ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์มมีการแชร์เหตุการณ์ของผู้ใช้ฟชบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งได้เล่าเหตุการณ์ ถูกพนักงานโหลดกระเป๋าเดินทางของสายการบินดังขโมยโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ไอโฟน ต่อมาได้ติดตามโทรศัพท์จากการค้นหาจากโปรแกรม Find My IPhone จนกระทั่งพบโทรศัพท์ของเธอ
ทั้งนี้ข้อความจากเฟชบุ๊กระบุว่า อุทาหรณ์เตือนใจ !!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเราเอง เมื่อวันที่ 9 มีนาคม เราเดินทางจากอุดร มา ดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสายการบินแห่งหนึ่ง เครื่องขึ้น 18.15 ก่อนขึ้นเครื่องเราได้ทำการโหลดกระเป๋า และด้วยมือถือเรามี 2 เครื่องพกติดตัวไม่สะดวกเราเลยปิดเครื่องมือถือบริษัท แล้วใส่ลงในกระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดเที่ยวขาไปอุดรเราก็โหลดก็ไม่มีปัญหา **ก่อนโหลดโทรศัพท์ลงกระเป๋าเราสอบถามเจ้าหน้าที่เค้าเตอร์แล้วเจ้าหน้าที่ว่าสามารถโหลดได้จึงโหลดค่ะ . พอเครื่องลงยังสนามบินดอนเมือง ตอนเวลา ทุ่มกว่าๆ เราลงเครื่องแล้วตรงไปยังจุดสายพานรับกระเป๋าแล้วก็ตรงกลับบ้านเลยไม่ได้มีการเปิดกระเป๋าใดๆ เมื่อถึงคอนโดเราก็เลยเปิดรื้อของ และจะเอาโทรศัพท์ปรากฏว่าโทรศัพท์หายไป ในใจตอนแรกไม่มั่นใจว่าหายที่โรงแรมที่อุดร ในรถที่เช่า หรือ สนามบิน วันรุ่งขึ้นก็เลยไปแจ้งความที่ สน. โชคชัยตามสัญญานอีมี่ . วันอาทิตย์ที่ 10 เวลา 22.55 find my iPhone ขึ้นพิกัดแจ้งเตือน คนร้ายที่เอาไปได้เปิดเครื่องโทรศัพท์ พิกัดขึ้นที่คลอง 2 ลำลูกกา ตอนเช้าเราเลยตัดสินใจนั่งรถไปตามพิกัด ที่จับได้ เจอบ้านคนร้ายมีเสื้อที่บ่งบอกว่าทำงานอยู่สนามบินแขวนอยู่ เราเลยถ่ายรูป หน้าบ้านแล้วไปแจ้งความที่ สน. คูคต ให้สายตรวจไปหน้าบ้านคนร้ายด้วย สรุปคนร้าย ยอมคืนโทรศัพท์ แต่อ้างว่า รับซื้อต่อมาจากหญิงสาวพนักงานทำความสะอาด ของสายการบิน เราเลยแจ้งความเค้าฐานรับของโจร จากนั้นก็ไปสนามบิน เพื่อไปตามหา หญิงสาวที่มีการอ้าง ว่ามีตัวตนไหม ทางสายการบินก็ตามตัวให้จนเจอ หญิงสาวรายนั้นก็อ้างอีกว่าเอามาจากแฟน ซึ่งแฟนเป็นหัวหน้างาน คือตกใจมากว่าเป็นขบวนการขนาดนี้เลยหรอ ตอนนี้กำลังออกหมายจับเพราะนางหนีไม่มาให้ปากคำ แล้วทางกระบวนการกฏหมายก็ช้ามากๆ จึงอยากให้เคสของเราที่เกิดขึ้น เป็นอุทาหรณ์เตือนใจว่าอย่าโหลดของมีค่าลงกระเป๋าเพราะมันมีเหตุการณ์ค้นกระเป๋าเดินทางผู้โดยสารจริงๆ ซึ่งทำกันมานานแล้วเท่าไหร่ก็ไม่รู้ น่าคิดว่าอะไรคือความปลอดภัยในการเดินทางหรือใช้บริการกันแน่ค่ะ !!! 
