พลิกวิกฤตอีก หน้าแล้งใช้ต้นไม้ตาย-ล้ม เผาถ่านขาย รายได้งาม ครั้งละ 8-9 พันบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหน้าแล้งที่ต้นไม้ขาดน้ำยืนต้นตาย รวมทั้งไม้ที่ถูกลมพัดโค่นล้ม ชาวบ้านได้เก็บมาเผาถ่านใช้ในครัวเรือนที่เหลือยังนำไปขายสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวในยามเศรษฐกิจตกต่ำ โดยชาวบ้านในหลายหมู่บ้านในจังหวัดบึงกาฬต่างใช้วิกฤตเป็นโอกาสในช่วงหน้าแล้งที่ต้องปิดฤดูการกรีดยางพารา เพื่อให้ต้นยางได้มีเวลาพักฟื้นลำต้นในช่วงหน้าแล้ง หันมาเผาถ่านขายสร้างรายได้ทดแทน

นายทิวากร โมครัตน์ อายุ 54 ปี ชาวบ้านดอนอุดม ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ กล่าวว่าตนเองมีสวนยางพาราอยู่ประมาณ 10 ไร่ หน้าแล้งปีนี้รุนแรงมากทำให้ต้นยางพาราแห้งเหี่ยวใบร่วงหล่นจำนวนมาก จำเป็นต้องหยุดกรีดยางเพื่อพักรักษาต้นยางอย่างน้อย 2-3 เดือน ทำให้ตัวเองขาดรายได้จากการขายน้ำยางไป จึงได้หาทางออกด้วยการเผาถ่านขาย โดยทำเตาเผาอยู่ข้างทางขึ้นมา 4 เตาใช้เวลาในการเผาถ่านประมาณ 2 สัปดาห์หรือราว 15 วันก็นำออกจากเตาเผา ถ่านที่ได้แต่ละครั้งก็ประมาณ 40-42 กระสอบ จะขายกระสอบละ 180 – 200 บาท ขึ้นอยู่ที่คุณภาพของเนื้อไม้

ส่วนวัตถุดิบก็นำเอาต้นไม้ที่ยืนต้นตาย รวมทั้งต้นไม้ตามแนวตลิ่งแม่น้ำโขงที่ผู้รับเหมาก่อสร้างโค่นทิ้งเพื่อทำเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง และไม้ริมทางหลวงที่ถูกโค่นล้มจากการขยายถนน ซึ่งไม้เหล่านี้ได้มาแบบฟรีๆ แต่ก็ต้องเสียเงินจ้างรถหกล้อหรือรถสิบล้อไปขนไม้มาในราคาเที่ยวละ 2,000 บาท นอกจากนำถ่านมาใช้ในครัวเรือนเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำโดยไม่ต้องไปซื้อแก๊สหุงต้มให้เป็นภาระแล้ว ถ่านที่มีคุณภาพดีจะมีเจ้าของร้านเนื้อย่างเกาหลีในจังหวัดบึงกาฬมารับซื้อไม่อั้น แถมมารับซื้อถึงที่ เมื่อเปิดเตาเผาแต่ละครั้งจะขายได้เงินครั้งละ 8,000 – 9,000 บาทเฉลี่ยต่อวันก็ 500-600 บาทต่อวัน ซึ่งนับว่าเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัวได้อีกทางหนึ่งในช่วงที่หยุดกรีดยาง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image