แห่แชร์ คำทำนายดวงเมือง 2563 ‘โหรวสุ’ หลังทำนายตรงเป๊ะ การเมืองเรื่องม็อบร้อนแรง

Demonstrators are seen gathered at the Democracy Monument during a Thai anti-government mass protest, on the 47th anniversary of the 1973 student uprising, in Bangkok, Thailand October 14, 2020. REUTERS/Jorge Silva

แห่แชร์ คำทำนายดวงเมือง 2563 ‘โหรวสุ’ หลังทำนายตรงเป๊ะ การเมืองร้อนแรง

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ ต่างมีการหยิบยกเอาคำทำนาย ดวงเมืองประเทศไทย 2563 ของ โหรวสุ – วสุวัส คำหอมกุล นักพยากรณ์ดวงชะตา ที่ได้พูดถึงบ้านเมืองไว้ตั้งแต่ 30 มกราคม 2563 โดยระบุว่า จะมีพายุเข้าหลายพื้นที่ในประเทศ รวมถึง มีม็อบประท้วงรัฐบาล ในช่วง กุมภาพันธ์ – ตุลาคม ทุกเดือน มีม็อบมาปิดถนน หรือเรียกร้องรัฐบาล กดดันให้รัฐบาลต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่

โดย กิ่ง นริญญา พยาบาลสาว ที่เคยออกมาเป็นกระบอกเสียงในเรื่อง HIV ยังได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก Narinya Mongkoleiam ที่เคยได้แชร์ข่าว ยังออกมาโพสต์ข้อความว่า “โพสต์ทำนายดวงของ Wasu โหรวสุ แมสเฉย นี่แชร์ตั้งแต่ช่วงมีนา-เมษา แล้วมีคนบอกว่าอย่างชั้นเนี่ยนะเชื่อดวง เออ ปกติก็ไม่ได้เชื่อ แต่ชั้นรู้สึกว่ามันแม่นจริง เอาให้ใครดูก็บอกใครๆก็นั่งเทียนเขียนได้ เนี่ยยย มันแม่นสุดๆคงไม่นั่งเทียนเขียนแล้วแหละ มันเป็นไปตามการโคจรของดาวพฤหัสกับดาวเสาร์ ! 5555555”

สำหรับดวงเมืองที่ โหรวสุ ได้กล่าวไว้นั้น มีดังนี้

Advertisement

ดวงเมืองประเทศไทยปี 2563

สังคม
ปี 2563 ตั้งแต่ดาวเสาร์โคจรเข้าทับดาวจันทร์ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – กรกฏาคม 2563 จะเป็นช่วงที่มีคนตกงานเพิ่มขึ้น คนเป็นหนี้ถูกยึดบ้านที่อยู่อาศัย และมีปัญหาหนี้สินจนมีคนฆ่าตัวตายรายวัน รวมถึงมีประชาชนบางส่วนที่ย้ายออกจากกรุงเทพฯกลับไปอยู่ต่างจังหวัดมากขึ้น ส่วนสภาพอากาศในช่วง ก.พ. – ก.ค. จะแล้งจัดจนขาดแคลนน้ำ แต่พอเข้าช่วงต.ค. 2563 จะมีพายุเข้าทำให้ฝนตกหนักน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ นอกจากนี้ในจังหวัดใหญ่ของประเทศยังต้องระวังคดีอาชญกรรม และคดีร้ายแรงที่เกิดเพิ่มมากขึ้นตามมา เพราะในช่วงที่ดาวพฤหัสโคจรเป็นนิจนี้ มักจะเกิดคดีฆาตกรสะเทือนขวัญ หรือคดีอาชญกรรมจากคนขาดสำนึกผิดชอบชั่วดีก่อเหตุอาชญกรรมรุนแรงได้ง่าย นอกจากนี้สายงานอาชีพครูอาจารย์ ทนายความ และข้าราชการ จะมีคนในอาชีพนี้ทำผิดกฎหมายร้ายแรงเป็นข่าวดังที่ทำให้ภาพลักษณ์ของคนในอาชีพนี้เสียหายไปด้วย ส่วนหลังจากเดือนกันยาน 2563 เป็นต้นไปประชาชนจะเจ็บป่วยกันเยอะ ทั้งป่วยจากโรคติดต่อร้ายแรงเช่น โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ๆ โรคคนที่คนไทยเจ็บป่วยเยอะเช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน และปัญหาสุขภาพจิตที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้ากันเพิ่มมากขึ้น

การเมือง
ในปี 2563 จะเป็นปีที่การเมืองไม่นิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วง กุมภาพันธ์ จนถึง เดือน กันยายน 2563 จะเป็นช่วงที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหา และบริหารงานต่างๆ ที่เข้ามามากมาย โดยที่สเถียรภาพของรัฐบาลเองก็ไม่ค่อยดีนัก เพราะจะมีปัญหาเรื่องการจัดแบ่งผลประโยชน์ และการจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่จะส่งผลทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว การปรับคณะรัฐมนตรี ไม่สามารถพยุงให้รัฐบาลมีอำนาจบริหารต่อไปได้ เพราะจะเกิดการต่อต้านทั้งจากภาคประชาชน นักธุรกิจ และข้าราชการ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงตามดวงเมืองในช่วง กุมภาพันธ์ – ตุลาคม 2563 จะเป็นช่วงที่เกิดม็อบประท้วงรัฐบาล และม็อบการเมืองต่างๆ ขึ้นมากมาย จนทุกเดือนจะต้องมีม็อบมาปิดถนน หรือเดินทางเข้ามาร้องเรียนกับรัฐบาล ซึ่งถ้ารัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ม๊อบย่อยๆ จะรวมกันเป็นม๊อบใหญ่กดดันรัฐบาลให้ต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หรือเปลี่ยนตัวนายก กับครม. ไม่ก็มีพรรครัฐบาลร่วมกับฝ่ายค้านจัดตั้งรัฐบาลขั้วใหม่ ที่เป็นไปตามการโคจรของดาวพฤหัส และดาวเสาร์ ซึ่งตามสถิติเมื่อดาวใหญ่ทั้งสองดวงนี้โคจรผิดปกติ และสัมพันธ์กับดาวพฤหัส และดาวเสาร์เดิมในดวงเมือง มักจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หรือการเปลี่ยนแปลงขั้วการเมืองครั้งใหญ่เสมอ ซึ่งการโคจรของดาวในปี 2563 นี้ค่อนข้างคล้ายปี 2475 อยู่หลายจุด ดังนั้นชัดเจนว่า ปี 2563 นี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญยิ่งกว่าปี 2562

Advertisement

เศรษฐกิจ
ปี 2563 ช่วงต้นปีตั้งแต่ มกราคม – สิงหาคม 2563 สภาพเศรษฐกิจของประเทศยังคงอยู่ในช่วงที่ตกต่ำ ตัวเลช GDP ไม่เติบโตเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่ตก เรียกว่าอยู่ในอาการทรงตัวมากกว่า แต่ช่วงนี้จะมีธุรกิจบางประเภทที่อยู่ในช่วงขาลงต้องปิดกิจการโดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตเครื่องจักรอุตสาหกรรม รถยนต์ และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ส่วนเศรษฐกิจในช่วงหลัง 10 กันยายน 2563 ที่ตรงกับช่วงราหูโคจรย้ายเข้าไปในมุมการเงินของประเทศ เป็นตำแหน่งราหูล้วงทรัพย์นั้น จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั้งมูลค่าเงินบาทตก หุ้นตก ธนาคารของรับมีปัญหาขาดสภาพคล่องแ ละหน่วยงานของรัฐ หรือกลุ่มรัฐวิสาหกิจของรัฐเอง ที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ จนถูกฟ้องร้องจากภาคเอกชน ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ช่วงปลายปี 2563 รัฐบาลอาจจะตัดสินใจขายหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนทิ้งไป หรือไปกู้เงินจากต่างประเทศมาเพื่อพยุงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จนทำนโยบายด้านการเงิน และเศรษฐกิจของประเทศต้องมาอยู่ภายในการควบคุมของต่างชาติอีกครั้ง เหมือนช่วงปี 2540 แต่อาจจะมีความรุนแรงมากกว่าตรงที่ประเทศไทยมีโอกาสจะโดนกลุ่มนักลงทุนต่างชาติฉวยโอกาสเข้ามากว้านซื้อที่ดิน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลเสียระยะยาวต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศ

สรุปธุรกิจที่จะรุ่งในปี 2563
1. ธุรกิจขายอาหาร เครื่องดื่ม หรือของกินเพื่อสุขภาพ
2. ธุรกิจประกันสุขภาพ ประกันชีวิต
3. ธุรกิจบริการการแพทย์ และธุรกิจ Health Care ทุกประเภทที่ส่งเสริมความงาม และสุขภาพ
4. ธุรกิจการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล (รวมไปถึงธุรกิจสีเทาที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบด้วย)
5. ธุรกิจเช่าซื้อ และ Sharing Economy ทุกประเภทที่ไม่การครอบครอบงทรัพย์สิน เน้นการจ่ายครั้งเดียว ประหยัดค่าใข้จ่าย ไม่ต้องเป็นหนี้ในระยะยาว
6. ธุรกิจเกี่ยวกับความเชื่อ ทัวร์ทำบุญ คอร์สนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม และเครื่องลางของขลัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image