หมอแนะ รณรงค์อย่ากอด-หอมลูกคนอื่น ชี้ ผู้ใหญ่คือตัวนำพาเชื้อโรคชั้นดี!

กรณี ลักขณา อมิตรสูญ หรือ อุ้ม นักแสดงสาวชื่อดัง พร้อมลูกสาว ได้ไปร่วมแสดงความยินดีในงานแต่งงานของ สุธีวัน ทวีสิน หรือใบเตย อาร์สยาม และพัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา หรือดีแจแมน แต่หลังจากงานนักแสดงสาวได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับลูกคนเล็กผ่านอินสตาแกรมว่า

“ด้วยความน่ารัก หนูโดนหอม จับมือ จับแก้มตลอดเวลา แม่ขอเถอะนะคะ มือเราบางทีไปจับอะไรมา ไม่ได้ล้างมือแล้วมาจับมือน้อง มาหอมแก้มน้อง มันมีแต่เชื้อโรค เด็กยังไม่มีภูมิคุ้มกัน แล้วน้องก็เป็นผื่นคันทั้งหน้า ดีไม่ดีอาจติดเชื้อในกระแสเลือดได้ เดี๋ยวนี้โรคระบาดเยอะ …คนมีลูกถึงจะเข้าใจเวลาที่เค้าเจ็บป่วย…”

นอกจากนี้ อุ้ม ลักขณา ยังระบุว่า คนบางคนไม่เข้าใจมาจับมือน้องอยู่นั่น แม่เอาออกก็ดึงไปจับอีก จะให้พูดตรงๆ เดี๋ยวก็หาว่าไม่ดี คนเขารักเขาเอ็นดูลูกเรา เวลาลูกเราป่วยมาเอ็นดูกับเราไหม บางคนถามขอจับหน่อยนะคะ แม่ยังไม่ทันตอบมือมาถึงแล้ว ที่พูดรวมถึงเด็กๆ ทุกคนด้วย เราเอ็นดูเขาได้แต่อย่าไปจับลูกเขาเลย แม่ๆ ด้วยกันคงเข้าใจที่สุด ข่าวก็ออกเยอะแยะเรื่องเชื้อโรคที่มาจากผู้ใหญ่จับหอมเด็ก อ่านบ้าง

ด้าน ผศ.นพ.วรวุฒิ เชยประเสริฐ กุมารแพทย์เฉพาะทางด้านโลหิตวิทยา และมะเร็งในเด็ก เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก เลี้ยงลูกตามใจหมอ ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า รณรงค์การไม่กอดหอมลูกคนอื่น … คุณอุ้มได้พูดแทนหมอเด็กและคุณพ่อคุณแม่ได้ถูกต้องและเห็นภาพที่สุดแล้ว ผู้ใหญ่คือตัวนำพาเชื้อโรคชั้นดีมาให้เด็กอยู่เสมอมา เพราะผู้ใหญ่ภูมิคุ้มกันดีกว่า สัมผัสเชื้ออาจไม่มีอาการ แต่พอส่งต่อมาให้เด็กสัมผัสเชื้อบางทีก็เรื่องใหญ่

Advertisement

ไม่อย่างนั้นคงไม่เห็นเด็กเล็กที่ไม่เคยออกจากบ้านไปไหนติดเชื้อ RSV เนื่องจากเชื้อเหล่านี้ไม่เก่งขนาดแทรกเข้าหน้าต่างมาหาเด็กได้เอง แต่ต้องมีคนพาเชื้อมาให้เด็ก จริงอยู่ที่ว่าเชื้อไวรัสส่วนใหญ่สามารถลอยอยู่ได้ในอากาศ แต่ก็ต้องออกมาจากสารคัดหลั่งที่ไอ จามมาให้เด็กสัมผัส และเชื้อเหล่านี้จะมีรัศมีอยู่ไม่กี่เมตร

ส่วนการพาลูกออกจากบ้าน พ้อแม่ต้องรับรู้ความเสี่ยงที่ลูกต้องสัมผัสคนป่วยหรือเชื้อโรคอยู่แล้ว ซึ่งต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียดีแล้ว จึงพาลูกออกจากบ้าน เพื่อให้เขาเจอที่ใหม่ๆ คนใหม่ๆ กิจกรรมใหม่ๆ เพื่อพัฒนาการที่ดีของลูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมรับความเสี่ยงจากมือ ปาก น้ำลายของคนทั่วไป ที่พอเห็นลูกน่ารักก็พุ่งตัวเข้ามาจับ กอด หอมกันตามอัธยาศัย

ทั้งนี้ ผศ.นพ.วรวุฒิ ย้ำว่า มีเด็กป่วย และตายจากการกอดหอมมาไม่น้อยแล้ว โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ไข้หวัดใหญ่ยังระบาด RSV ยังมาเรื่อยๆ มือเท้าปากเพิ่งเริ่มซาลงไป

“ไม่ใช่ญาติ อย่าไปกอด หอมลูกใครดีที่สุด แม้จะเป็นญาติก็ควรล้างมือก่อนสัมผัสเด็กอยู่ดี เพราะนั่นคือความปลอดภัยที่เราหยิบยื่นให้เด็กได้”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image