สู้ภัยแล้ง!!!เกษตรกรสุพรรณบุรีเลี้ยงกบในกระชังบก หลังปัญหาน้ำน้อยและราคาพืชผักไม่แน่นอน

ประเทศไทย ขึ้นชื่อเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว การเกษตรของเกษตรกร อาจเรียกได้ว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก ซึ่งประเทศไทยมีการส่งออกทั้งไม้ผล ข้าว และแม้แต่การประมง เช่น กุ้ง และสัตว์น้ำอื่นๆ การเกษตรทุกชนิด หรือแม้แต่การทำประมงให้ได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ น้ำจึงถือเป็นสิ่งสำคัญในภาคเกษตร

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะแล้ง ทั้งๆ ที่ปี 2554 ไทยเผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้เมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ต้องเจอกับมวลน้ำมหาศาลที่ไหลลงมาท่วม พร้อมทั้งทำให้พื้นที่การเกษตร ตลอดจนอุตสาหกรรมในหลายๆ จังหวัด เสียหายจากมหาอุทกภัยในครั้งนั้น

แต่ ณ เวลานี้ ตั้งแต่ปี 2558 ปริมาณฝนในบ้านเราตกน้อยลง ทำให้ระดับน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำใน 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณที่น่าเป็นห่วง ทำให้เกษตรกรต้องหยุดทำนาปรังลง รวมทั้งการเกษตรอื่นๆ อีกด้วย เพื่อให้ปริมาณน้ำมีใช้ถึงฤดูฝนใหม่ที่จะมาถึง พูดกันแบบที่เข้าใจก็คือ เวลานี้การทำเกษตรในประเทศเราคงต้องปรับทัศนคติ ช่วยกันคนละไม้ละมือ

Advertisement

การประกอบสัมมาอาชีพ ที่ทำกันอยู่ทุกวันอาจต้องปรับเปลี่ยน โดยหาอาชีพเสริม สร้างรายได้ เพื่อให้การใช้ชีวิตประจำวันไม่สะดุดไปด้วยหนี้สิน หากจำนวนน้ำที่มียังทำการเกษตรแบบนี้ไม่ได้อีกในวันข้างหน้า

6

คุณจุฑามาศ เบญจวรรณ อยู่บ้านเลขที่ 1/2 หมู่ 3 ตำบลหัวเขา อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เธอมีอาชีพทำนา ทำสวน ในแต่ละปีเธอเริ่มมองเห็นปัญหาของเรื่องน้ำ ที่มีปริมาณน้อยลง บวกกับราคาผลผลิตทางการเกษตร เช่น ข้าว ที่มีราคาขึ้นลงไม่แน่นอน ทำให้เธอมองหาอาชีพเสริมที่สามารถหาเงินได้เร็วขึ้น เธอจึงมองเรื่องการเลี้ยงกบ จากการทดลองในครั้งนั้น ทำให้เธอประสบผลสำเร็จ จนสามารถสร้างรายได้นับหมื่นบาทต่อเดือน

Advertisement

คุณจุฑามาศเล่าว่า ที่บ้านของเธอประกอบอาชีพทำนา ทำสวน จากการจำหน่ายผลผลิตบางครั้งไม่เพียงพอ “อาชีพหลักๆ ที่บ้าน ก็ทำนา ทำสวน บางครั้งมีขายของทั่วไปด้วย แต่ทำนา ทำสวน บางทีราคาผลผลิตมันก็ได้ไม่ค่อยเต็มที่เท่าที่ควร ก็เลยคิดที่จะหาอย่างอื่นมาทำเป็นอาชีพเสริม ก็เลยได้ลองเลี้ยงกบแทน เพราะคิดว่าอย่างน้อย เราไม่ได้ดีตรงนั้น ก็อยากได้ตรงนี้แทน ลองดูเพื่อจะได้ดีอีกด้านหนึ่ง พอปี 54 ก็เลยเอามาทดลองเลี้ยง” คุณจุฑามาศเล่าถึงความเป็นมาของการเลี้ยงกบ

ในตอนแรกที่ทดลองเลี้ยง เธอบอกว่า ซื้อลูกกบตัวเล็กมาทดลองเลี้ยงที่บ้าน เพื่อลองผิดลองถูก “ตอนแรกก็หาซื้อมาเลย เอามาเลี้ยง 5,000 ตัว แบ่งกับแม่คนละครึ่ง ตอนนั้นเลี้ยงในบ่อที่เป็นร่องสวนมะม่วงที่บ้าน แต่ปัญหาที่เจอ มันก็จะมีตัวเงินตัวทองกวน และก็สัตว์อื่นด้วย ส่วนกระชังที่แขวนเลี้ยงในร่องสวน ก็ใช้น้ำเยอะ ต้องให้น้ำเต็มร่องตลอด ทำให้เวลาที่เราต้องถ่ายน้ำ ก็เปลืองหลายอย่าง ทั้งน้ำและเวลา ก็เลยคิดวิธีเลี้ยงใหม่ เอาขึ้นมาเลี้ยงบนบก โดยดัดแปลงทำกระชังบกเอง เพื่อให้การจัดการเราง่ายขึ้น และเราก็จะไม่ต้องมากังวลเรื่องน้ำ เพราะช่วงเดือนมีนาฯ เมษาฯ เรามีปัญหาเรื่องน้ำ น้ำมันไม่ค่อยมี ก็เลยต้องคิดต้องปรับแนวทาง” คุณจุฑามาศอธิบาย

สำหรับผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นเลี้ยงทีละน้อย คลิกอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ !!

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image