นพ.อดิศักดิ์ โพสต์ถึงลูกชาย ‘อนิก’ นักข่าวAPที่เสียชีวิตจาก ‘โควิด-19’ ที่นิวยอร์ก

เมื่อวันที่ 6 เมษายน เฟซบุ๊ก Prawit Anusiri ได้โพสต์เรื่องราวที่ นพ.อดิศักดิ์ เจษฎานันท์ เล่าเรื่องที่เพิ่งสูญเสีย “อนิก” ลูกชายซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวเอพีที่นครนิวยอร์ก จาก “โควิด-19”  พร้อมกับบอกว่า ถ้าลูกชายอยู่ที่เมืองไทย อาจจะไม่ตาย

โดยในโพสต์ ระบุว่า

“นพ.อดิศักดิ์ เจษฎานันท์ ศิริราชรุ่น 69 เพิ่งสูญเสียลูกชายไปเมื่อ 3 เม.ย. เล่าว่า

เมื่อวานนี้ เป็นวันที่สุดของชีวิตวันหนึ่ง เมื่อได้รับโทรศัพท์จาก ร พ ที่นิวยอร์คบอกว่าลูกชายคนโต นิก เสียชีวิตด้วย Covid ไม่นึกไม่ฝันว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดกับตัวเอง เพราะลูกเพิ่งครบรอบวันเกิดครบ 51 ปีเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นคนแข็งแรง วิ่งมาราธอนปีละหลายครั้ง รักษาสุขภาพ และ follow Guideline ตามกฎเกณฑ์ระหว่างโรคระบาดอย่างเคร่งครัด
เราสี่คนพ่อ แม่ ลูก อยู่กันคนละขั้วโลกช่วงนี้ พ่ออยู่เมืองไทย แม่อยู่ NJ

Advertisement

แกรี่ ลูกคนเล็กอยู่ แคลิฟอร์เนียร์ นิก อยู่นิวยอร์ค ซึ่งเป็น Epicenter

เราไม่สามารถไปหากันได้ แม้ในยามจำเป็น เพราะไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนนำเชื้อ ทั้งๆที่ไม่มีอาการก็จริง ได้แต่ส่งข่าวสื่อสารกัน นิกเสียชีวิตเร็วมาก หลังจากมีอาการสองอาทิตย์ที่แล้ว ก็ไปหาหมอ ตรวจพบว่าเป็น Covid หมอให้อยู่บ้าน Quarantine ตัวเอง หลังจากนั้น ไป follow up ก็ยังไม่มีอาการที่จะต้องเข้าร พ ให้มาพักที่บ้านต่อ เพรานิวยอร์คสถานการณ์รุนแรงมาก ต้องคนที่อาการน่าเป็นห่วงถึงจะได้เข้า ร พ รุ่งขึ้นสองวันต่อมา คือเมื่อวานนี้ นิกหายใจไม่ค่อยดีเลยไป ร พ ตอนเช้า เขียน text ส่งข่าวถึงกัน ติ๋มก็คิดว่าเขาอยู่ในมือหมอแล้วคงจะ OK นิกยังเขียนมาบอกว่าเขาจะต้อง on ventilator อีกสองชั่วโมงต่อมา หมอก็โทรศัพท์มาบอกข่าวร้ายที่สุดในชีวิต

เพิ่มเติมจาก FB: บรรยง สุวรรณผ่อง

Advertisement

ถ้าอนิก เจษฎานันท์ อยู่เมืองไทย เขาอาจไม่ตาย
.
5.4.63 สำนักข่าวเอพี (the Associated Press: AP) รายงานการเสียชีวิตจาก COVID-19 ของ ‘Nick’ อนิก เจษฎานันท์ รองบรรณาธิการข่าวเทคโนโลยี เอพี (Anick Jesdanun, Deputy Technology Editor, AP) วัย ๕๑ ปี ที่นิวยอร์ก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๓ (เวลาท้องถิ่น) แม้อายุยังไม่มากและมีสุขภาพแข็งแรงจากการเป็นนักกีฬาที่เคยผ่านการวิ่งมาราธอน (๔๒.๑๙๕ กม.) ในทุกทวีป รวมทั้ง ‘แอนทาร์กทิกา’ (Antarctica) ซึ่งได้ชื่อว่าทรหดที่สุดภายใต้อุณหภูมิลบ ๓๐ องศาเซลเซียส และสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า ๓,๐๐๐ ฟุต ในขั้วโลกใต้ แต่ก็ต้องมาพ่ายแพ้แก่โรคร้ายจากการที่แพทย์ให้ยา แล้วให้กลับไปดูแลตนเองที่อพาร์ตเมนต์ในแมนฮัตตัน แม้มีความพยายามไปหาแพทย์ถึง ๓ ครั้ง ก็ตาม อันทำให้เกิดความรู้สึกว่า เขาคงมีโอกาสหาย ถ้าเขาได้รับการรักษาในเมืองไทย – บอกเล่าเพื่อให้คนไทยในต่างแดนที่ได้กลับมารักษาตัวในเมืองไทย หรือได้กลับมาดูแลตนเองในเมืองไทย แล้วเกิดติดเชื้อขึ้นมา รวมทั้งคนไทยที่อยู่ในเมืองไทยด้วยกันเองได้เปรียบเทียบกับระบบสาธารณสุขของไทย และโดยเฉพาะ ‘น้ำใจไทย’

#สู้COVID19
(Photo: AP) “

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image