แฉอีก! อดีตครูเล่าประสบการณ์ ถูกผู้บริหาร ร.ร.ฉาวกลั่นแกล้ง ซัดที่นี่เป็นวงจรทำลายเด็ก

แฉอีก! อดีตครูเล่าประสบการณ์ ถูกผู้บริหาร ร.ร.ฉาวกลั่นแกล้ง ซัดที่นี่เป็นวงจรทำลายเด็ก

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม โลกออนไลน์มีการแชร์ข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Anchalee Ismanyee ซึ่งเป็นอดีตครู ร.ร.สารสาสน์ ที่มีปัญหาครูทำร้ายเด็กนักเรียนจนเป็นข่าวดัง ออกมาเปิดเผย ปัญหาที่ตนเองเคยประสบ สมัยเป็นครูสอนวิชาดนตรี โรงเรียนดังกล่าว โดยระบุว่า

เรื่องที่ยังเสียใจและเจ็บปวดอยู่ลึกๆในใจมาตลอด คือเรื่องเด็กๆที่สารสาสน์ ตอนนั้นเราเป็นครูสอนวิชา insight music แล้วก็ทำวงคอรัสของโรงเรียนด้วย เราสอนป.4-ม.3 กลุ่มที่เราใกล้ชิดและสนิทที่สุดคือกลุ่มเด็กผู้หญิง ป.4ในวงคอรัส

การต้องซ้อมเพลงคอรัสเพื่องานเสกอาคารใหม่ทำให้เรากับเด็กต้องอยู่ด้วยกันแทบทั้งวัน ตั้งแต่ก่อนคาบแรกจนถึง 6 โมงเย็น สถานที่ซ้อมวงคือในห้องสมุดที่มีสนามเด็กเล่น มีบ้านบอลของเด็กอนุบาลอยู่ในนั้น แน่นอนว่าด้วยความเป็นเด็ก เค้าต้องอยากเล่นแน่ๆ ซึ่งเด็กของเราก็มีวินัย ซ้อมคือซ้อม พอพักจากซ้อมหรือเลิกเรียนเค้าก็เล่นเต็มที่ เล่นเสร็จก็ช่วยกันเก็บของเข้าที่

ปัญหาที่เจอแทบทุกวัน คือจะต้องมีอีครูอนุบาลหรือฝ่ายบริหารมาตวาดไล่เด็กไม่ให้เล่นไม่ให้แตะข้าวของ ในขณะที่เด็กบางคนมาขอให้เราอ่านหนังสือให้ฟังก็โดนไล่ไปด้วย เราถูกเรียกไปบ่นเรื่องการปล่อยให้เด็กเล่นในพื้นที่สนามเด็กเล่น เราตอบเค้าไปสั้นๆว่า “ก็พวกเค้าเป็นเด็ก เป็นเด็กก็ต้องเล่นสิคะ ธรรมชาติของเค้า”

Advertisement

วงคอรัสของเรามักจะถูกฝ่ายบริหารมาบอกว่าจะมีแสดงที่นั่นที่นี่ให้เตรียมซ้อมให้ดี แต่พอถึงวันจริงก็ไม่เคยเป็นไปตามนั้น แม้กระทั่งการบอกว่าให้มายืนหน้าแถวตอนเคารพธงชาติ จะให้ร้องให้เด็ก น.ร.คนอื่นฟัง ก็กลายเป็นให้เด็กเราออกไปยืนเฉยๆแล้วก็ปล่อยเด็กคนอื่นขึ้นห้องตามปกติ กลายเป็นเหมือนเด็กเราทำอะไรผิดมา แต่พอเด็กอื่นขึ้นห้องหมด อีฝ่ายบริหารก็มาสั่งให้เด็กเราร้องเพลงให้ฟัง ขอเสียงดังๆงั้นงี้ ทำท่าวางอำนาจดุใส่เด็กเราโดยไม่มีสาเหตุ นี่เลยขึ้นใส่ ว่า “คุณทำงานแบบนี้แล้วเราจะสอนเด็กได้ยังไง พูดอะไรนัดอะไรไม่เคยเป็นจริง โกหกไปหมดทุกเรื่อง แม้กระทั่งการเอาเด็กมายืนหน้าแถววันนี้ ทำอะไรกับจิตใจเด็กเคยคิดมั่งมั้ย คุณเป็นแบบนี้แล้วต่อไปเด็กจะเชื่อสิ่งที่เราพูดเราสอนได้ยังไงว่ามันเป็นจริง!” สำหรับฉัน นี่คือความจริง แต่สำหรับพวกเขา มันคือการประกาศสงคราม

ในวันพิธีเสกอาคาร ฉันถูกห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวใดๆ ครูอีกคนที่ไม่เคยข้องเกี่ยวกะวงคอรัสของเรามาเป็นคนควบคุมวงแทน ฉันไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร เว้นแต่เสียดายที่ไม่ได้เห็นเด็กๆร้องเพลงตอนอยู่บนเวที ฉันก็ทำหน้าที่สอนเด็กคลาสละ 40 คน 6 คาบไปตามปกติตามที่เป็นมา เว้นแต่ว่าเด็กๆคอรัสมาหาฉันที่ห้องเรียนตอนเสร็จพิธี เจ้าพวกเด็กป.4ตัวน้อยวิ่งมากอดฉัน แล้วบอกว่าหนูเข้าใจมิสนะ เค้าแกล้งมิส เราบอกว่าไม่เป็นไรเลย พวกหนูได้ร้องเพลงก็พอแล้ว แต่สิ่งที่ยังคงคอยวนเวียนหลอกหลอนฉัน คือเสียงของเด็กๆที่บอกว่า “มิสอย่าลาออกนะ อย่าทิ้งพวกหนู”….

ในวันที่ฉันตัดสินใจลาออก ไม่ใช่เพราะฉันถูกกลั่นแกล้ง หรือรู้สึกว่างานหนักไป แต่ฉันรู้สึกว่าสถานที่นี้คือที่ทำลายเด็ก และทำลายความเป็นคน ถ้าฉันไม่สามารถเปลี่ยนมันได้ ฉันก็ไม่ควรอยู่ร่วมในวงจรของการทำลายเด็กและสังคมอีกต่อไป ทั้งที่ใจก็ยังห่วงเด็กเล็ก และเจ้าเด็กม.2 ที่อ่านหนังสือยังไม่ออกที่ฉันกำลังค่อยๆสอนเขาในทุกเย็น

ฉันยื่นใบลาออกในตอนเช้าด้วยเหตุผลว่าที่นี่ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และไม่ให้ความสำคัญต่อความรู้ของเด็ก คาบแรกหลังเที่ยงขณะฉันกำลังสอน ฝ่ายบุคคลแก๊งบริหารก็เดินขึ้นมาหาฉัน ขอให้เขียนใบลาออกใหม่ขู่จะส่งให้กระทรวงศึกษา ฉันยืนยันไม่เขียนและบอกว่านี่คือความจริง ส่งให้ก.ศึกษาได้เลย เขาจึงให้ฉันเก็บข้าวของออกจากโรงเรียนเดี๋ยวนั้น ทั้งที่ยังไม่หมดคาบสอนของฉัน เด็กๆงงไปตามๆกัน รุ่นพี่ที่สอนคู่กันในทุกคาบก็คงงงไม่แพ้เด็ก

ในเย็นวันนั้นเอง มีสายเข้าจากรุ่นพี่ แต่เสียงปลายสายคือเสียงของเด็กน้อย “มิสอยู่ไหนทำไมไม่มาสอนคะ พวกหนูมารอกันครบแล้วตั้งนาน” ฉันจำต้องบอกความจริงว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
ตามด้วยสายของเพื่อนครูอีกคน ปลายสายเจ้าเด็กม.2 ที่ถามหาว่าทำไมวันนี้ไม่มาสอนเขาอ่านหนังสือ เขายังพยายามส่งข้อความด้วยภาษาผิดๆถูกๆมาหาฉันอยู่อีกหลายวันหลังจากนั้น

การได้เห็นข่าวครูจุ๋ม มันเหมือนการตอกเข็มลงในใจถึงวันที่ฉันไม่รักษาสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งพวกเขา ทั้งที่ฉันเองก็รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญอยู่ที่ตรงนั้นคืออะไร

ถ้ามีโอกาสฉันอยากจะบอกกับเด็กๆว่า ครูเสียใจ เสียใจมาตลอดที่เข้มแข็งไม่พอจะยืนอยู่ตรงนั้นเพื่อสู้กับพวกเลวนั่นต่อไม่ให้พวกมันมาทำร้ายเด็กๆ ในวันนี้ยิ่งเจ็บปวดเมื่อนึกย้อนไปถึงว่าเด็กๆที่ครูให้สัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้ง ถูกกระทำอะไรบ้างจากที่นี่ในวันนั้น ครูขอโทษ

ปล. ขอส่งต่อกำลังใจให้ครูดีๆ ที่ยังยืนอยู่กับเด็กๆที่นั่นจนถึงวันนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image