วันที่ 27 มกราคม นายสมพิศ ชูสังฆ์ เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา จ.นครพนม เปิดเผยว่า ในสภาวะที่ราคายางพาราตกต่ำ ตนเองและกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ได้ปรึกษาหารือกันในการหาพืชมาปลูกเพื่อทดแทน โดยเลือกที่จะปลูกสตรอเบอรี่ เนื่องจากมองว่าสภาพอากาศของ จ.นครพนมสามารถปลูกได้ และได้เริ่มทดลองปลูกก่อน เพียง 80 กระถาง เมื่อพบว่าได้ผลผลิตดี จึงได้พยายามขยายการปลูก โดยไปศึกษากับเพื่อนที่ จ.เชียงใหม่ ล่าสุดได้ขยายการปลูกเป็นจำนวนมากกว่า 3,000 กระถางแล้ว
ทั้งนี้ ตนเองมีสวนยางพารา 20 ไร่ แต่ได้ตัดสินใจปลูกผลไม้ทดแทน โดยสตรอเบอรี่ของตนจะเริ่มปลูกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และจะออกผลประมาณเดือนมกราคมตลอดทั้งเดือน ผลที่ได้รับขณะนี้คือรายได้จากการปลูกสตรอเบอรี่เพียงหนึ่งไร่ มีรายได้มากกว่ายางพารา 20 ไร่ โดยในส่วนการตลาดก็มีผู้นำชุมชนมาช่วยสนับสนุน และคนที่ได้รับรู้ก็มาศึกษาหาความรู้ในสวน และเพิ่มการสั่งผลผลิตอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ราคายางพาราตกต่ำก็ขอแนะนำให้เกษตรชาวสวนยางหาทางเลือกอื่นๆ เช่นการปลูกพืชทดแทนเข้าไป ล่าสุดตนเองได้ปลูกฝรั่งพันธุ์กิมจูกว่า 100 ต้น ลำไย 10 ต้น ลิ้นจี่ 10 ต้น และส้มเขียวหวานอีก 15 ต้น ซึ่งรัฐมีนโยบายโค่นต้นยาง แต่ตนไม่จำเป็นต้องทำตามเลย โดยการปลูกพืชแซม ก็เพียงคอยตัดแต่งกิ่งไม้ ให้พื้นของสวนยางมีแสงมากขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ หากใครคิดจะปลูกอย่างจริงจังก็ต้องตรวจสอบดูสภาพพื้นที่ของตนเองด้วย
