เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นาวาอากาศตรีจักรี จงศิริ ครูการบิน และนักบินเทคนิค ฝูงบินโบอิ้ง 734 บริษัทการบินไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์เที่ยวบินการบินไทยล่าช้าที่กำลังอยู่ในความสนใจขณะนี้ ระบุว่า การล่าช้าของเที่ยวบิน TG971 เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 เริ่มจากเวลาประมาณ 10.20 น. ลูกเรือและนักบินมาถึงเครื่อง จนเวลา 10.50 พบว่านักบินเปลี่ยนกะที่โดยสารไปด้วย ได้ที่นั่ง 16ABและ16JK ซึ่งไม่ตรงตามคู่มือ นักบินผู้ควบคุมอากาศยาน (Pilot In Command-PIC) จึงได้โทรถาม นายสถานีซูริคของการบินไทย(KK) ถึงเรื่องการจัดที่นั่งของนักบินเปลี่ยนกะ และขอให้เปลี่ยน 2 ที่นั่ง ให้อยู่ในโซนเฟิร์สคลาส เนื่องจากไฟลต์นี้ปฏิบัติการบินเฉพาะชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด จึงมีที่ว่างให้นักบินเปลี่ยนกะใช้ที่นั่งในโซนเฟิร์สคลาสได้ตามสิทธิ แต่ได้รับคำตอบจากนายสถานีว่า ”ที่นั่งเฟิร์สคลาสเต็มแล้ว”
โพสต์ระบุต่อว่า กัปตัน PIC แปลกใจเนื่องจากตอนคุยสรุปงานก่อนทำงานว่ามีผู้โดยสารชั้นธุรกิจที่ได้นั่งเฟิร์สคลาสเพียง 3 และ 7ที่นั่งตามลำดับเวลา และไม่แน่ใจว่ามีการสำรองที่นั่งผู้โดยสารชั้นธุรกิจที่ได้นั่งเฟิร์สคลาสเพิ่มเข้ามา หรือมีการอัพเกรดผู้โดยสาร หรือมีเหตุผลอื่นใดที่นายสถานีไม่ได้อธิบายให้เข้าใจ จึงขอให้นายสถานีอย่าเพิ่งนำผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ขอให้แก้ปัญหาตรงนี้ก่อน เพราะหากผู้โดยสารขึ้นเครื่องเข้ามาแล้วต้องมีการสับเปลี่ยนที่นั่งภายหลัง จะทำให้แก้ปัญหาภายในเครื่องยุ่งยากกว่าเดิม
“นายสถานี(KK)ยืนยันที่จะไม่เปลี่ยนที่นั่งให้ผู้โดยสาร ตอบว่า “กัปตัน passive แค่นอนกลับ ผู้โดยสารมีค่ากว่า” และกล่าวว่า “เดี๋ยวผู้โดยสารจะร้องเรียน” ไม่มีการติดต่อใดๆจากพนักงานภาคพื้นอีกเลย เวลาผ่านไปถึง 50 นาที เลยเวลาเครื่องออก เป็นครั้งแรกที่ นายสถานีเดินมาหน้าห้องนักบิน บอกว่า “ผู้โดยสารพร้อมแล้ว” กัปตันPIC บอกว่า “จัดการที่นั่งเรียบร้อยหรือยัง” ได้รับคำตอบว่า”ทำไม่ได้” นายสถานีไม่ได้มีคำอธิบายใด ที่จะให้เข้าใจได้มากขึ้น กัปตันPICบอก “ก็ยังไม่ต้องboard” แต่นายสถานีกลับแจ้งดังชัดเจนว่า “งั้นก็ AOG เครื่อง เข้าโรงแรมนอนให้หมด” (Aircraft on Ground) ทางนักบินทุกคนก็ตกใจ และงงกับคำพูดของนายสถานี ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พูดอย่างนั้นได้อย่างไร
“เวลาผ่านไป 30 นาที นายสถานีเดินมาพูดหน้าห้องนักบิน โดยบอกกัปตันPICว่า “ให้โทรกลับไปหา OS กัปตัน…ด้วย” แล้วเดินจากไป กัปตันและนักบินหลายท่านที่นั่งในห้องนักบินได้พยายามเชิญนายสถานีห้มานั่งคุย แต่นายสถานีปฏิเสธและเดินจากไป เวลาผ่านไปอีก 30 นาที นายสถานีเดินมาแจ้ง กัปตันPIC อีกครั้งว่า “PIC ไปแจ้งเหตุผลแก่ผู้โดยสารหน้าเกทเอง” แล้วก็เดินจากไป
“อีก10นาทีต่อมา นายสถานีเดินมาพูดว่า “มีแต่ DK(กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น)เท่านั้นที่จะบอกให้ผมย้ายที่นั่งผู้โดยสารได้” เวลาผ่านไป 10นาที พนักงานภาคพื้นผู้หญิงเข้ามาแจ้งว่านายสถานีกำลังคุยกับทาง DK เวลาผ่านไป 15นาที พนักงานภาคพื้นเข้ามาแจ้งว่า ทุกอย่างเรียบร้อย จึงเริ่มทำการนำผู้โดยสารขึ้นเครื่อง แล้วเสร็จภายใน 20 นาที จึงดำเนินการขออนุญาตทำการบินต่อไป เครื่องบินจอดที่กรุงเทพเวลา 00.06”
นาวาอากาศตรีจักรีมีข้อเสนอแนะว่า
1. เมื่อเที่ยวบินใดทำการบินแบบชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด ด้วยเครื่องบินที่มีเฟิร์สคลาส (B747/A380) ขอให้ระบบปิดในโซนเฟิร์สคลาส เพื่อผู้โดยสารชั้นธุรกิจจะไม่สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าในเฟิร์สคลาสได้ เพื่อป้องกันปัญหาความเหลื่อมล้ำ การร้องเรียน ความเสียหายของเก้าอี้ และอุปกรณ์บนเครื่องบิน หรือปัญหาอื่นๆที่อาจจะเกิดขึ้น
2. ขอให้พนักงานภาคพื้นติดต่อสื่อสารกับ PIC หรือหัวหน้าลูกเรือให้เข้าใจรับรู้ในสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้น อย่างถูกต้องและต่อเนื่องหากมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปจากเอกสาร หรือการบรีฟที่ได้รับก่อนการบิน เพื่อนักบินและลูกเรือจะได้เตรียมความพร้อมที่จะให้บริการอย่างถูกต้อง
3. การแก้ปัญหาใดๆก็ตามที่ต้องใช้เวลามาก ขอให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงข้อจำกัดเรื่องชั่วโมงการบินของนักบินและลูกเรือด้วย
“ไฟลต์971วันนี้ทำการบินโดยนักบินเพียง3ท่าน อีกเพียง2ชั่วโมงจะหมดเวลาตามข้อกำหนด ก็ต้องยกเลิกไฟลต์หรือ นักบิน3คนที่ต้องทำการบินต่อไปอีก10-11ชั่วโมงนั้นไม่อาจทราบว่าจะพบเจออะไรระหว่างทางและอาจกระทบกระเทือนถึงความปลอดภัยของเที่ยวบินได้
4. ลูกเรือ passive แม้จะไม่ได้ปฏิบัติงานในเที่ยวบินนั้นๆ แต่ก็บินมาเพื่อเตรียมพร้อมในการทำงานในเที่ยวบินขากลับ ขอให้พนักงานภาคพื้นตรวจสอบตรวจตราจัดเตรียมรถรับส่งให้เพียงพอกับนักบินและลูกเรือในวันนั้น เพราะทางสถานีน่าจะทราบข้อมูลล่วงหน้าแล้ว ไม่สมควรให้ลูกเรือหรือนักบินนั่งแท๊กซี่ไปโรงแรมเอง เพื่อความปลอดภัย ความเป็นระเบียบ และภาพลักษณ์ที่ดีของสายการบิน ไฟลท์970 วันที่ 10 ต.ค. ที่PICมานั้นนักบินและลูกเรือ4ท่าน ต้องเรียกรถแท๊กซี่เพื่อนั่งไปโรงแรมที่พักเอง
