ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนฯระบุ นักบินคือคนธรรมดาที่ใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมเร่งสายการบินนกแอร์แจงข้อเท็จจริงกรณีนักบินแสดงทัศนคติเชิงลบระหว่างทำการบิน คาดได้ข้อสรุปใน 3-4 วัน
นาวาอากาศตรีอลงกรณ์ พูลสุข ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีนักบินสายการบินนกแอร์ แสดงทัศนคติเชิงลบต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านโซเชียลมีเดียว่า เรื่องดังกล่าวเกินขอบเขตการดำเนินการเอาผิดกับนักบินโดยตรง ขึ้นอยู่กับสายการบินที่จะดำเนินการเอาผิด เบื้องต้นได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายพาที สารสิน ซีอีโอ สายการบินนกแอร์ ให้ระมัดระวังการใช้โซเชียลมีเดียในพนักงานที่ปฏิบัติงานการบิน และได้ส่งหนังสือให้สายการบินนกแอร์ สอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 3-4 วัน หากสอบสวนพบว่า ผู้ปฎิบัติการบินมีเจตนาข่มขู่จริง จะพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง โดยตนเองไม่ต้องการคาดเดากระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง เพราะต้องกลับไปดูรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับนักบิน กรณีใช้วาจาถ้อยคำลักษณะข่มขู่ก่อให้เกิดอันตราย และกรณีนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ที่มีการเผยแพร่การใช้ถ้อยคำในลักษณะนี้
หลังจากพูดคุยในรายละเอียดเบื้องต้นกับนายพาที พบว่า นักบินคนดังกล่าวเป็นผู้ช่วยนักบิน และอายุน้อย ซึ่งในฐานะที่ตนเองเคยเป็นนักบินมาก่อน ต้องยอมรับว่า นักบินคือปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป ที่ใช้โซเชียลมีเดียในการพูดคุย โดยกว่าจะเป็นนักบินมืออาชีพต้องใช้เวลาในการทำงานมากกว่า 5-7 ปี จึงจะกลายเป็นนักบินที่มีคุณภาพ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจสอบย้อนกลับไปยังนักบินที่อายุการทำงานไม่ถึง 5 ปี แต่ควรใช้วิธีการกำกับดูแลตลอดเวลา
ทั้งนี้ นโยบายของสายการบินทุกแห่งจะต้องเข้มงวดในการปลูกฝังพนักงานไม่ให้นำทัศนคติทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และเชื่อว่าระหว่างทำการบิน เชื่อว่า นักบินจะไม่นำความคิดเห็นส่วนตัวมาทำงาน และจะนึกถึงส่วนรวมเป็นหลัก ยอมรับว่าที่ผ่านมา การดำเนินการทางการบินค่อนข้างหละหลวม เนื่องจากสายการบินกำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนนักบิน
