‘หมอเด็ก’ แนะเรียนรู้จากละครเลือดข้นคนจาง ‘คำหวังดีที่ขาดความละเอียดอ่อน’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมอมิน บานเย็น ได้โพสต์ในเพจดัง “เข็นเด็กขึ้นภูเขา” ได้โพสต์ข้อความกรณีละครเรื่อง “เลือดข้นคนจาง” เกี่ยวกับกรณีข้อถกเถียงระหว่างประเสริฐและเมธ ผู้เป็นพี่ชายกับน้องชายเพื่อตักเตือนน้อง
โดย “หมอมิน บานเย็น” ได้ ระบุว่า “คำพูดหวังดีที่ขาดความละเอียดอ่อน” พร้อมกับยกตัวอย่าง โดยระบุว่า

“มันเหมือนมีดกรีดซ้ำลงมาบนแผลในใจ ตั้งแต่รู้ว่าพี่ชายที่สนิทที่สุดรู้เรื่องนี้ เจ็บใจยิ่งกว่าที่ทุกคนก็รู้ และคิดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินพี่ชายบอกว่าให้ลืมๆ มันไป เหมือนมันเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ เขาผิดใช่มั้ยที่โกรธและเสียใจ ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่ฝังใจเกินจะลืมจนขนาดตอนนี้ เมื่อเขารู้ความจริงว่าจริงๆ แล้วคนที่เป็นสาเหตุทำให้เมียและลูกของเขาตายไปเป็นใคร แต่ทว่า แม้แต่พี่ชายที่เขารักและเคารพที่สุดก็ไม่เข้าใจเขาแถมยังพูดเหมือนโทษเขาอีก เมธเจ็บที่สุดแล้ว ถ้าไม่นับตั้งแต่ 20 ปีก่อน วันที่เห็นเมียตัวเองแขวนคอตายไปต่อหน้าต่อตา

‘เมธ’ เป็นลูกชายคนที่สองของครอบครัวจิระอนันต์ เขาเพิ่งรู้ความจริงเบื้องหลังการฆ่าตัวตายของภรรยา ‘พิม’ ที่ฆ่าตัวตายเพราะว่าเสียใจที่แท้งลูก เดิมเขาคิดว่ามันเกิดจากเหตุสุดวิสัย แต่จริงๆ แล้วที่พิมแท้งลูกเพราะว่า ‘คริส’ ภรรยาของพี่ชายวางยาพิมเพื่อให้การแท้งเกิดขึ้น ความจริงนี้ซ่อนอยู่ในสมุดภาพบันทึกของพ่อที่เสียชีวิตไปนั่นเอง เขาตกใจมาก และเดินมาเพื่อจะคุยกับคริสให้รู้เรื่อง แต่เมธกลับพบเพียง ‘ประเสริฐ’ พี่ชายของเขาอยู่ในบ้าน

“ป๊าวาดเอาไว้ เมียผมเสียใจมากที่แท้งลูกจนเค้าต้องฆ่าตัวตาย ผมโทษโชคชะตาตัวเองมาตลอด ว่าทำไมเกิดมาต้องมีชีวิตโชคร้ายแบบนี้ แต่ความจริงมันไม่ใช่ คนที่วางยาให้เมียผมแท้งลูก ก็คือคริส เมียเฮีย”

Advertisement

“ไม่เอานะเมธ แกหยุดพูดอะไรลอยๆ ได้แล้ว”

“ก่อนตายป๊าขอโทษผม ป๊าเสียใจพาผู้หญิงคนนี้มาอยู่ในบ้าน มาอยู่ในครอบครัวเรา ทำให้ครอบครัวเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้ เฮียมันก็โง่เหมือนกับผมนั่นแหละ ที่ไม่รู้อะไรเลย”

แต่ประเสริฐไม่ได้ทำหน้าแปลกใจหลังจากที่ได้ยิน

“เฮียรู้เหรอ เรื่องนี้…เฮียรู้เหรอ” เมธแทบจะไม่เชื่อว่าพี่ชายเขาเองรู้เรื่องนี้

“เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเริ่มต้นใหม่เถอะเมธ”

“เฮีย ลูกผมนะเฮีย มีใครรู้เรื่องนี้บ้างเฮีย” เมธร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น

ประเสริฐหลบตา ไม่ตอบ เมธเดาได้ไม่ยากว่าไม่ใช่พี่ชายคนเดียวที่รู้เรื่องนี้

“รู้ไปแล้วได้อะไรล่ะ รู้ไปแล้วได้อะไร”

“รู้ทุกคนเลยเหรอเฮีย”

“พวกเราหวังดีกับแก”

“ทำไม ทำไมทุกคนทำอย่างนี้กับผมเฮีย ดูเมียเฮียสิยังเดินลอยหน้าอยู่เลย”

“เมธ แกเลิกบ้าแบบนี้ได้แล้วนะ แกเจอคริสแล้วแกจะทำยังไง เมียแกก็ไม่มีทางกลับมา”

“เฮียอย่าพูดเลย”

“เรื่องมันผ่านไปนานกว่า 20 ปีแล้ว มันผ่านไปแล้ว แกกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้”

“หยุดพูด”

“เมธ ชีวิตแกเดินไปข้างหน้า จนตอนนี้แกมีลูกสาวโตขนาดนี้แล้ว เรื่องในอดีตแกปล่อยให้มันผ่านไปได้ไหม แกไม่ยอมลืมพิมไง แม่เหม่เหมถึงได้ทิ้งแก ทำให้ลูกสาวต้องขาดแม่แบบนี้ แกเคยดีกว่านี้นะ แกเคยทำอะไรได้ตั้งมากมาย แกต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้”

ประโยคสุดท้ายของประเสริฐทำให้เมธขาดสติ

“บอกให้หยุดพูด”

ปัง…

กระสุนพุ่งไปที่ประเสริฐ ปืนวางอยู่ในจุดที่เขาคว้ามันได้พอดี พร้อมๆ กับเวลาที่เขาเจ็บปวดเกินกว่าจะฟังพี่ชายพูดอะไรต่อไปอีก

.

ประเสริฐเป็นคนรักครอบครัว แต่เขาก็เป็นคนตรงๆ ไม่ได้ละเอียดอ่อนกับความรู้สึกคนรอบข้างนัก เหมือนที่เราเห็นในซีรีส์ตอนแรก ที่ลูกน้องมาเชิญเขาไปร่วมงานแต่งงาน เขาดูเฉยเมย เพราะเป็นคนไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียด สิ่งสำคัญคือครอบครัวและธุรกิจ ที่เห็นได้ชัดคือตอนที่ภัสสรน้องสาวกำลังผิดหวังน้อยใจเรื่องหุ้น ไม่มีคำปลอบโยนใดๆ มีแต่คำพูดบอกให้ภัสสรเข้าใจและยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น

คำพูดของเขาที่พูดกับน้องชายก็เช่นกัน ทั้งที่จริงๆ ประเสริฐก็รักและห่วงน้องชายอย่างเมธมาก

ถ้าประเสริฐจะเปลี่ยนทีท่าและคำพูดสักหน่อย เข้าใจความทุกข์และเจ็บปวดของเมธมากกว่านี้ก็อาจจะไม่ต้องพบกับจุดจบแบบนี้

หมอลองนั่งคิดว่า ถ้าหมอเป็นประเสริฐ หมอจะพูดอะไรกับน้องชายที่กำลังเสียใจมากๆ

ก่อนอื่นต้องเข้าไปกอดน้องชายก่อนเลย การกอดก็เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกที่ดี ว่าเรารักและเป็นห่วงเขานะ

“เมธ เฮียรู้ว่าแกเสียใจมาก เฮียขอโทษนะที่ไม่ได้บอกความจริงกับแก คนอื่นๆ ก็คิดเหมือนเฮีย ทุกคนเป็นห่วงความรู้สึกแกมาก ก็เลยปิดบังความจริง เมธ ชีวิตแกเดินไปข้างหน้านะ เรื่องในอดีตมันเจ็บปวด เฮียเข้าใจแกนะ แต่เราย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ถึงเราจะอยากทำแบบนั้นแค่ไหน ตอนนี้ค่อยๆ นั่งคิดกันนะเมธ ว่าเราจะจัดการเรื่องนี้ต่อไปยังไง เฮียอยู่ตรงนี้กับแกนะ แกคิดเห็นยังไง อยากทำอะไรต่อไปเรื่องนี้ เราจะคุยกัน แกผ่านอะไรต่างๆ มาได้ตั้งมากมาย เฮียเชื่อนะว่าแกจะผ่านมันไปได้”

คำพูดสะท้อนความรู้สึก แสดงว่าเรามองเห็นว่าเขากำลังเจ็บปวด เศร้าเสียใจ ตรงนั้นจะช่วยได้มาก ไม่ต้องคิดว่าจะต้องพูดแนะนำ ไม่ต้องพูดในทำนองว่าเป็นความผิดของเขานะ ยิ่งทำให้คนฟังรู้สึกว่าเราไม่เข้าใจ เหมือนเอาน้ำกรดราดไปบนแผลสด ประมาณนั้น

ตรงนี้พ่อแม่และทุกคนที่อ่านก็ควรเรียนรู้ วิธีพูดและสื่อสารอย่างไรให้คนฟังเข้าใจความห่วงใยและหวังดี บางทีคำพูดด้วยความเป็นห่วงที่ขาดความละเอียดอ่อนก็กลายเป็นผลเสีย ไม่พูดเลยอาจจะดีกว่าถ้าเป็นแบบนั้น

เมื่อเป็นเรื่องของครอบครัว คนที่มาอยู่ร่วมกัน มีสัมพันธภาพ การต้องมาร่วมทุกข์ร่วมสุข ความรักคงไม่เพียงพอ ต้องอาศัยความเข้าใจ และการเห็นอกเห็นใจ การเอาใจเขามาใส่ใจเรา ต้องมีความละเอียดอ่อนในความสัมพันธ์ที่มีให้กัน

#หมอมินบานเย็น
#เลือดข้นคนจาง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image