อินฟลูเอนเซอร์ดังแฉ ถูกมิจฉาชีพป่วน ใช้เมลล์ ‘สั่งของ-จองร.ร.’ คุกคามทางเพศนับปี
ปัญหาการคุกคาทางเพศ และการคุกคามทางไซเบอร์ นับเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยครั้ง ล่าสุด เฟซบุ๊ก LDA ลดา – Ladies of Digital Age ซึ่งเป็นสื่อของคนรุ่นใหม่ ที่นำเสนอเรื่องเทคโนโลยีชื่อดัง “เฟื่องลดา – สรานี สงวนเรือง” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เจ้าของฉายา นางฟ้าไอที ได้ออกมาเปิดเผยถึงการถูกคุกคามทางไซเบอร์ในช่องต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องน่าตกใจไม่น้อย โดยระบุว่า
“หยุดการรังแกทางไซเบอร์ หยุดการคุกคามทางเพศต่อผู้หญิงในเงามืด
แถลงการณ์การถูกแอบอ้างใช้ชื่อทางไซเบอร์โดยจงใจสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้ผู้อื่น
ในช่วงตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราได้ต่อสู้อย่างเงียบๆกับผู้ไม่ประสงค์ดีที่ตั้งใจโจมตีและรังแกน้องเตอเติ้ล ปริยธิดา หนึ่งในทีมพิธีกร LDA โดยการแอบอ้างชื่อน้อง ใช้สั่งสินค้าและบริการไปยังบุคคลที่น้องเกี่ยวข้องด้วยโดยแกล้งสั่งไปที่บ้านและที่ทำงานตลอดเวลา อีกทั้งยังสร้างอีเมลปลอม และบัญชีปลอม เพื่อส่งไฟล์คุกคามทางเพศเป็นจำนวนหลายร้อยฉบับ
แต่ในช่วง 2-3 สัปดาห์มานี้ เหตุการณ์ได้ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นวงกว้าง โดยผู้ไม่ประสงค์ดีเริ่มแอบอ้างใช้ชื่อของน้อง ไปสร้างความเสียหายและรบกวนผู้อื่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับน้อง ทั้งจองโรงแรมหลายสิบแห่งผ่านทาง agoda และส่งไฟล์แอบอ้างเป็นน้องและข้อความคุกคามทางเพศไปหาทั้งบริษัทสื่อออนไลน์ / บริษัทเทคโนโลยี / influencer ชื่อดังหลายท่าน / digital agency และเริ่มลุกลามมาแอบอ้างชื่อเฟื่อง และน้องออยด้วยเช่นเดียวกัน
เหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนเสียหาย ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และรบกวนผู้คนจำนวนมากที่ไม่เกี่ยวข้อง และไม่สมควรได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้
เมื่อวานหลังจาก LIVE แถลงการณ์ไป วันนี้ผู้ไม่ประสงค์ดียังไม่หยุด และเริ่มขยายการกระทำเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ มีเพื่อนๆพี่ๆผู้เสียหายหลายท่านที่ทักมาหลังไมค์ด้วยความเป็นห่วง
เราจึงขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น เล่าถึงผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆที่เดือดร้อนจากพิษโควิดอยู่แล้วและต้องถูกซ้ำเติมจากกรณีนี้อีก และอยากขอความช่วยเหลือจากคนที่พอจะมีกำลังความสามารถ และส่งข้อความไปถึงอีกหลายๆท่านที่อาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คล้ายๆนี้ ให้ร่วมกันแสดงตัวและหาทางเรียกร้องให้ผู้ที่ไม่หวังดีหยุดการกระทำดังกล่าว
ช่องทางที่ผู้ไม่หวังดีใช้ก่อกวน (ไล่ตามลำดับ timeline) ได้แก่
1. Domino’s Pizza & The Pizza Company 1112 : เริ่มสั่งตั้งแต่ปี 2019 ครั้งละหลายสิบถาด ช่วงเวลาที่สั่งเป็นหลังเที่ยงคืน สั่งล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ เก็บเงินปลายทาง ใช้เบอร์เราเป็นปลายทางรับสาย เปลี่ยนอีเมลที่ใช้จองไปเรื่อยๆ เปลี่ยนชื่อโดย mix & match ชื่อเตอเติ้ล กับคนที่เกี่ยวข้องกับน้องไปเรื่อยๆ เราไม่สามารถเข้าไปแก้ไขออเดอร์ได้ บ้างก็เป็นพิซซ่าสาขาต่างจังหวัดโทรมาบ้าง ผลิตเสร็จแล้วเตรียมมาส่งบ้าง
Status : จบเคสพิซซ่าไปด้วยการเล่าปัญหา และแจ้งว่าถ้าเป็นเบอร์นี้สั่งเข้าไป ให้ยกเลิกออเดอร์เลย
2. Lazada : เมื่อสั่งพิซซ่าไม่ได้ เริ่มหันมาสั่งของออนไลน์มาส่งแทน สั่งตั้งแต่ช่วงล็อกดาวน์โควิด และสั่งมาเรื่อยๆ เป็นสินค้าหลากหลาย เป็นแบบเก็บเงินปลายทางทั้งหมด โทรศัพท์มาทุกวัน วันละหลายสิบสาย และหลายครั้ง messenger มาอยู่ที่ล่างตึกแล้ว
พยายามแก้ไขโดยวิธีเดียวกันกับพิซซ่า แต่ยังแก้ไม่ได้
Lazada ได้ช่วยเหลือโดยตรวจสอบให้ว่า เบอร์ที่ถูกใช้ ผูกอยู่กับ account ไหนบ้าง และระงับการใช้งาน account เหล่านั้นให้ แต่ปัญหาก็ยังคงเกิดอยู่ เข้าใจว่าคงสร้าง account ใหม่ๆเพิ่มเข้าไปอีก
ทางที่ทำได้คือ ให้เราส่งใบแจ้งความให้ทีมกฎหมายของ Lazada และ Lazada จะดำเนินการกับตำรวจต่อไป
Status : ดำเนินการเรียบร้อย รอฟีดแบ็คกลับจากทางลาซาด้าอยู่ และโทรศัพท์จาก messenger ยังมาทุกวันอยู่เช่นเดิม
3. Tesco Lotus – เทสโก้ โลตัส : มาในรูปแบบของสด ชื่อที่ใช้สั่งเป็นชื่อเตอเติ้ล โทรเข้าเบอร์ MD
Status : บอกว่าไม่ได้สั่ง และอธิบายปัญหาให้เจ้าหน้าที่ฟัง ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าจะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรวจสอบให้ และหลังจากนั้นของก็ไม่มาอีกเลย ไม่แน่ใจ tesco จัดการอย่างไร หรือคนทำ เลิกใช้ช่องทางนี้ไม่แน่ใจ แต่ขอชื่นชมมา ณ ที่นี้จริงๆค่ะ และพนักงาน tesco น่ารักมากๆขอโทษขอโพยกันไปมาทั้งสองฝั่ง ทั้งเขาและเรา
4. agoda : เริ่มช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ใช้ชื่อเตอเติ้ล และเริ่มขยายมาใช้ชื่อ ออย วรรษมน และเฟื่อง และเริ่มลามการก่อกวนไปถึงคนอื่นๆ โดยใช้อีเมลของบริษัทไอที และ influencer หลายท่านในการยืนยันการจอง โดยเลือกจองกับโรงแรมที่ไม่ต้องการันตีด้วยบัตรเครดิต จองทุกวัน ต่อคนต่อวัน วันละหลายสิบโรงแรม รวมแล้วน่าจะเกือบร้อยโรงแรมแล้ว
สอบถามกับทาง Agoda ประเทศไทย และทดลองเองพบว่า เราไม่ต้องยืนยันตัวตนและล็อกอินก่อนจอง แต่สามารถจองโดยใช้อีเมลจริงได้เลย สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ถึงเวลาเข้าพัก ไม่มีคนไปพัก โรงแรมเก็บเงินไม่ได้… เห็นใจโรงแรมมากๆที่ต้องมาเจอเรื่องนี้ซ้ำซัดหลังโควิดที่สถานการณ์ท่องเที่ยวก็แย่มากๆอยู่แล้วอีก
Pattern ที่เราพบคือ ทุกการสั่ง เป็นการสั่งออนไลน์ที่ไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตน และยังไม่ต้องจ่ายเงิน โดยผู้รังแกน่าจะเป็นผู้ที่ความรู้ไอทีที่ดีและใช้เทคนิคต่างๆในการหลบเลี่ยง จงใจกลั่นแกล้งน้องทุกครั้งที่มีเวลาว่าง เราได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายแจ้งความลงบันทึกประจำวัน และแจ้งความไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี – บก.ปอท.แล้วยังไม่มีความคืบหน้า (รอบล่าสุดคือเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563)
จึงอยากมาขอใช้พื้นที่สื่อ เพื่อชี้แจงแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ และขอความช่วยเหลือ
และเชื่อว่าคนที่ทำ คุณคงได้อ่านข้อความนี้ เรารู้ว่าคุณเก่ง แต่อย่าใช้ความเก่งไปในทางสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นแบบนี้เลยนะคะ เพราะคนที่เดือดร้อนจริงๆ ไม่ใช่คนที่ถูกแอบอ้าง แต่คือ พนักงานระดับปฏิบัติการ คนส่งของ / โรงแรม / ร้านค้าเล็กๆต้องเสียทั้งกำลังคน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ต้องมาแบกรับต้นทุนมหาศาลที่เกิดขึ้นจากการกลั่นแกล้งในครั้งนี้
หากคุณยังคงมีหัวใจ ขอให้หยุดการใช้กำลังทางไซเบอร์กับผู้หญิง และหยุดกลั่นแกล้ง สร้างเรื่องราวให้กับคนตัวเล็กตัวน้อย เจ้าของธุรกิจ SME ที่เดือดร้อนอยู่แล้ว
และอยากให้เคสนี้ เป็นเคสตัวอย่างให้กับคนที่อยู่บนโลกออนไลน์ได้ระวังตัว
ทั้งเจ้าของแพลตฟอร์ม ร้านค้า บุคคลสาธารณะ และทุกๆคน
เหรียญมีสองด้านเสมอ เทคโนโลยีก็เช่นกัน
ในฐานะคนที่เชื่อในพลังของเทคโนโลยี เราหวังว่าเคสนี้จะช่วยทำให้ทุกบริษัทที่ต้องเข้ามาในโลกดิจิทัล ให้บริการออนไลน์ ได้เห็นช่องโหว่ที่เกิดขึ้น และสามารถนำไปปรับปรุงแก้ไข และหาจุดสมดุลระหว่างความง่าย สะดวกสบาย และช่องว่างให้ผู้ไม่หวังดีมาใช้ก่อการร้าย อย่างผิดวัตถุประสงค์
เรามาร่วมกันสร้างให้โลกออนไลน์เป็นสังคมที่น่าอยู่และปลอดภัย สำหรับทุกๆคนกันเถอะค่ะ
ด้วยความเคารพ
สรานี สงวนเรือง (เฟื่องลดา)
ปล. รูปในโพสต์นี้เป็นเพียงแค่ไม่ถึง 10% ของการกระทำของผู้ไม่หวังดีคนนี้ ยังมีผู้เสียหายอีกมากมายและหลายการรังแกที่เราไม่ได้นำมาใส่”
พร้อมกันนี้ ยังได้แนบข้อความที่เข้ามาคอมเมนต์คุกคามทางเพศ หลักฐานการสั่งอาหารต่างๆ ที่เธอไม่ได้เป็นคนสั่ง แต่เป็นมิจฉาชีพที่เข้ามาใช้อีเมลล์ของเธอด้วย
