แท็กซี่เลิกหัวร้อน! จับมือสงบศึก ทำใจถูกเรียก 5 แสน เมียโฮ ลูกถูกรุมด่าเพราะคลิป

แท็กซี่เลิกหัวร้อนแล้ว! จับมือสงบศึกคู่กรณี ทำใจถูกเรียกค่าเสียหาย 5 แสน ด้านเมียปล่อยโฮ

จากกรณีโลกโซเชียล โพสต์คลิปเหตุการณ์เจอคนขับแท็กซี่หัวร้อน ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมท้าต่อยตลอดเวลาในเขตสนามหลวง แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจมาห้าม ก็ยังพยายามทำร้ายร่างกาย ปัดโทรศัพท์แตกเสียหาย ทำให้กรมขนส่งทางบก เรียกเข้ามาชี้แจ้งแล้วจ่ายค่าปรับ ทั้งพักใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะเป็นเวลา 1 เดือน

รายการโหนกระแส วันที่ 18 ตุลาคม ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้เกาะติดประเด็นดังกล่าว เปิดใจสัมภาษณ์ เจตนิพัทธิ์ , พสิน , สมหมาย คู่กรณี “ทวีศักดิ์ บุรุสานนท์” คนขับแท็กซี่  ซึ่งมาพร้อมภรรยา

เมื่อวานไม่ให้อภัย?

Advertisement

พสิน : “ยังจะไม่ให้อภัย แต่มีโอกาส เราเปิดโอกาสให้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังครับ”

แท็กซี่ : “ผมยอมรับว่าผมเป็นคนใจร้อนจริงๆ ขอโทษที่ใช้วาจาไม่สุภาพ อย่างพี่คนกลาง ผมขอโทษด้วยที่ใช้วาจาและกิริยาไม่สุภาพ ตอนนี้ผมก็ทบทวนและไตร่ตรองทุกอย่างแล้ว สิ่งที่ผมทำไปก็มีส่วนไม่ถูกเยอะ แต่ผมจะบอกนิดนึงว่าก่อนผมมีอารมณ์แบบนี้ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปหาเรื่องคุณก่อนเปิดฉากทะเลาะกับคุณ ทุกวันที่ผมขับรถผมตั้งใจหาเงินเข้าบ้าน เลี้ยงดูลูกเมีย บางทีผมโดนละเมิด แต่หลังจากนี้จะยับยั้งอารมณ์ตัวเอง ตอนนี้ผมก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าการใช้อารมณ์มากเกินไปเป็นยังไง ผมจะปรับปรุง และขอโทษกับสิ่งที่ผมพาดพิงในวันนั้นด้วย หลังจากนี้ผมจะปรับปรุงตัวเอง และจะใช้ชีวิตแบบใหม่ จะไม่ทำแบบนี้ จะไม่ทะเลาะกับใคร”

 

Advertisement

พี่ๆ ว่าไง พี่แท็กซี่เขาขอโทษ?

เจตนิพัทธิ์  : “ผมก็ทำอาชีพ หาเงินเหมือนกัน ไม่ใช่เขาทำอาชีพหาเงินคนเดียว จริงๆ แล้วผมยอมความตั้งแต่ชั้นตร.แล้ว ลองถามเขาได้ว่าผมให้ร้อยเวรหรือผู้กองไกล่เกลี่ยไปแล้ว แม่ปฏิบัติธรรมค่อนข้างจะเคร่ง แม่ไม่ให้เราไปอาฆาตแค้น ผมใจเย็น ได้จากคุณแม่ เมื่อก่อนผมก็เคยหัวร้อน ผมเป็นอาจารย์มา 15 ปี ผมสอนมวยและไม่เคยไปทำร้ายใครก่อน ไม่เคยหาเรื่องใคร เพราะถ้าผมทำ คงไม่ต้องบอกว่ารูปแบบจะออกมาเป็นแบบไหน ไม่อยากให้เกิดคดีความ ผมให้โอกาสเขาถึง 2 ครั้งในชั้นตำรวจ ถ้าคุณยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ผมเรื่องทำให้เสียทรัพย์ ผมก็ยอม 5 พันบาท สุดท้ายตอนนี้พอเรื่องบานปลาย ผมก็ต้องจ่ายค่าทนายความ เขาก็โดนปรับ สุดท้ายเขาเสียน้อยเสียยาก เขาไม่ยอมความ เขาบอกว่าถ้าผมไม่ยอม เขาก็ไม่ยอม ผมบอกว่าผมยอมให้คุณ แต่คุณต้องจ่ายค่าเสียหายเพราะคุณทำผมให้ทรัพย์สินเสียหาย แต่เรื่องชกต่อยเรื่องเล็ก เป็นเรื่องกระจอกครับ มันไม่ได้เจ็บสำหรับผม แต่คำด่าพวกนั้นมันเจ็บกว่าโดนต่อย”

 

ให้โอกาสยอมความ ทำไมไม่ยอม?

แท็กซี่ : “ตอนนั้นเรื่องมันไม่ถูกต้องทั้งหมด”

เจตนิพัทธิ์ : “เรื่องมันยังไม่ดังครับ”

แท็กซี่ : “ตอนนี้ผมทบทวนแล้วว่าผมยุติดีกว่า ผมยอมรับมันดีกว่า”

 ตอนนี้มีผู้เสียหายออกมาเยอะ มีคลิปออกมาเยอะ พี่แท็กซี่เลยยอมยุติหรือเปล่า โดนกดดันจากสังคมหรือเปล่า?

เมียแท็กซี่ : “ลูกและครอบครัวค่ะ ขอใช้สิทธิ์การเป็นแม่ปกป้องลูกสองคน ที่โดนโซเชียลรุมด่าลูก ใช้คำพูดหยาบคาย เพราะคนสองคนที่ทำเรื่องขึ้นมา เด็กไม่เกี่ยวไม่รู้เรื่องต้องมารับรู้เรื่องของพ่อ เรื่องของคนข้างนอก ทำไมต้องด่าต้องว่าลูก ลูกมันรู้เรื่องอะไร  ลูกลงมาจะไปเรียนพิเศษ เปิดคอมพ์ดูว่าแม่ทำไมเขาด่าพ่อแบบนี้ (ร้องไห้) ถ้าคุณไม่เอาคลิปไปลงพวกโซเชียลจะรุมด่าลูกเราแบบนี้มั้ย ณ ตอนนี้ก็ยังด่าอยู่ ขอถามว่าเด็กไปเกี่ยวอะไรด้วย แม่มีลูก 2 คน คุณทะเลาะกับแฟนเรา แต่ลูกเราตัวเราไม่เกี่ยว หัวอกคนเป็นแม่ เด็กบริสุทธิ์แค่ไหน ต้องมานั่งโดนด่าขนาดนี้เหรอ มันไม่ถูกต้อง คุณทะเลาะกันก็เอาเรื่องกันไปสิ อย่ามาเกี่ยวกับลูกเรา หนูมาขอความยุติธรรม (ร้องไห้)”

 

ย้อนกลับมา เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเพราะสามี?

เมียแท็กซี่ : “หนูยอมรับ หนูขอโทษ แฟนหนูหัวร้อนอารมณ์ร้อน หนูก็พูดกับเขาอยู่วาให้เย็นบ้าง ยอมรับว่าอารมณ์ร้อนจริง แต่ถ้าไม่มีเหตุเขาจะไม่เป็นแบบนี้”

 

ไม่ได้เอาลูกมาเป็นตัวประกันขอความเห็นใจ?

เมียแท็กซี่ : “ไม่ค่ะ ลูกหนูโดนกระทำจริงๆ หนูออกมาปกป้องลูก ลูกโดนรุมด่า หนูมีหลักฐาน ให้ดูได้ว่าเขาด่ายังไง เพราะคลิปที่เขาลงไปว่าพ่อเป็นอย่างนี้ๆ เขารุมด่าลูกหนูกัน แล้วใครจะรับผิดชอบได้”

 

เพราะพี่แท็กซี่หรือเปล่าทำให้ลูกเดือดร้อน?

แท็กซี่ : “ก็มีส่วน แต่ถ้าจะว่ากันก็มาว่าผม แต่ที่โดนตอนนี้คือเข้าไปเฟซลูก ไปด่าตัวลูก ไม่ได้มาว่าผม”

พสิน : “ผมก็เป็นพ่อคน มีลูกสาว และลูกชาย อดีตผมหลายสิบปีก่อนผมเกเรมาก ผมมีปัญหามาก ผมหัวร้อน ตีรันฟันแทง  ผ่านคุกผ่านตะรางมา ทำไมกลับตัวได้ เพราะกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา เราไปโทษสังคม โทษคนอื่นไม่ได้ คุณต้องหันไปมองตัวเองก่อนว่าจิตเราเป็นยังไง ถ้าเราห้ามจิตตัวเองได้ เหตุการณ์นี้ไม่เกิดครับ อย่าโทษคนอื่นครับ ลูกเดือดร้อนเพราะใคร แม่ต๊อบยังโดนด่าเลยครับ ทำไมมาด่าแม่เขา ต้องปรับปรุงที่จิตตัวเองก่อน”

เมียแท็กซี่ : “ก็ถึงได้มาออกรายการตรงนี้ไงคะ ยอมรับทุกอย่าง ยอมรับอารมณ์ กิริยาที่แสดงออกไป พร้อมปรับปรุงและแก้ไขตัวเอง”

แท็กซี่ : “ผมได้รับบทเรียนใหญ่หลวงแล้วครับ จนผมรู้แล้วว่าผมใช้อารมณ์มาตลอด และมากเกินไป ผมคิดว่าหลังจากนี้ผมจะเปลี่ยนตัวเองให้มีสติมากกว่านี้”

พสิน : “ขอเสนอพี่ที่บอกว่าให้ไปสาบาน พี่ไปสาบานที่วัดพระแก้วว่าจะเลิกนิสัยแบบนี้ อารมณ์แบบนี้ ครั้งหน้าใครมายั่วยุพี่อีก ถ้ายังเป็นคนเดิมองค์ลงอีก ให้พี่มีอันเป็นไปเลยครับ ผมเสนอแบบนี้เลย”

แจ้งความแล้ว 4 ข้อหา?

เจตนิพัทธิ์: “ดูหมิ่นซึ่งหน้า หมิ่นประมาท ทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ เรียกค่าเสียหาย 5 แสนบาท”

 

ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขลดลงมาจาก 5 ล้าน ทำไมลด?

เจตนิพัทธิ์ : “ทนายยื่นไปห้าล้านแต่ผมเห็นใจ จริงๆ ผมจะทำเป็นคดีอาญาแต่อยากให้โอกาสเขา ไกล่เกลี่ยคดีแพ่ง ให้เขามีโอกาสมีที่ยืนในสังคม ก่อนลงคลิปผมให้โอกาสเขาไปแล้วสองครั้ง แต่เมื่อวานร้อยเวรเชิญตัวไปพูดคุยกันแต่เขาไม่ได้มา เพื่อรับฟังข้อกล่าวหา สุดท้ายทนายไปแจ้งความในสี่้ข้อหา เรื่องทำร้ายร่างกายก็เป็นคดีอาญา ก็ยอมความไม่ได้ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ เรื่องหมิ่นก็ยอมความได้”

 

เขาเปิดโอกาสให้ยอมความได้ จะตอบยังไง?

แท็กซี่ : “สิ่งที่ทำไป ผมใช้อารมณ์ ก็รู้สึกแล้ว ว่าการใช้อารมณ์ส่งผลกระทบหลายๆ อย่างกับผม ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว แต่กับลูกกับครอบตรัว หลังจากนี้ผมจะมีสติในการพูดจา จะคุยจะกระทำทุกสิ่งทุกอย่าง ให้มีสติและมีเหตุผล ผมรู้สีกตัวเองแล้วครับ”

 

เจตนิพัทธิ์ : “ผมสัมผัสได้ว่าพี่เขาพูดอย่างจริงใจ แต่ก่อนหน้านี้มันไม่ใช่”

 

ค่าเสียหาย 5 แสน พี่จะหามาจากไหน?

แท็กซี่ : “ผมก็ขับแท็กซี่ คงไม่ได้มีกำไรอะไรมากมาย มีแค่ให้ลูกเรียนหนังสือ มีกินมีใช้ตามสถานภาพ ก็แล้วแต่พี่เขาจะยังไงก็ว่ากันไป ผมเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมกับใคร สิ่งที่เกิดขึ้นก็ยอมรับทุกอย่าง มีเวลา 1 เดือนให้ปรับปรุงแก้ตัวทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมโดนระงับในขับขี่และใบอนุญาต 1 เดือน โดนปรับไป 3 พัน ไปอบรมมาเรียบร้อยแล้วครับ ก็ทำอะไรให้มีรายได้ก่อนกลับไปขับรถ”

 

ปรับปรุงตัวแน่นอน?

แท็กซี่ : “ต้องปรับ ถ้าไม่ปรับชีวิตก็วนเวียนอยู่อย่างนี้ ผมเริ่มเข้าใจแล้ว”

พี่พสินแจ้งความมั้ย?

พสิน : “จริงๆ ผมจะแจ้งความก็ได้ ยังมีเวลาอยู่ เริ่มต้นเรื่องสิ้นสุดคดีไม่เกิน 3 เดือน จริงๆ ผมไม่อยากแจ้งความหรอก คลิปที่ผมถ่ายไว้ก็ไมได้เปิดเผย จนเห็นคลิป ถ้าเราไม่หยุดพฤติกรรม จะเพิ่มไปเรื่อยๆ จิตจะลงต่ำง่ายมาก ถ้าเจ้าตัวไม่ปรับเปลี่ยนตัวเอง อนาคตเข้าคุกเข้าตะรางเดือดร้อนกว่านี้แน่นอน ผมเคยผ่านมาก่อนครับถ้าที่บ้านไม่ช่วยเอาลูกเป็นหลักพี่”

 

เขาอยากให้เปลี่ยนเป็นสาบานว่าจะไม่หัวร้อนอีก?

แท็กซี่ : “กล้าสาบานครับ”

พสิน : “ถ้ากล้าสาบาน ผมตบมือให้เลย ถ่ายคลิปแล้วออกสื่อเลย ผมซึ้งใจกว่าเยอะ ดีกว่ามาท้าผมสาบานแบบนั้น มันไม่มีประโยชน์”

แท็กซี่ : “ตอนแรกจะหาความจริงแต่ความจริงไม่สำคัญแล้ว ผมควรเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง ก็ขอโทษ(ยกมือไหว้)  ที่พูดจาใช้อารมณ์ไป หลังจากนี้จะกลับตัว ขอโทษครับ”

 

สมหมายจะพูดอะไร?

แท็กซี่ : “(ยกมือไหว้) ขอโทษครับ”

สมหมาย : “กลับตัวได้มั้ย ผมถามแค่นี้ กี่ครั้งแล้วที่ทำ”

แท็กซี่ : “ก็หลายครั้งแล้ว”

สมหมาย : “หลังจากนี้ต้องมีอีก ผมรู้ โอกาสให้ได้ แต่อาชีพนี้คุณไม่ต้องทำ เสียสถาบันแท็กซี่ ทุกวันนี้แท็กซี่หาเงินยากอยู่แล้ว มาทำแบบนี้เสื่อมเสียแท็กซี่”

เมียแท็กซี่ : “ถ้าคนเรามีการปรับตัว ปรับนิสัย ให้เวลา”

สมหมาย : “กี่ครั้งแล้ว”

เมียแท็กซี่ : “อย่าไปพูดว่ากี่ครั้ง ถ้าพี่จะให้โอกาสเขา ก็ต้องคอยดู ว่ามีครั้งหน้าอีกมั้ย ถ้าทำไม่ได้ก็ให้เขาเลิกไปเลย”

สมหมาย : “ต่อหน้าตร.คุณยังทำเลย”

เมียแท็กซี่ : “อันนั้นอันเก่าไงคะพี่”

สมหมาย : “วงการแท็กซี่มันเสียแล้ว”

เมียแท็กซี่ : “ไม่ใช่แค่แฟนหนูทำคนเดียว แท็กซี่ดีก็มี แท็กซี่เลวก็มี อย่าเอาตรงนี้มาการันตีว่าให้ไปทำอาชีพอื่น”

แท็กซี่ : “ผมเชื่อว่าคนเราถ้าคิดได้แล้ว ถ้าชั่วได้ก็ดีได้”

สมหมาย : “ตอนนี้ไม่มีใครยินดีด้วย พฤติกรรมแบบนี้ควรถูกเพิกถอนใบขับขี่เลยดีกว่า”

แท็กซี่ : “ถ้าเขาพิจารณาว่าผมเลวจนกระทั่งไม่สามารถขับได้เขาคงเพิกถอนไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาให้โอกาสผม คุณรู้อยู่ในใจว่าระหว่างผมกับคุณมีเบื้องลึกอะไร แต่ไม่ต้องย้อนไปแล้ว”

 

พี่สมหมายให้โอกาสเขามั้ย?

สมหมาย : “แล้วแต่สังคม”

พสิน : “แล้วแต่สังคม ผมให้โอกาสเสมอ สิ่งที่เขาทำ มันสะท้อนภาพ เขาต้องยอมรับตัวเองก่อน”

แท็กซี่ : “การกระทำของผม ก็มีสาเหตุ แต่หลังจากนี้ผมสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะระงับอารมณ์ ถามว่าจะสาบานมั้ย ผมสัญญากับตัวเอง ผมทบทวนแล้ว ผมสัญญากับตัวเองแล้ว”

พสิน : “ขออนุญาตแนะนำนะครับ คดีของเราพี่ยังอยากพิสูจน์ว่าใครผิดใครถูกด้วยการสาบานที่วัดพระแก้ว พี่รักษาบาดแผลในใจก่อน จิตใจเราเข้มแข็ง แข็งแรง พี่ไปสาบานเลยพี่ สาบานเรื่องนี้ คนเป็นล้านมองอยู่ กล้ารับเลยพี่ (แท็กซี่จับมือพสิน) ประชาชนเอาใจช่วยพี่ เขาเชื่อหรือไม่อยู่ที่พี่ เขารอว่าพี่จริงใจแค่ไหนถ้าพี่สาบานและกล้าถ่ายคลิปนะ ได้ใจ”

 

จับมือได้มั้ย?

เจตนิพัทธิ์ : “(จับมือ) จริงๆ แม่บรีฟมาตั้งแต่ที่บ้านว่าให้อภัยเขา อันนี้เป็นเรื่องการพูดคุย แต่คดีความก็ต้องมาคุยกันอีกทีนึง เพราะทนายความดำเนินการไปแล้ว ต้องมาหาทางออกร่วมกัน ว่าเขามีความจริงใจแค่ไหน”

พี่สมหมายอยากจับมือมั้ย?

สมหมาย : “จับไปทำไม (หัวเราะ)  ไม่จับ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image