แชร์กระหน่ำ! แบบประเมินรพ. คนไข้ไม่เห็นด้วย ‘หมอพักเที่ยง’

ห้ามหมอพักกลางวัน
ห้ามหมอพักกลางวัน

จากกรณีเฟซบุ๊ก Thithat Gapziix Jaiyen ได้เผยแพร่กระดาษประเมินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยระบุว่า แบบประเมินความพึงพอใจและความคิดเห็นของผู้ป่วยที่ไม่เห็นด้วยที่แพทย์และพยาบาลพักเที่ยงนั้น นำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกออนไลน์

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thithat Gapziix Jaiyen ระบุว่า แบบประเมินความพึงพอใจ และความคิดเห็น ผู้ป่วยคลินิกความดันโลหิตสูง เดือน พย ไม่ใช่ห้องฉุกเฉินนะ เธอๆๆๆ โรงบาลเธอตอนเที่ยงคลินิกความดันเขาเปิดมะตอนเที่ยง โรงบาลเราเขาเสนอมาห้ามหมอกับพยาบาลพักเที่ยง ปล.จะสลับพักก็ไม่ได้นะครับ รพ เล็ก บุคคลากรน้อยทุกแผนก ขออภัยในความไม่สะดวกครับ เพิ่มเติมนะครับ อาจจะผิด หรือไม่เหมาะสมกับการนำมาลงสู่สาธารณะ ไม่อยากให้อ่านในเพียงแต่องค์กรของ รพ แต่ผมอยากให้เป็นแรงขับเคลื่อนทางสังคม ให้ถึงผู้ใหญ่สู่การพัฒนาในอนาคต ของ วงการสาธารณสุขครับ อย่ามองว่าเป็นการประจานครับ ไม่ได้ด่าถอต่อว่าแต่เพียงใดเลย และผมไม่ได้นำชื่อเขามาเปิดเผย เป็นความคิดเห็นของผู้รับบริการสู่สาธาระชน จะได้พูดคุยเผื่อมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนที่มองว่า “ก็เค้าบอกให้สลับกันพัก อ่านไม่ออกไม่เข้าใจหรอวะ คิดไม่เป็นหรอวะว่าสลับกันพัก” ผมเห็นตั้งแต่แรกแล้วครับใบแผ่นที่สอง

โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของแพทยืและพยาบาล อาทิ น่าเห็นใจคุณหมอเคยพาแม่ไปหาโรงบาลศูนย์ขอนแก่นคนไข้เยอะมากๆๆคุณหมอไม่ได้ลุกจากโต๊ะทำงานเลยแค่พักกินข้าวให้เค้าหยุดบ้างเถอะค่ะ, แล้วหมอกับพยาบาลไม่ใช่คนหรอ??

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าว พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Ittaporn Kanacharoen ให้ความเห็นว่า “หมอเป็นสิ่งมีชีวิต…ที่ต้องทานอาหารมื้อเที่ยง…เพื่อมีพลังทำงานตอนบ่าย…เช่นเดียวกับคนทั่วไป โปรดให้หมอโอพีดีได้พักทานข้าวกลางวัน…ด้วยเถิดครับ”

“ส่วนห้องฉุกเฉิน ห้อง ICU และ ส่วนที่ผู้ป่วยอาการหนัก จะมีแพทย์ประจำครอบคลุมช่วงเที่ยงอยู่แล้วครับ ในโอพีดีถ้าโรงพยาบาลจะให้ทำงานสลับกันตลอดช่วงเวลาโดยไม่ต้องหยุดนั้น น่าจะดีสำหรับผู้ป่วยเพื่อลดการรอคอย แต่จะใช้ได้ในสถานการณ์ที่แพทย์เพียงพอ จนสามารถหยุดทานอาหารก่อน หรือหลังเวลา เพื่อสลับกันมาเข้าเวรช่วงเที่ยงได้ ในคลินิกที่ผู้ป่วยเยอะมาก ซึ่งในหลายแห่งทำอยู่แล้ว แต่บางที่ยังไม่สามารถทำได้ อาจเพราะแพทย์และบุคลากรยังไม่เพียงพอครับ”

Advertisement

ขอบคุณภาพเฟซบุ๊ก Thithat Gapsiix Jaiyen, Ittaporn Kanacharoen

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image