วีระ โพสต์ ‘บิ๊กตู่’ ส่อตายน้ำตื้นหลังใช้ ม.44 ตั้ง ‘สนธยา’ คุม ‘เมืองพัทยา’

เมื่อวันที่ 27 กันยายน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า งานเข้านายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยาคนล่าสุดซะแล้ว “ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้ใช้อำนาจ มาตรา 44 แต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม ต้องติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด มิฉะนั้นอาจจะถูกกล่าวหาได้ว่า การแต่งตั้งให้ตระกูลคุณปลื้ม กลับมาคุมเมืองพัทยา เกิดขึ้นภายหลังมีข้อตกลงแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันระหว่าง คสช. และตระกูลคุณปลื้ม หากเป็นความจริง จะทำให้ชาติและประชาชนได้รับความเสียหาย และพล.อ.ประยุทธ์ อาจต้องมีความผิดเนื่องจากเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน

“ ข้าราชการเมืองพัทยาได้ส่งข้อมูล ช่วยนำไปเปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากเกรงว่าเมืองพัทยาและประชาชน อาจได้รับความเสียหาย จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้อำนาจตาม ม. 44 ให้นายสนธยา คุณปลื้ม ลูกชายของนายสมชาย คุณปลื้ม มาดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา โดยก่อนหน้านี้นายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ เป็นจำเลยในคดีแพ่งของศาลจังหวัดพัทยา ตามคดีหมายเลขดำที่ พ 1672/2553 หมายเลขแดงที่ พ 385/2554 ต่อมาศาลจังหวัดพัทยา ได้มีคำพิพากษาให้นายสมชาย คุณปลื้ม ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่เมืองพัทยา เป็นเงินกว่าร้อยล้านบาท อันเป็นผลสืบเนื่องจากกรณีคดีอาญาการทุจริตซื้อที่ดินเขาไม้แก้ว ทำให้เมืองพัทยาได้รับความเสียหายซึ่งนายสมชายถูกพิพากษาให้จำคุกในคดีอาญาดังกล่าวแล้ว

ต่อมาเมืองพัทยาได้ขอหมายตั้งพนักงานบังคับคดี เพื่อให้เมืองพัทยานำพนักงานบังคับคดีไปทำการยึดทรัพย์จำนวนกว่าร้อยล้านบาทของนายสมชาย คุณปลื้ม เพื่อชดใช้ให้แก่เมืองพัทยา ดังนั้น ต้องจับตาดูว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจแต่งตั้งให้นายสนธยา คุณปลื้ม เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา จะทำให้เกิดความเสียหายต่อการบังคับคดียึดทรัพย์นายสมชาย คุณปลื้ม บิดาของนายสนธยา คุณปลื้ม หรือไม่

“ มีคำถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ ทราบหรือไม่ว่า นายสมชาย คุณปลื้ม บิดานายสนธยา ถูกศาลจังหวัดพัทยา พิพากษาให้ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่เมืองพัทยา หากรู้แล้วแต่ยังแต่งตั้งให้นายสนธยา มาดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา จะทำให้เกิดเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนทันที หากอ้างว่าไม่เคยรู้มาก่อน(ซึ่งไม่อยากจะเชื่อ) แต่เมื่อได้แจ้งให้ทราบแล้วเช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะแก้ไขและรับผิดชอบกรณีนี้อย่างไร เรื่องนี้อย่าคิดว่าไม่สำคัญ อาจทำให้ตายน้ำตื้นเอาง่ายๆ

Advertisement

การใช้อำนาจตาม ม. 44 ของพล.อ.ประยุทธ์ นอกจากจะให้นายสนธยา มานั่งในตำแหน่งนายกเมืองพัทยา โดยอ้างว่าเพื่อให้เข้ามาดูแลเรื่อง EEC แล้ว ต้องให้นายสนธยา รีบนำพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ของนายสมชาย คุณปลื้ม ทันที เพราะนายสนธยาย่อมต้องรู้เป็นอย่างดีว่าบิดาของตนมีทรัพย์สินอะไรบ้าง และทรัพย์สินเหล่านั้นอยู่ที่ใด

นายสนธยาต้องรีบดำเนินการทันทีเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน ตามอำนาจหน้าที่ที่นายสนธยาต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัดและโปร่งใส หากนายสนธยาไม่รีบดำเนินการ หรือมีการประวิงเวลาเพื่อช่วยเหลือนายสมชาย ผู้เป็นบิดา เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องชดใช้เงินจำนวนกว่าร้อยล้านบาทให้แก่เมืองพัทยา การกระทำดังกล่าวของนายสนธยาก็อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และหากเป็นเช่นนั้นจริง เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ทราบว่ามีความเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายกับนายสนธยา พล.อ.ประยุทธ์ ก็เข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วยเช่นกัน

ทบทวนกันอีกครั้งก่อนมีการรัฐประหารโดย คสช. ในปี 2557 นายอิทธิพล คุณปลื้ม บุตรชายอีกคนของนายสมชาย คุณปลื้ม ดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา ต่อมาในปี 2558 พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจตาม ม.44 ปลดนายอิทธิพล คุณปลื้ม ออกจากตำแหน่งนายกเมืองพัทยา และให้พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน ต่อมาในต้นปี 2561 มีการดูดอดีต ส.ส. หลายคนจากหลายพรรคเข้าไปร่วมหนุน คสช. เพื่อการสืบทอดอำนาจ วันที่ 17 เมษายน 2561 คณะรัฐมนตรี รัฐบาล คสช. มีมติแต่งตั้งให้นายสนธยา คุณปลื้ม เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และให้นายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และล่าสุดวันที่ 25 กันยายน 2561 พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตาม ม.44 แต่งตั้งให้นายสนธยา คุณปลื้ม มาดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา มีการประเมินว่าการแต่งตั้งนายสนธยา แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการพยายามสร้างฐานทางการเมืองของ คสช. เพื่อการ

Advertisement

กลับมาสู่อำนาจอีกครั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ (สืบทอดอำนาจเผด็จการทหาร)ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ภาคประชาชนจะช่วยกันเกาะติดกรณีนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยกันปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน
/////

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image