสายพันธุ์รูซ่าที่เลี้ยงเพื่อจำหน่ายผลผลิตมีอยู่ประมาณ 120 ตัว ไม่เพียงเท่านั้นยังต่อยอดกับการเปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ ไว้บริการลูกค้าผู้เข้าพักรวมถึงบุคคลทั่วไป ซึ่งเมนูเด่นของร้านทำมาจากเนื้อกวาง นักท่องเที่ยวมาแล้ว ถึงเวลาจะเดินทางกลับ ก็ต้องการของที่ระลึกสักชิ้นสองชิ้นติดไม้ติดมือ
ร้านขายของที่ระลึกจึงเปิดตัวตามมา โดยมีผลิตภัณฑ์จากหนังกวางและเขากวางจำหน่าย อาทิ เสื้อผ้า เครื่องประดับ พวงกุญแจ เป็นต้น “ผมสนใจอาชีพเกษตร และจากได้ศึกษาข้อมูล พบว่ากวางสามารถเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ถูกต้องตามกฎหมายด้วย เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ความต้องการตลาดสูง สามารถจำหน่ายได้ทั้งตัว ซึ่งพอเริ่มทำ ผมก็ค่อยๆ ต่อยอด จนตอนนี้เรียกได้ว่าครบวงจรแล้ว” ภักดี พานุรัตน์ เจ้าของ ภักดีฟาร์ม กล่าว
คุณภักดี ยังกล่าวถึงรายได้จากกวางนั้นเริ่มตั้งแต่ การเลี้ยงขยายพันธุ์ โดยลูกกวางอายุ 1 เดือน สามารถจำหน่ายได้ในราคาตัวละประมาณ 10,000 บาท ส่วนเขากวางอ่อนสามารถตัดขายได้ทุกปี (ปีละ 1 ครั้ง) ราคากิโลกรัมละประมาณ 6,000 บาท แต่หากนำไปบดบรรจุแคปซูลราคาสูงขึ้นอีกเท่าตัว
สำหรับเนื้อกวางสด ปัจจุบันได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น ราคาจำหน่ายตกกิโลกรัมละ 230 บาท “ลูกค้าหลายท่านอาจยังไม่ทราบว่า กวางคือสัตว์เศรษฐกิจ สามารถเลี้ยงเพื่อการค้าได้ ซึ่งพออธิบายเขารับรู้ทันทีว่าธุรกิจนี้ช่วยหยุดการล่ากวางจากป่าธรรมชาติ อีกทั้งสินค้าจากเขากวางยังทดแทนงาช้างได้ด้วย”
วิธีเลี้ยงง่าย แต่ใช้ทุนสูง กวางจัดเป็นสัตว์เลี้ยงง่ายก็จริง แต่ทว่าในด้านต้นทุนการเลี้ยงสูง เพราะต้องใช้ขนาดพื้นที่กว้างพอ ส่วนเรื่องการจัดการโรงเรือน ระบบการเลี้ยงควรรองรับ ไหนจะต้องมีค่าต้นทุนในด้านพ่อแม่พันธุ์อีก
“เงินทุนเริ่มต้นอย่างน้อยต้องหลักแสน อันนี้คือมีที่ดินอยู่แล้วนะ แต่ถ้าต้องซื้อที่ดินก็ใช้เงินมากตาม ส่วนเรื่องของผลตอบแทนต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปี กว่าจะตัดเขากวางอ่อนมาจำหน่ายได้ ผมจึงขอแนะนำสำหรับผู้สนใจเลี้ยง ให้ซื้อกวางเพศผู้อายุ 3 ปีขึ้นไป ราคาตัวละประมาณ 15,000-20,000 บาท เพื่อจะได้ทำรายได้ให้ทันทีในปีแรกที่เลี้ยง ส่วนจำนวนการเลี้ยงก็น่าจะต้อง 20 ตัวขึ้นไป และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าสำคัญมากคือ ผู้ประกอบการควรลงมือเลี้ยงและดูแลด้วยตนเอง”
คุณภักดี ยังกล่าวถึงสัดส่วนรายได้ ว่ามาจากฟาร์มเลี้ยง 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือมาจากการเพิ่มมูลค่ากับการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งผู้ประกอบการคนขยัน ยังกล่าวถึงแผนในอนาคตจะสร้างฟาร์มให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ สร้างรายได้ด้วยกิจกรรม เช่น ให้อาหารกวาง ปั่นจักรยานรอบฟาร์ม คุณภักดียังกล่าวทิ้งท้ายเพิ่มเติม
สำหรับผู้สนใจก้าวสู่ธุรกิจ ว่าจะให้ดีควรเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหกรณ์กวางแห่งประเทศไทย เพื่อรับองค์ความรู้ ข่าวคราวความเคลื่อนไหว แหล่งรับซื้อผลผลิต เพื่อลดปัญหาความเสี่ยงด้านตลาด ที่ผ่านมาสหกรณ์ฯ ยังได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO เพื่อพัฒนาระบบเลี้ยงกวางให้เกิดมูลค่าสูงสุดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงอีกทางหนึ่ง กับการก้าวสู่ธุรกิจกวาง อย่างครบวงจรนี้ แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายในการก้าวเดิน แต่ทว่าถ้ามีใจรักดังเช่นคุณภักดี ก็ไม่มีคำว่า “ยาก” สนใจติดต่อ “ภักดีฟาร์ม” เดินทางไปได้ที่ 198 ถนนพิษณุโลก-หล่มสัก อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์ (055)293 198 , 081-845 2993
