ต่อไปนี้บ้านไหนที่จ่ายค่าไฟแพงกว่าปกติอาจจะต้องหมั่นเช็กการเดินสายไฟภายในที่พักอาศัยกันบ้างแล้ว
เพราะกำลังตกประเด็นที่โลกโซเชียลให้ความสนใจ เมื่อมีผู้ใช้ทวิตเตอร์แอคเคาท์นึงได้ออกมาทวีตเรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์พร้อมรูปภาพ ความว่า
“บ้านเราปกติค่าไฟจะตกเดือนละ 2,000 – 3,000 บาท ขณะนั้นไม่นึกเอะใจ เพราะนึกว่าอยู่กันหลายคน แถมยังชอบเล่นคอมพิวเตอร์ด้วย แต่พี่มาบอกว่า ตอนนี้ที่บ้านค่าไฟลดลงเยอะมาก เหลือเพียง 900 กว่าบาทเท่านั้น ไม่ถึง 1,000 บาท เพราะพ่อเช็กสายไฟทั้งบ้าน แล้วพบว่า บ้านเราโดนขโมยไฟใช้มาตลอด 10 กว่าปี โดยคนข้างบ้าน”
เจ้าของเรื่องยังระบุอีกว่า “พอมาคิดๆเป็นเงินก้อนแล้ว เราเสียเงินไปเยอะมากกับการโดนขโมยไฟใช้ แต่ไม่รู้ว่าจะเอาเรื่องยังไง เพราะพ่อเราก็รื้อสายไฟออกหมดแล้ว ไม่ได้เก็บหลักฐานอะไรไว้เลย ประกอบกับที่บ้านก็ไม่อยากมีเรื่องจึงปลงๆไป จึงอยากให้ถือว่าเป็นเคสตัวอย่างแล้วกันค่ะ”
ภายหลังที่ทวีตนี้ถูกรีทวิตออกไปในวงกว้างกว่า 3.4 หมื่นครั้ง มีผู้ใช้ทวิตเตอร์เข้ามาให้คำแนะนำสำหรับผู้ใช้งานคนอื่นๆที่มีข้อสงสัยเพื่อไปตรวจเช็กการใช้ไฟฟ้าที่บ้านเบื้องต้น ตลอดจนร่วมแชร์ประสบการณ์ถูกโดนขโมยไฟฟ้าใช้ด้วย อาทิ
“ค่าไฟทั่วประเทศในของส่วนภูมิภาค จะราคาเท่ากันทั่วประเทศค่ะ เรียกว่าค่า ft หากค่าไฟแพงขึ้นผิดปกติอีก เช็กเบื้องต้นโดยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างในบ้านหรือเอาคัตเอาท์ลงค่ะ แล้วไปดูมิตเตอร์ไฟว่ายังหมุนอยู่หรือป่าว ถ้ายังหมุนอยู่คือผิดปกติแจ้งให้ไฟฟ้ามาตรวจสอบได้เลยค่ะ เผื่อข้างบ้านกลับมาทำอีก เพราะทางบ้านของตัวเองไม่ได้เอาเรื่องอะไร หากผิดปกติอีกจะได้เอาวิธีนี้ไปจัดการ โดยให้ไฟฟ้าเข้ามาตรวจสอบจะได้มีหลักฐานเอาผิดได้ค่ะ”
“ต้องระวังเรื่องขโมยน้ำขโมยไฟด้วยนะคะ บ้านเราก็โดนมาเป็นสิบกว่าปีเหมือนกัน พ่วงจากมิเตอร์ไฟบ้านเรา”
“บ้านเราก็โดนค่ะ แต่เป็นสายเคเบิลทีวี บ้านอื่นโยงไปดูฟรีเลย ละก็ซื้อกล่องเถื่อนแถวบ้านหม้อมาต่อเอง(เราก็ไม่แน่ใจวิธีที่เค้าทำ) บ้านเราจ่ายเต็มตลอด”
“บ้านเราก็โดนเหมือนกันค่ะ มีเดือนนึงขึ้นไปถึง 4,200 บาท ทั้งๆที่อยู่บ้านแค่สองคนแม่ เลยเอะใจ เช็คมิตเตอร์ไฟตลอด เดือนถัดมาเหลือ 3,200 บาท และเดือนนี้เหลือ 1,900 บาท คิดว่าคงโดนขโมยไฟเหมือนกัน”
