ด้วยความพร้อมด้านสถานที่และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสามารถใช้เพาะเลี้ยงปลาได้หลากหลายชนิด สำนักงานเคหะชุมชนจึงได้จัดทำโครงการพัฒนาสัตว์น้ำเพื่อการส่งออก (ปลาเผาะ) ริมฝั่งแม่น้ำโขงขึ้น โดยมีการพัฒนาการเลี้ยงให้อยู่ในรูปแบบของกระชังลอยน้ำ เพื่อส่งเสริมและสร้างรายได้ ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชาวนครพนมได้มีอาชีพที่เพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะที่ตำบลอาจสามารถอำเภอเมืองจังหวัดนครพนม เป็นตำบลหนึ่งที่มีพื้นที่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง อาชีพของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกจากจะทำการเกษตรเป็นอาชีพหลักแล้ว ยังมีอาชีพหาปลาเป็นรายได้เสริมไปพร้อมๆ กับเลี้ยงปลาในกระชังควบคู่กัน
คุณประจักษ์ เจริญรัตน์ ประมงจังหวัดนครพนม กล่าวถึง การเลี้ยงปลากระชังของคนในพื้นที่แถบนี้ แสดงให้เห็นถึงความโชคดีของคนจังหวัดนครพนม ถึงความพร้อมของสถานที่ ทำให้สามารถเลี้ยงปลาได้คุณภาพ เพื่อรับมือกับการค้าแบบเสรีในระดับสมาคมอาเซียน
“การเข้าสู่ ACE เราไม่กลัว ผลผลิตที่นี่ของเราดีมีคุณภาพ เราเน้นเรื่องคุณภาพ น้ำในแถบนี้ไม่มีแห้ง ทำให้เหมาะกับการเลี้ยงปลา และที่สำคัญสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินไม่มี ทำให้ปลามีรสชาติดี ไม่มีกลิ่นสาบ น้ำที่นี่ไหลตลอด ปลาจึงแข็งแรง เพราะจะคล้ายเหมือนได้อยู่ในธรรมชาติ เกษตรกรจึงเลี้ยงปลาได้ตลอดทั้งปี ทำให้เลี้ยงปลาได้หลากหลาย เช่น ปลาเผาะ ปลานิล และปลาตะเพียน จนสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่นี้”
สภาพทั่วไปของจังหวัดนครพนม เป็นที่ราบลุ่มและมีที่ราบสูงภูเขาอยู่บ้าง แม่น้ำโขงเป็นดังสายเลือดที่หล่อเลี้ยง ทำให้จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่มีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมทั้งความสวยงามของทิวทัศน์ มีความหลากหลายของวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
ขนาดของพื้นที่ตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขงกว่า 153 กิโลเมตร ทำให้เกิดวิถีการทำประมง แต่ปัจจุบัน ปลาตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ลดจำนวนลง ประชาชนในพื้นที่จึงมีการปรับตัวและเลี้ยงปลาในกระชัง เพื่อให้มีโปรตีนชั้นดีไว้กินตลอดปี รวมทั้ง ลุงพันธ์ อ่อนมณี อยู่บ้านเลขที่ 81/1 หมู่ที่ 1 ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม อีกหนึ่งเกษตรกร ผู้หาเวลาว่างหลังเกษียณ เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำโขง สร้างรายได้เช่นเดียวกัน
หลังปลดเกษียณ ผันชีวิต สู่เกษตรกรเลี้ยงปลา
ลุงพันธ์ ชายผู้มีอัธยาศัยยิ้มแย้ม วัย 72 ปี เล่าให้ฟังว่า ก่อนริเริ่มเลี้ยงปลาเผาะในกระชัง ก่อนหน้านี้มีอาชีพรับราชการ
“เมื่อก่อนลุงเป็นครู พอหลังเกษียณมา ก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ ก็เลยหาอะไรทำ เพราะช่วงนั้นแถวบ้านก็มีคนทำก่อนแล้ว ลุงก็เห็นว่า เขาก็พอได้อยู่ได้กินมีรายได้ เพราะว่าเดี๋ยวนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อน เพราะว่าปลาธรรมชาติมันไม่ค่อยมีแล้ว มันหายาก ก็เลยมาลองเลี้ยงดู 2 กระชัง มันก็ได้ผลดี โตดี ขายได้” ลุงพันธ์ เล่าถึงความเป็นมาของชีวิตหลังวัยเกษียณ
ประมาณปี 2543 ที่เริ่มทดลองเลี้ยง ลุงพันธ์ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลจากประมงจังหวัด ทำให้ปลาเผาะที่ลุงพันธ์เลี้ยงสามารถสร้างรายได้ให้กับลุงได้เป็นอย่างดี ต่อมาจึงขยายการเลี้ยงออกไปเรื่อยๆ ทำให้ปัจจุบัน ลุงพันธ์มีปลาเผาะที่เลี้ยงในกระชังมากกว่า 20 กระชัง
อ่านเทคนิคการเลี้ยงปลาเผาะในกระชัง ริมฝั่งแม่น้ำโขงเพิ่มเติมคลิกที่นี่
