สาวอัดคลิปถึง ‘วอร์มอัพ’ แจ้งพบติดเชื้อโควิด ก่อนเจอสวน พีอาร์เฉยๆ ไม่ได้จ่ายจริง โยนร้องผู้ว่าฯ ลั่นจะไม่ไปเหยียบร้านอีกแล้ว
เมื่อวันที่ 10 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชี Shanunphat Chaowchaiyut เปิดเผยถึงกรณีการแจ้งพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากการไปเที่ยวสถานบันเทิง วอร์มอัพ คาเฟ่ โดยทางร้านปฏิเสธการจ่ายเงินตามที่เคยโพสต์ พร้อมระบุว่าเป็นเพียงการประชาสัมพันธ์ มิได้มีการจ่ายเงินจริง หากต้องการเรียกร้องให้ไปแจ้งเรื่องกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดียวกันได้อัดคลิปวิดีโอความยาว 3 นาที 56 วิทนาที ที่มอบให้ “วอร์มอัพ คาเฟ่” โดยตรง
ผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชี Shanunphat Chaowchaiyut กล่าวว่า คลิปนี้ขอแยกให้กับวอร์มอัพเลย เมื่อวันที่ 9 มกราคม เราได้โทรไปแจ้งทางวอร์มอัพเรื่องมีผู้ติดเชื้อเพิ่มจากที่นั่น และถามถึงเรื่องที่เค้าเคยทำ PR ไว้ว่า ใครมาที่ร้านติดโควิด-19 ได้ 1 แสน ถ้าตายได้ 1 ล้าน เค้าได้บอกเรากลับมาว่าเป็นเพียงแค่การ PR ของร้านเท่านั้น ไม่ได้ให้จริง ถ้าอยากเรียกร้องให้ไปเรียกร้องกับผู้ว่าฯเชียงใหม่ ตอนเราเข้าไปใช้บริการ เราจ่ายเงินให้คุณ แต่พอเกิดเรื่องคุณลบโพสต์ทิ้ง และให้เราไปเรียกร้องกับผู้ว่าฯอย่างนี้เหรอ มันใช้ได้เหรอคะ
“คำถามคือ การที่เค้า PR ร้านแบบนี้ เราเข้าใจว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อให้รู้สึกว่าปลอดภัยในการเข้าไปใช้บริการ ถึงแม้ว่าคนอื่นจะบอกว่าเราเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเอง แต่ทางร้านตอบมาน้ำเสียง การพูดจา คือปัดความรับผิดชอบมากๆ ไม่มีแม้คำขอโทษหรือขอบคุณที่โทรมาแจ้งข่าว สถานที่อื่นที่เราไป ทุกคนน่ารักและให้คำปรึกษา รวมทั้งขอบคุณที่เราอัพเดตข่าวสารกับเค้า
“ตอนนี้เราเสียความรู้สึกมากค่ะว่ากะร้านที่เราไว้ใจแล้วเข้าไปใช้บริการจะตอบกลับมาแบบนี้ เค้าอาจจะคิดแค่ว่าเสียลูกค้ากลุ่มเราไปก็ไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้ใช้บริการเค้าบ่อย เค้าไม่เสียหายอะไร ส่วนเราลาก่อน ลาขาด ไม่ไปใช้บริการหรือเหยียบที่นั่นอีกแล้ว โกรธมาก โมโหมาก”
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชี Shanunphat Chaowchaiyut ระบุในวิดีโอว่า หลังจากทราบผลตรวจได้โทรแจ้งไปที่ร้านวอร์มอัพเป็นที่สุดท้าย เนื่องจากเคยเห็นโพสต์ของร้านที่ระบุว่า หากติดโควิดได้เงิน 1 แสน ถ้าตายได้ 1 ล้าน จึงเลือกโทรไปบอกว่าคนของเราได้รับเชื้อจากที่นั่น ทว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาทางโทรศัพท์คือเป็นเพียงการพีอาร์ของร้านเท่านั้น ไม่ได้ให้เงินจริง ซึ่งคิดว่าพีอาร์จริง เป็นการชวนเชื่อ ทำให้รู้สึกปลอดภัยในการให้บริการ ดังนั้น ร้านต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เคยแจ้งไว้ ไม่ใช่แจ้งแล้ว เกิดเรื่องแล้ว ต่อมาลบโพสต์ทิ้ง
ผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชี Shanunphat Chaowchaiyut บอกอีกว่า ตนเองเสียความรู้สึกมาก รู้สึกแย่มาก น้ำเสียงของคนพูดไม่ได้มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ หรือเป็นห่วงเลย โดยน่าจะเป็นห่วงทางร้านมากกว่า เข้าใจว่าทำงานให้กับทางร้านอยู่ แต่ยังมีวิธีพูดที่ดีกว่านี้ ถ้าคุณจะปฏิเสธ
“เราถามเขาว่าสามารถเรียกร้องอะไรได้บ้าง เขาบอกให้ไปบอกผู้ว่าฯเชียงใหม่ อยากถามว่า ตอนเราไปใช้บริการร้านคุณ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ได้เงินจากคุณด้วยไหม หรือยังไง พอเวลาเกิดปัญหาแล้วให้เขารับผิดชอบคือยังไง ฟังแล้วรู้สึกว่าคุณไม่ได้เป็น (ติดเชื้อโควิด) โอเคว่าคนรอบตัวอาจเป็น แต่คุณรู้ไหมว่าสถานการณ์ตอนนี้ที่เราอยู่คือเราเครียดมาก วุ่นวาย กระทบทั้งเรื่องงานและหลายๆ เรื่อง คนรอบตัว ครอบครัวเราก็ห่วงกันหมด แต่เขาไม่มีแม้แต่จะขอโทษสักคำ หรือขอบคุณที่โทรมาแจ้งอัพเดตข่าวสารกัน ไม่มีเลย
“ถ้าเปรียบกับอีกที่หนึ่งที่เราโทรไปแจ้ง หรือทุกที่ที่เราโทรไป เขาน่ารักมาก เขาขอบคุณที่เราโทรมาแจ้ง ขอให้เรารักษาสุขภาพ ซึ่งอาจเป็นแพทเทิร์นก็ได้
“เราไม่ไปที่นี่ (วอร์มอัพ) อีกแล้ว จะไม่ไปเหยียบ ไม่ไปใช้บริการที่นี่อีกแล้ว คุณอาจคิดว่าพวกเราเป็นแค่ลูกค้ากลุ่มน้อย บ้านก็ไม่ได้อยู่เชียงใหม่ ปีนึงไปเที่ยวที่นั่นครั้งเดียว แต่การที่คุณทรีตลูกค้าแบบนี้ ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เชื่อว่ากฎแห่งกรรมมีอยู่จริง”
