มุมมอง “ส.ส.ธัญวัจน์” ผู้ทำอัลบั้ม 2002 ราตรี เมื่อได้ชม “จีนี่ จ๋า” เวอร์ชั่น 2021
เป็นกระแสพูดถึงกันทั้งประเทศกับ “2021 RATRI” (สองศูนย์สองหนึ่ง ราตรี) ที่นำเพลงเต้น และท่าจำในตำนาน อย่าง “จีนี่ จ๋า” ฉบับของ 5 สาวตัวแม่ในตำนาน 2002 ราตรี “แคทรียา อิงลิช-ญาญ่า หญิง-ไชน่า ดอลล์ และเจนนิเฟอร์ โปลิตานนท์” กลับมาทำใหม่ในฉบับ 2021 ได้ NINO โปรดิวเซอร์มือทอง และ 22 BULLETS ดีเจ-โปรดิวเซอร์ ระดับอินเตอร์ ซึ่งดนตรีของเพลง จีนี่ จ๋า (2021) คือการผสมผสานในสไลต์เพลงที่มีบีทดนตรี Trap และ Electronic Dance Music เข้าด้วยกัน กลายเป็นเพลง Pop Dance ร่วมสมัย มีความดุดันแต่สนุกสุดๆ ผสมกลิ่นอายอารบิก
โดยได้ 5 สาวสุดแซ่บมาเป็นตัวแทนของ “จีนี่ จ๋า” รุ่นใหม่ คือ สาวมั่น อย่าง “หวาย-ปัญญ์ธิษา เธียรประสิทธิ์” , สาวTalk of the Town Female Rapper อย่าง “MILLI” มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล แร็ปเปอร์ สาววัย 18 น้องเล็กที่สุดของกลุ่มที่มีความสามารถครบครัน , นางแบบสาว หน้าเก๋ลีลาแดนซ์เป็นไฟ อย่าง ‘จิงจิง วริศรา ยู’ ,นักร้องสาวเสียงทรงพลัง “แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น” และความพิเศษของ 2021 ราตรีนี้คือ ศิลปิน LBGT คนแรกในวงการ GIRL GROUP อย่าง “บลอสซั่ม-ชนัญชิดา รุ่งเพชรรัตน์”
ซึ่งพอเอ็มวีถูกปล่อยออกไป ก็มีแฟนๆเข้าไปชื่นชมเอ็มวีและความสวย แซ่บ ปังของทั้ง 5 สาวกันเพียบ แต่ก็ยังมีชาวเน็ตบางส่วนออกอาการไม่ปลื้ม ด้วยการนำไปเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นเก่า 2002 ราตรี กันอย่างมากมาย จนขึ้นเทรนด์อันดับ 1 บนทวิตเตอร์
เรื่องดราม่าก็ว่ากันไปตามความเห็นและรสนิยมส่วนตัวที่ห้ามกันไม่ได้ โดยเฉพาะในยุคโซเชียลมีเดียที่ทุกคนสามารถแสดงความเห็นได้
แต่เชื่อหรือไม่ ว่าเพลงนี้ในเวอร์ชั่นแรก 2002 ราตรี ผู้ควบคุมและทำอัลบั้ม เป็นฝีมือการผลิตของบุคคลที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นนักการเมือง เขาคือ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นี่เอง
ถามไปที่ธัญวัจน์ เจ้าตัวเล่าให้มติชนออนไลน์ ฟังว่า เป็นคนควบคุมดูแล เป็นโปรดิวเซอร์ และออกแบบ ท่าเต้นเพลงดังกล่าวจริง
ธัญวัจน์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้อัลบั้มดังกล่าวเกิดขึ้นในบริบทของการทำเพลงที่ไม่ได้คาดหวังความสำเร็จมากมาย อาจจะเรียกได้ว่าเป็น การทำเพลงในขั้นทดลองของทางค่ายก็ได้ เป็นการรวมตัวกันของนักร้องในระดับที่มีความสามารถทักษะในการเต้น รุ่นใหม่ รวมตัวกันทำเพลง จึงออกมาเป็นเพลงจินนี่จ๋า 2002 ราตรี ซึ่งการทำเพลงดังกล่าวเป็นการทำเพลงที่สนุกมาก เราเต้น ทดลอง แล้วก็เปลี่ยน ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เรียนรู้กันไปอย่างสนุกสนาน ไม่มีแรงกดดันจากผู้ใหญ่หรือผู้บริหารค่ายเพลงเลย เหมือนเป็นการทำอัลบั้มแบบปล่อยผ่าน แต่สุดท้ายกลับประสบความสำเร็จ
โดยเพลงดังกล่าวตนเองเป็นผู้ออกแบบท่าเต้นด้วย หรือที่เรียกกันคือ ท่าเฮเลวังกา ถามว่าท่านี้มาได้อย่างไร มันเป็นการผสมผสานระหว่าง ฐานคิดแบบคนไทย คือคนไทยชอบรำวง มันก็ออกมาเป็นท่ายกมือ
ประกอบกับเพลงที่ผสมผสานกับความเป็นอาหรับ ท่าเต้นเลยเป็นแบบนั้น เพลงออกมามันเลยสนุกแบบไทยๆ
ผลตอบรับในช่วงนั้นเกินความคาดหมายมาก ขนาดนักร้องทุกคนมีอัลบั้มของตัวเอง แต่เพลงนี้ดังกว่าอัลบั้มของนักร้องแต่ละคนอีกแม้จะเป็นการรวมการเฉพาะกิจ
เมื่อถามถึงความเห็นว่าได้ดูเพลงจินนี่จ๋าเวอร์ชั่น 2021 หรือยัง ธัญวัจน์ กล่าวว่า ได้ดูแล้วเมื่อคืน สำหรับความเห็นส่วนตัวนั้น สำหรับคนที่เคยดูเพลงจินนี่จ๋าเวอร์ชั่น 2002 เวลากลับมามองเพลงเวอร์ชั่นใหม่ ก็อาจจะมองแบบชอบได้หรือมองว่าเป็นอีกแบบก็ได้ หรือจะไม่ชอบก็ไม่เป็นไร สำหรับคนที่เอามาเปรียบเทียบกัน ก็อยากให้มองในเรื่องของความเป็นศิลปะ การสร้างสรรค์ ความแตกต่างหลากหลาย ซึ่งความสำเร็จของการนำเพลงก็มาจากประชาชน นักร้อง นักแต่งเพลง ผู้กำกับเอ็มวีก็ตั้งใจ ในเวอร์ชั่น 2002 ราตรี คนทำเพลงก็ตั้งใจ ในเวอร์ชั่น 2021 ก็มีความตั้งใจ เข้ากับยุคสมัย ขอให้กำลังใจผู้ผลิต
สำหรับเรื่องจุดเด่นของเวอร์ชั่นล่าสุดนั้น ต้องบอกว่าได้เห็นนักร้องทำอะไรเซอร์ไพรซ์ อย่างมาก เช่นน้องแก้มที่ทีแรกนึกว่าจะเน้นเรื่องการร้อง แต่ก็เต้นอย่างสนุกสร้างความประทับใจ ส่วนคนอื่นก็มีความหลากหลาย มีแร็พเปอร์ด้วย บางช่วงก็มีส่วนผสมของการร้องแบบ R&B อย่างลงตัว เป็นส่วนผสมของวิธีคิดที่หลากหลายมารวมกันจนรู้สึก เซอร์ไพรซ์แปลกใจ
ส่วนที่คนจะมองเรื่องท่าเต้น หรืออะไรที่มีการวิจารณ์กัน อยากให้มองว่าวิธีคิดของคนทำเพลงต่างกัน ในเวอร์ชั่นนี้ยอมรับว่าในเรื่องของท่าเต้นและคนดูอาจจะร่วมสนุกไม่ได้เหมือนเวอร์ชั่นเก่า ก็เพราะเพลงทั้งสองเพลงเกิดขึ้นมาในบริบทคนละฟังก์ชั่นกัน เวอร์ชั่นใหม่เป็นเรื่องของซาวด์ดีไซน์ ทำเพลงเพื่อให้คนเสพ ให้คนฟัง แบบเก๋ๆ ซึ่งต่างกับฟังก์ชั่นของเวอร์ชั่นแรก ที่มุ่งเน้นให้คนร่วมสนุก
“เหมือนเราฟังเพลงของ Rihanna บางเพลง เราก็แค่ต้องการฟังความไพเราะหรือซาวด์ดีไซน์ของมัน ขณะที่บางเพลงเราอยากจะจับไมค์ร้องตามแบบคาราโอเกะ ในเวอร์ชั่นนี้มันเป็นแบบแรกมากกว่า รวมถึงวิธีคิดเรื่องท่าเต้นที่แตกต่างกัน ซึ่งก็ขอให้กำลังใจทีมงานที่ผลิต นักร้องของเพลงนี้ ก็จะรอติดตามฟังในเพลงต่อๆไปขอเป็นกำลังใจให้”ธัญวัจน์ กล่าว
ส่วนกรณีที่คนมองเรื่อง การตีความวัฒนธรรมในเพลง ที่เวอร์ชั่นใหม่จะมีกลิ่นอายของพราหมณ์-ฮินดู แบบอินเดีย ต่างจากเวอร์ชั่นแรกที่จะตีความในแบบอาหรับนั้น ส่วนตัวมองว่าก็เป็นการคิดนอกกรอบ ไม่มีผิดไม่มีถูก อะไรที่ปรากฏในเอ็มวีก็เป็นสิ่งที่ผู้ผลิตคนทำงานต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว วัฒนธรรมอาหรับกับอินเดียก็ไม่ได้ไกลกันมีส่วนร่วมส่วนผสมที่คล้ายกัน ที่สุดแล้วเวลาจะช่วยตลกผลึกเองว่าสิ่งที่ผู้ผลิตทำขึ้นมานั้นเป็นอย่างไร เราควรสนับสนุนความเปิดกว้าง เปิดโอกาส ต้องขอขอบคุณที่ทำให้เพลงนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และต้องขอขอบคุณทีมงานนักร้องตั้งแต่เวอร์ชั่นแรกด้วย ที่สามารถทำเพลงโด่งดังยาวนานมามากขนาดนี้
