‘พื้นที่มากได้เงินน้อย พื้นที่น้อยได้เงินมาก’ จุดเปลี่ยนจากข้าว สู่เผือกของชาวนา บ้านนาเฉลียง เพชรบูรณ์

การปรับเปลี่ยนมาปลูกพืช หรือทำเกษตรกรรมที่ไม่คุ้นเคย เพื่อรับมือกับปัญหาภัยแล้งคงไม่ใช่เรื่องง่ายและรวดเร็วชนิดพลิกฝ่ามือที่จะทำให้สำเร็จ ทั้งนี้ อาจต้องเติมความอดทนและความพยายามเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ และเชื่อแน่ว่าสถานการณ์เช่นนี้คงไม่อยู่กับพวกเราเป็นเวลายาวนาน

เมื่อต้นปีมีโอกาสลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะทราบข่าวมาว่ามีชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ในหมู่ 1 ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ ซึ่งเคยยึดอาชีพทำนาปรัง ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองมาปลูกเผือกและพืชชนิดอื่นแทน โดยการเปลี่ยนครั้งนี้กลับกลายเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เพราะพวกเขาสามารถสร้างเม็ดเงินได้มากกว่าการทำนาที่เคยเป็นอาชีพดั้งเดิมเสียด้วยซ้ำ

มีโอกาสได้พบและพูดคุยกับ คุณกาญจนา และ คุณศราวุธ สรรคพงษ์ สามี/ภรรยา ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 1 ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เนื่องจากเป็นอีกครอบครัวที่ถือว่าประสบความสำเร็จจากการปลูกเผือกแทนการทำนาข้าว

PP 1 ขนาดหัวเผือกเมื่อเทียบกระป๋องกาแฟ22

Advertisement

เมื่อหลายปีก่อนครอบครัวนี้ยังคงยึดอาชีพทำนา ทั้งนาปีและนาปรัง บนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 100 ไร่ เพราะอยู่ติดกับแม่น้ำป่าสัก แต่ภายหลังเกิดปัญหากระทบกับการปลูกข้าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ ราคาข้าว ตลอดจนต้นทุนการปลูก ซึ่งเมื่อปลูกเสร็จแทบจะไม่เหลือเงินติดบ้านเลย

เพราะการดิ้นรนแล้วไม่ท้อถอย จึงทำให้คุณกาญจนา และคุณศราวุธ เปลี่ยนมาปลูกเผือกตามคำแนะนำของน้าที่ประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้แล้ว

คุณกาญจนาปลูกเผือกมา 3 ปี เป็นพันธุ์หอมเชียงใหม่ เหตุผลที่ใช้พันธุ์นี้เพราะมาจากความต้องการของตลาด เนื่องจากลักษณะเด่นคือ มีความหอมหวานในเนื้อ ให้ผลผลิตดี น้ำหนักดี สั่งซื้อต้นพันธุ์โดยตรงมาจากเชียงใหม่ เวลาซื้อจะเหมาเป็นตัน คละขนาด มีจำนวน 4-5 ต้นต่อกิโลกรัม

Advertisement

PP 10เผือกพันธุ์หอมเชียงใหม่ ผ่าแล้วจะพบเ222

ราคาซื้อต้นพันธุ์ไม่เคยคงที่ จะผันแปรไปตามความต้องการของตลาด อย่างปีที่แล้ว (2558) ราคาตันละ 8,000-10,000 บาท แต่ก่อนหน้านี้ช่วงที่ยังไม่มีใครสนใจ ราคาต้นพันธุ์ 6,000-8,000 บาทต่อตันเท่านั้น

สำหรับขั้นตอนการปลูก คุณกาญจนาอธิบายว่า ก่อนจะนำต้นพันธุ์ลงปลูก จะต้องมีการเตรียมดินด้วยการไถหว่าน ตากดินให้แห้งก่อนเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรค แต่ยังไม่ต้องใส่ปุ๋ยหรือสารในดินแต่อย่างใด จากนั้นนำต้นพันธุ์ปลูกลงดินซึ่งมีวิธีปลูกคล้ายกับการดำต้นข้าว โดยมีระยะห่างระหว่างต้น 27 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างแถวห่างกัน 1 เมตร แล้วปล่อยน้ำเข้าแปลง

อ่านวิธีการปลูกเพิ่มเติมคลิกที่นี่

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image