| ที่มา | มติชนออนไลน์ |
|---|
สืบเนื่องจากกรณีเด็กนักเรียนถูกปล่อยทิ้งในรถตู้นานหลายชั่วโมงจนเสียชีวิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค. เกิดกระแสการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการสอนบุตรหลานให้ขอความช่วยเหลือด้วยการบีบแตร ซึ่งถูกโพสต์ในเฟซบุ๊คแฟนเพจ Spartan Doctor ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 1 แสนราย
ข้อความมีดังนี้
เห็นข่าวเด็กอนุบาลถูกขังในรถตู้รับส่งเด็กจนเสียชีวิตแล้วสลดใจ เกิดขึ้นซ้ำซากบ่อยจนน่าใจหาย
ทางแก้ไขที่สำคัญคือ คนขับรถโดยสารเหล่านี้ ควรใส่ใจตรวจสอบที่นั่งบนรถทุกครั้งที่จะปิดรถจนเป็นนิสัยเป็นกิจวัตร แม้จะแน่ใจว่าไม่น่ามีเด็กเหลือก็ต้องตรวจทุกครั้ง เพราะถ้าพลาดครั้งนึงก็เกิดความสูญเสีย ( คนไทยมักนิสัยมักง่ายขาดวินัยในอาชีพตน )
Advertisementแต่สิ่งที่เราอาจช่วยป้องกันให้ลูกหลานเราได้คือ สอนให้รู้จักการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ เช่นในกรณีถูกขังในรถ ต้องสอนให้รู้จักว่ามีแตรรถอยู่ตรงไหน กดตรงไหน ให้เค้ารู้จัก สาธิตให้ดูและให้เค้ากด และรู้จักการปีนมาบีบเรียกคนมาถ้าโดนขังในรถ ( ไม่ว่าจะรถโรงเรียน หรือใช้รถส่วนตัว ก็ควรสอนไว้ )
การสอนให้รู้จักเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆกลับได้รับการสอน หรือสอนลูกสอนหลานน้อยจนน่าใจหาย เพราะเรามักคิดว่า “ไม่เกิดขึ้นกับฉันร็อกก กังวลเกินเหตุ”
แต่การมีความรู้เอาตัวรอดประดับตัวไว้ ผมว่าเป็นการกันดีกว่าแก้ที่น่าทำครับ
เมื่อข้อความถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองที่นำประสบการณ์มาแบ่งปัน และแนะนำวิธีการต่างๆที่อาจป้องกันการเกิดโศกนาฏกรรมได้ เช่น บางรายเสนอว่าควรให้เด็กจับคู่กัน หากอีกคนหนึ่งหลับ ต้องปลุกหรือบอกผู้ใหญ่ , รถตู้รับส่งเด็กควรเขียนข้อความติดไว้หน้ารถว่า ก่อนล็อกต้องตรวจสอบภายในรถทุกครั้ง บางรายระบุว่าควรให้เด็กอนุบาลนั่งแถวหน้า เด็กโตให้นั่งแถวท้ายๆ เพื่อป้องกันการมองเล็ดรอดไปได้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้ตั้งคำถามว่า กรณีที่รถยนต์ถูกดับเครื่อง จะสามารถบีบแตรให้เกิดเสียงได้หรือไม่ ซึ่งมีผู้แสดงความเห็นที่หลากหลาย บ้างก็ว่า รถยนต์รุ่นเก่า แม้เครื่องดับแตรก็ยังทำงาน บางส่วนระบุว่า รถยนต์รุ่นใหม่ก็สามารถบีบแตรขณะที่ดับเครื่องได้เช่นกัน ในขณะที่บางรายให้ข้อมูลว่ารถยนต์บางรุ่นแตรไม่ทำงานเมื่อดับเครื่อง
