งานเข้านกแอร์อีก ผู้โดยสารร้อง คนพิการลำบาก-ไม่ได้รับช่วยเหลือด้านการเดินทาง

มีการแชร์ข้อความร้องเรียน ที่โพสต์โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ Mattana Gosoomp ที่ร้องเรียนไปยังสายการบินนกแอร์ บอกเล่าเหตุการณ์ และความยากลำบากในการที่คนพิการจะเดินทางด้วยสายการบิน โดยสายการบินนกแอร์ไม่มีบริการสำหรับยกคนพิการ ทำให้เกิดความยากลำบากอย่างมากกับผู้ใช้บริการ ทั้งยังเรียกร้องให้สายการบิน ประกาศให้ชัดเจนว่า ผู้พิการและผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อย่ามาใช้บริการ เพราะนกแอร์ไม่มีรถยกสำหรับบริการผู้พิการ รวมถึงมีข้อเสนอ ว่าควรให้นกแอร์เอางบที่โฆษณา รอยยิ้มกว้าง มาซื้อรถยกให้คนพิการ

ก่อนที่สายการบินนกแอร์ ชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยขออภัยและนำเรียนปัญหาสู่การแก้ไขต่อไป

“ทางเราต้องขออภัยอย่างสูงสำหรับความไม่สะดวกต่างๆ ที่เกิดขึ้นค่ะ และได้แจ้งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบเพื่อนำไปแก้ไข และปรับปรุงต่อไปค่ะ”สายการบินนกแอร์ ระบุ

ผู้ใช้เฟสบุ๊กดังกล่าวเล่าว่า

Advertisement

เหตุเกิดที่ Gate 72 วันที่ 4 สิงหาคม 2559 เที่ยวบินที่ DD 8326 เวลา 20.15 กรุงเทพฯ –เชียงใหม่ เนื่องจากมีเพื่อนประสบอุบัติเหตุกระดูกแตกต้องเข้าเฝือก มาทำภารกิจที่กรุงเทพและต้องเดินทางกลับบ้านในสภาพเดินด้วยไม้ค้ำ เราแจ้งให้สายการบินทราบเรียบร้อยตั้งแต่ต้น มีรถวีลแชร์มาบริการตามปกติ แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อขณะที่นั่งรอขึ้นเครื่องเมื่อเวลา 18.30 น. ที่ Gate 42 นกแอร์ประกาศเปลี่ยนประตูขึ้นเครื่องเป็น Gate 72 ท่านที่เดินทางประจำจะทราบดีว่าหากมีการประกาศเปลี่ยนประตูขึ้นเครื่องไป Gate 72 นั้น แม้แต่คนปกติก็ยังต้องถอนหายใจ เพราะไกล และต้องลงบันไดเลื่อนไปอีก 2 ครั้ง ถึงจะลงไปข้างล่างได้ ประตู 72 ไม่มีงวง ซึ่งต้องให้เพื่อนซึ่งเข้าเฝือกต้องเดินลงบันไดเลื่อนถึง 2 ชั้น บันไดเลื่อนก็ไหลเร็วมาก คนพิการเสี่ยงตกบันไดเลื่อนได้ หรือท่านต้องเรียนรู้เทคนิคการเดินบันไดเลื่อนเอง ทำให้คนพิการอาจตายได้หากตกบันไดเลื่อนจากการใช้ไม้ค้ำยัน แต่สุดท้ายเราก็พากันลงมาจนถึง Gate 72 จนได้ อย่างทุลักทุเล ทั้งเราและพนักงานวีลแชร์ที่ไม่สามารถเอาวีลแชร์ลงมาได้ เนื่องจากเป็นบันไดเลื่อน

จากนั้นเราก็นั่งรอขึ้นเครื่อง และหวังว่าจะไม่มีเรื่องให้ลำบากอีกต่อไป ไม่จบค่ะ เพราะจะต้องเดินออกประตูไปขึ้นรถบัสที่รออยู่ ระยะทางประมาณ 10 เมตร เพื่อนเราก็ไม่ไหวแล้ว เพราะปวดแขนและขาแล้ว จึงเข้าไปถามว่ามีรถตู้มั้ยที่จะพาไปที่เครื่อง พนักงานก็เริ่มมองหน้ากันอาจจะคิดว่า มนุษย์ป้าคนนี้เรื่องมาก เมื่อกลับมานั่งรอรถตู้ เราก็นึกสงสัยว่า แล้วเพื่อนเราจะขึ้นเครื่องบินยังไงล่ะ จึงเดินเข้าไปหาข้อมูลสอบถามพนักงานที่กำลังทำการที่เคาน์เตอร์ เพราะก่อนหน้านี้เพื่อนเดินทางไปทำงานที่ขอนแก่น ทางสายการบินที่เป็น low cost เหมือนกัน ก็ยังมีบริการรถยกขึ้นและลงเครื่องให้ เมื่อถามว่า ผู้โดยสารจะขึ้นเครื่องยังไง เขาก็ตอบว่า “เดินขึ้นเครื่องเองค่ะ” ก็เลยถามว่าเขาเข้าเฝือกอย่างนี้เดินแค่ 4 ขั้น ก็แย่แล้ว คงเดินไม่ได้แน่ๆ” จึงถามว่า “ไม่มีบริการรถยกขึ้นเครื่องเหมือนสายการบินอื่นๆ ที่เป็น low cost หรือคะ?” เจ้าหน้าที่ภาคพื้น ที่บริการอยู่ประจำเกท 72 ให้คำตอบว่า “สายการบินอื่นมีรถยกคนพิการ แต่นกแอร์ไม่มีบริการคะ”

เมื่อได้รับการแจ้งเช่นนั้น เราจึงขอปฏิเสธที่จะเดินทาง และนั่งรอที่หน้าเกท 72 ต่อไป สักพักเมื่อเครื่องออกไปแล้ว พนักงานหญิงคนหนึ่งจึงเดินมาหาพร้อมมายืนเท้าสะเอวบอกว่า “ให้รอกระเป๋าที่โหลด เครื่องออกไปแล้ว เราจึงทำการออกตั๋วเลื่อนไฟลต์ให้ใหม่ จะเดินทางได้เมื่อไหร่” เราลังเลกำลังจะตอบ เธอก็บอกว่าอย่างสุภาพแกมเจ็บว่า “ตกลงจะรอให้ขาหาย ก่อนถึงจะบินไปใช่ไหมคะ” หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งกลุ่มก็เดินจากไป ทิ้งเราไว้กับการงุนงงว่าจะต้องทำอะไรต่อไป ไปรับกระเป๋าที่ไหน จะกลับขึ้นไปอย่างไร เรานั่งรอสองคน เกท 72 ไม่มีคนอยู่แล้ว ไม่มีใครจากสายการบินมาแจ้งอะไรจนเกือบชั่วโมง จึงตัดสินใจโทรสายด่วน 1318

Advertisement

หลังจากที่พวกเราโทร 1318 แจ้งว่าเป็นสมาชิกนกพลัส รอการประสานโดยไม่วางสายประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องก็ประสานงานกับเจ้าหน้าที่นกแอร์ที่สนามบิน จนท. แจ้งว่ารู้เรื่องแล้วเดี๋ยวจะมาจัดการแก้ปัญหาให้ เรานั่งรอการติดต่อต่อไป จนเกือบอีก 1 ชม. จึงเห็นพนักงานเดินมา เราก็ดีใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ติดต่อให้ ปรากฏว่า เขาเป็นพนักงานวีลแชร์มาหาเราโดยไม่มีวีลแชร์ และแจ้งให้เรากลับขึ้น จึงถามว่าจะให้ไปยังไง เขาก็บอกว่าให้เราเดินขึ้นบันไดกลับไป (ครั้งนี้โดยไม่มีบันไดเลื่อน) ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดถึง 2 ครั้ง บันไดแรกสูงประมาณ 20 ขั้น และต้องเดินทางลาดต่อไปอีกประมาณ 20 เมตร แล้วขึ้นบันไดที่ 2 อีกประมาณ 20 ขั้น เราจึงแจ้งว่า ไม่สามารถเดินได้ งั้นขอแค่รถตู้มารับไปส่งที่ประตูขาออก เพื่อออกไปจากเกท 72 โดยไม่ต้องเดินกลับขึ้นบันไดไปเองอีกครั้ง พนักงานก็บอกว่า ผมไม่มีอำนาจตัดสินใจ ซึ่งการประสานงานในสถานการณ์แบบนี้ ต้องให้คนที่ดูแลมีอำนาจตัดสินใจ มาทำหน้าที่ เราก็เลยบอกว่า งั้นให้น้องกลับไปได้เลย เราก็นั่งรอต่อไปเกือบชั่วโมง และคิดว่าจะมีเจ้าหน้าที่นกแอร์มาติดต่อ ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่สายการบินอื่นเห็นเราสองคนนั่งรอก็จึงเข้ามาสอบถาม และเมื่อทราบความแล้ว เขายังบอกเลยว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ต้องมาดูแล เราก็นั่งรอต่อไป จนกระทั่งสุดท้ายประตูปิดหมดแล้ว มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาประจำการ เราก็ไม่มีใครที่จะติดต่อได้แล้ว จึงต้องเข้าไปพึ่งการช่วยเหลือโดยแจ้งเจ้าหน้าที่ รปภ. ที่มาปฏิบัติหน้าที่ประจำเกต 72 ให้ทราบสถานการณ์ซึ่ง เจ้าหน้าที่ท่านนั้น ก็ช่วยเหลือโดยโทรศัพท์ไปแจ้งผู้ตรวจการประจำการท่าอากาศยานสนามบินดอนเมือง สักพักผู้ตรวจการจึงเดินทางมารับเรื่องและลงบันทึกไว้เพื่อเป็นหลักฐานและดำเนินการต่อไป

เรารอต่อไปจนพักใหญ่มากๆ จึงมีรถตู้นกแอร์มารับไปส่งที่ขาเข้า เป็นเวลาดึกมากแล้วสี่ทุ่มกว่า จึงขอจัดที่พักใกล้ๆ ให้เพราะต้องยินเข้าอีกวัน เจ้าหน้าที่หารือกันอีก และสรุปว่า ให้บริการที่ยอดเยี่ยมแก่เราไปแล้ว ด้วยการเลื่อนตั๋วให้แล้ว ไม่สามารถรับผิดชอบค่าที่พักให้ได้ แต่จะช่วยจัดหาที่พักให้ได้ ซึ่งผู้โดยสารต้องออกเอง ความหนาวของแอร์ในสนามบิน ความหนาวจับจิตจากความใจดำที่ได้รับ เราตัดสินใจขอแค่เอารถเข็นมาส่งที่จุดขึ้นแท็กซี่ของสนามบินดอนเมือง และหาที่พัก เพื่อพรุ่งนี้จะเดินทางกลับบ้านอีกครั้ง สิ้นสุดการต่อสู้เรื่องสิทธิของผู้พิการและผู้ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ หากคุณทราบว่า มีการเปลี่ยนแปลงช่องจอดที่มีงวงช้าง ไปช่องจอดที่ไม่มีความสะดวกแก่ผู้พิการ ความเป็นมืออาชีพ ต้องรู้ว่าจะต้องรับมือจัดเตรียมอะไรบ้าง มาตรการในการลดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการเช่ารถยกจากสายการบินอื่นๆ มาบริการตามมาตรฐานสายการบิน เพื่อแก้ปัญหานั้น เป็นนโยบายบริษัทที่พนักงานนกแอร์ต้องยึดถือปฏิบัติ จนก่อให้เกิดเหตุการณ์นี้

จากเหตุการณ์นี้จะทำให้เข้าใจว่า ต่อไปคงจะไม่มีผู้พิการไปใช้บริการนกแอร์ และอยากให้คุณพาทีออกมาประกาศให้รู้อย่างชัดเจน ออกมายืดอกประกาศว่า “นกแอร์ไม่มีบริการช่วยเหลือคนพิการที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ คุณเลือกเอาว่า ต้องกระเสือกกระสนตะกายขึ้นเครื่องเอง หรือคุณจะให้คนมาอุ้มขึ้นเครื่อง”

ความจริงแล้วการที่เราเลือกบินสายการบิน low cost นั้น เพราะพิจารณาว่าเราต้องการบริการที่จำเป็นสำหรับการเดินทางจริงๆ ไม่ใช้อาหารมื้อหรูหรา หรือบริการอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น แต่มันไม่ได้หมายความว่า มาตรฐานความจำเป็นต่อการดูแลผู้พิการหรือผู้ที่ต้องการการช่วยเหลือพิเศษ จะถูกตัดออกไป เพื่อการลดรายจ่ายของสายการบิน

หลังจากที่อ่านบทความนี้แล้ว ไม่จำเป็นหากจะแก้ปัญหาด้วยการส่งจดหมายขอโทษหรือส่งกระเช้าดอกไม้ ควรเอาเงินที่จะใช้ไปจัดหาบริการรถยกสำหรับอำนวยความสะดวกแก่ให้ผู้พิการหรือต้องการความช่วยเหลือพิเศษจะดีกว่า

เราไม่ต้องการ “รอยยิ้มที่กว้างขึ้น” แต่ขอเปลี่ยนเป็นนโยบายบริษัทในการดูแลผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ

คุณก็ลองเป็นผู้พิการดูซิ ให้คุณนึกถึงผู้พิการบ้าง เวลาต้องให้ท่านกลับบ้าน คุณต้องการดูแลพ่อแม่คุณแบบนี้ หรือแบบไหน
กรุณาอย่าออกไปไหน ถ้าคุณเป็นคนพิการ

นี้เหรอมาตรฐานของการบินที่เข้าตลาดหลักทรัพย์

อยากถามพนักงานนกแอร์ว่า ถ้าพ่อแม่คุณเป็นแบบนี้ จะทำการช่วยเหลือแบบนี้หรือไม่

หากนกแอร์ไม่มีบริการสำหรับผู้พิการ หรือผู้ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้.. ถ้าจำเป็นหรือเลือกใช้บริการนกแอร์ในวันที่ไม่มี Bay จอด จะต้องช่วยเหลือตนเอง โดยการพาตัวเองขึ้นบันไดเครื่องบินหรือใชัพนักงานอุ้มขึ้นเครื่องบิน

ถ้ายังงั้น ตั้งแต่นี้ไปก็ขอให้นกแอร์ โดยคุณพาที สารสิน ประกาศให้ชัดเจนไปเลยว่า ผู้พิการและผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อย่ามาใช้บริการนกแอร์ เพราะนกแอร์ไม่มีรถยกสำหรับบริการผู้พิการ
มีข้อเสนอ ควรให้นกแอร์เอางบที่โฆษณา รอยยิ้มกว้าง มาซื้อรถยกให้คนพิการ จะดีกว่ามั้ย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image