เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน จากกรณี กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานแผ่นดินไหวบริเวณประเทศไทยและใกล้เคียง โดยระบุว่า เมื่อเวลา 04.03 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ที่ประเทศลาว หลังจากนั้นได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายรอบ ล่าสุด 06.50 น. วัดแรงสั่นสะเมือนได้ 6.4 ลึกจากผิวดิน 3 กิโลเมตร
รายงานข่าวแจ้งว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้หลายจังหวัด เช่น น่าน แพร่ พะเยา เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง เลย ขอนแก่น อุดรธานี รวมถึงกรุงเทพฯ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บนตึกสูง สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้อย่างชัดเจน และได้แห่แชร์ประสบการณ์ที่รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนผ่านลงสื่อออนไลน์ อาทิ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก
ทั้งนี้ วิศวกรหนุ่มโครงสร้างชาวนิวซีแลนด์ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้ทวีตคลิปแชนเดอเลียร์แกว่งและวิเคราะห์ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่รับรู้ได้ถึงกรุงเทพฯ ผ่านทวิตเตอร์ Andy Baird ว่า แผ่นดินไหวที่ชายแดนไทย – ลาว ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 1,000 กม. การสั่นความถี่สูง (สั้นและคมชัด) ทำให้ได้รับความสั่นสะเทือนในระยะทางไกล ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้
นอกจากนี้ กรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้นดินใต้กรุงเทพฯ จึงอ่อนมาก ซึ่งดินอ่อนนี้สามารถขยายการสั่นไหวของแผ่นดินไหว (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสั่นความถี่ต่ำ) ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่นี่
Twitter in Bangkok right now is hundreds of videos of swinging lights and chandeliers #แผ่นดินไหว pic.twitter.com/TIJYYeblxg
— Andy Baird (@andy_engineer) November 21, 2019
อย่างไรก็ตาม เขาได้ยกตัวอย่างพร้อมคลิปให้ชมถึงสาเหตุที่ตึกสูงในกรุงเทพฯ รับรู้ได้ถึงความสั่นสะเทือนว่า อาคารสูงตอบสนองต่อการสั่นไหวความถี่ต่ำต่อเนื่อง (เรียกว่า เรโซแนนซ์) ดังนั้น หากคุณอยู่ชั้นสูงในอาคารสูงหลายแห่งของกรุงเทพฯ ในเช้าวันนี้ คุณจะรู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงยิ่งกว่า
Tall buildings respond to low frequency shaking since it matches their natural frequency (called resonance) so if you were in a high floor in one of Bangkok’s many tall buildings this morning you would have felt the earthquake more strongly than if you were at ground level pic.twitter.com/cGZvHV4mpO
— Andy Baird (@andy_engineer) November 21, 2019
ขอบคุณ ทวิตเตอร์ Andy Baird