ในช่วงที่เด็กๆ อยู่ในวัยเจริญเติบโต พ่อแม่ผู้ปกครองควรส่งเสริมพัฒนาการลูกหลานอย่างถูกวิธี มิเช่นนั้นอาจเป็นเหมือนที่เพจ อีซ้อขยี้ข่าว นำเรื่องราวของคุณพ่อท่านหนึ่งที่ฝากกรณีลูกชายตนเองไว้เป็นอุทาหรณ์ โดยอาการนี้เกิดขึ้นกับเด็กซ้ำรอบที่ 2 หลังจากพาไปรักษาจนหายแล้วในครั้งแรก
คุณพ่อคนดังกล่าวระบุว่า ฝากมาเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้สำหรับผู้ปกครองที่มักปล่อยลูกให้เล่นมือถือตลอดเวลา ซึ่งตัวน้องติดโทรศัพท์ จนทำให้พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ปลายประสาทอักเสบ เวลายิ้มจะเบี้ยวเฉผิดรูปแบบเห็นได้ชัด แต่ถ้าไม่ยิ้มจะเป็นปกติ
อย่างไรก็ตาม ลักษณะดังกล่าว นพ.เกษียรสม วีรานุวัตติ์ ให้ความรู้ในเว็บไซต์โรงพยาบาลสมิติเวชว่า ผู้ที่มีความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นเบาหวาน หรือเคยติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจนำมาก่อน เช่น โรคหวัด หรือโรคไข้หวัดใหญ่ มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell’s palsy) โรคดังกล่าวเกิดจากการบวม อักเสบของเส้นประสาทสมองเส้นที่ 7 (Cranial nerve) ที่ควบคุมการทำงานของใบหน้า สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ พบได้บ่อยในคนทุกวัยทุกเพศ ทุกอาชีพและทุกเชื้อชาติ โอกาสในการเกิดโรคนี้สูงถึง 1 ใน 500 คน
นพ.เกษียรสมระบุว่า อาการของโรคจะหายไปภายในระยะเวลา 1-2 เดือน แต่ประมาณ 10% ของผู้ที่เคยเป็นโรค Bell’s palsy มีโอกาสเกิดขึ้นซ้ำอีก และอาจเกิดขึ้นที่ด้านตรงข้ามของใบหน้า หรือด้านเดิมก็ได้ อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่ร้ายแรง หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องอย่างรวดเร็วและทันเวลา สามารถหายได้เกือบ 100% ภายใน 2 เดือน
