ปัญหาคลาสสิก! นทท.โพสต์ โดนคิดเงินค่ารถแพงเกิน ที่ภูเก็ต

ปัญหาคลาสสิก! นทท.โพสต์ โดนคิดเงินค่ารถแพงเกิน ที่ภูเก็ต

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nattakorn Ruengroj ได้โพสต์ข้อความ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวที่ภูเก็ต โพสต์บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาเรื่องค่าแท็กซี่สุดโหด ว่า

” #ปัญหาเดิมๆ? #ปัญหาคลาสิค
เบาได้? เบาครับ…??
ท่านผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทุกประเภท
นักท่องเที่ยว? ชุดแรกๆ? คือ? นางเอก-พระเอก
หนังโฆษณาการท่องเที่ยวภูเก็ต
แบบต้องจ่ายเงินให้เรานะครับ
?? แท็กซี่แพงไป? ใครจะช่วยเราล่ะ… ?? ”

โดยเนื้อหาที่นักท่องเที่ยวโพสต์ ระบุว่า โรงแรมต้องการจะคิดเงิน 900 บาท สำหรับค่ารถจากสนามบินไปยังหาดป่าตอง โดยที่ผ่านมาตัวเองไม่เคยต้องจ่ายเงินมากขนาดนี้เพื่อไปที่ป่าตอง ที่โรงแรมเดียวกัน และบางคนจ่ายแค่ 700 บาท เพื่อไปโรงแรม พร้อมระบุว่า จะแปลกใจมากถ้าเราสามารถใช้บริการรถ Sha+ ที่สนามบินได้ และมีใครเคยทำหรือไม่ และรู้หรือเปล่าว่า ราคาจากสนามบินไปโรงแรมจริงๆเท่าไหร่

Advertisement

พร้อมกันนี้ ได้มีผู้เข้ามาร่วมแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าว เกี่ยวกับประสบการณ์ในการใช้รถที่ภูเก็ตจำนวนมาก บางคนระบุว่า อาจจะเป็นด้วยวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้โรงแรมได้รับผลกระทบอย่างหนัก จึงได้ขึ้นค่าบริการต่างๆ

Advertisement

 

วันเดียวกันนี้ เฟซบุ๊ก Madame Mamuang : มาดามมะม่วง กิน เที่ยว ช้อป ได้โพสต์เรื่องเกี่ยวกับแท็กซี่ ที่ภูเก็ตเช่นกัน โดยระบุว่า เจอปัญหาเรียกใช้บริการแท็กซี่จากผู้ให้บริการเรียกแท็กซี่รายหนึ่ง หลังจากเรียกจากโรงแรมไปป่าตอง แต่รออยู่นานมาก จนต้องโทรไปหาแท็กซี่ ได้ความว่า ต้องการเรียกค่าบริการแบบเหมา แต่หากผู้โดยสารไม่ต้องการจ่ายแบบเหมา ก็ให้ผู้โดยสารโทรไปแจ้งกดเลิกเอง

จนที่สุด ได้รถ SHA+ ที่มาส่งแขกที่โรงแรม จึงเจรจาค่าบริการกัน จนได้ราคาที่ต้องการ และได้ไปที่ป่าตอง ส่วนขากลับ ก็เจอแบบเดียวกันอีก จนสุดท้าย มีคันหนึ่งยอมรับ และได้ทิปไปเนื่องจากเห็นว่าเป็นคนดี

“เออ เข้าใจ demand/supply ขายแพงได้ใครจะไม่อยากขาย
พี่คนขับบางคนก็บ่นให้ฟังว่าเรต Just Grab มันไม่คุ้ม…ค่าน้ำมันในเกาะภูเก็ตแพงกว่าในฝั่ง มาดามถามว่าแพงกว่าเท่าไหร่ เค้าบอกลิตรละ 50 สต. …. มาดามเลยแกล้งถามว่า เอ้ะเต็มถังมันกี่ลิตรนะ 50 ได้มั้ย แล้วมันเท่ากับกี่บาทนะ ขับไปเติมบนฝั่งดีมั้ยถ้าจะแพงกว่าขนาดนั้น อ๋อออ 25 บาทเองหรอ ว้าาาา (แต่แหมมม เอาค่ารถซะแพงกว่าหลายร้อยนะ)
คนขับบางคนก็เล่าว่ามีมาเฟีย เค้าต้องเสียค่าคุ้มครอง…
สารพัดเรื่องราว พยามจะเข้าใจและมองหลายๆ มุมนะ ทุกคนมีเหตุผลแหล่ะ แต่สุดท้ายถ้าจะนั่งว่างๆ เลือกงานก็แล้วแต่ และอย่าบ่นว่าลำบาก หนูก็ลำบาก ทุกคนก็ลำบาก และยิ่งในช่วงเวลาที่ลำบากเราจะถามหาความสุขสบายหาง่ายจ่ายคล่องได้ยังไง?” มาดามมะม่วง ระบุในตอนท้ายของเฟซบุ๊ก

โดย มาดามมะม่วง ได้เข้ามาชี้แจงในช่องแสดงความเห็นไว้ว่า

“มาอธิบายอีกที เผื่อไม่ชัดเจนนะคะ
คือจุดประสงค์เราไม่ได้มาบ่นว่าแพง (โอเคมันแพงแหล่ะ แต่ไม่ใช่ใจความสำคัญเท่าอีกประเด็น) เราคิดว่าการซื้อขายมันแล้วแต่ผู้ซื้อผู้ขายตกลงกัน พอใจทั้งสองฝ่ายถึงจะเกิดดีล ไม่ได้จะมาพูดเพื่อให้ลดราคาลงหรือใดๆ เราคนขายของ เราเป็นนักการตลาด เราเข้าใจเรื่องอุปสงค์/อุปทาน ขายแพงได้ใครจะไม่อยากขาย การมีเงินมันซื้อความสุขได้ตั้งมากมาย 🥰
ทีนี้เราพอใจจะเรียก Just Grab
คนขับกดรับงานถ้าพอใจ ถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องรับ (เท่าที่เราถามคนขับมา คือเค้าจะเห็นจุดหมายปลายทางและราคาก่อนกดรับ)
แต่กดรับแล้วไม่ไป
ไม่ยกเลิกงานเพราะจะโดนหักคะแนน
ไม่โทรบอกลูกค้าใดๆ…
คำถามคือ ทำไม? ทำไมคะ?? ทำไมพี่ไม่รับผิดชอบการกระทำตัวเอง??? พี่เลือกกดรับได้ พี่เลือกปฏิเสธได้ โทรบอกเราสิว่าไม่ไปแล้ว บอกเราว่าหลังจากโดนหัก % พี่เข้าเนื้อ ขออีก x บาทได้มั้ย เราพร้อมเจรจาและเข้าใจ หรือถ้าขี้เกียจจะพูดก็กดยกเลิกมาเลย แต่พี่จะเอาทุกทางที่พี่สบายใจ พี่จอดรถนิ่งๆในขณะที่เราเข้าใจว่าพี่กำลังจะมารับเรา ทั้งหมดนี้คือเพิกเฉยต่อการกระทำตัวเอง ไม่รับผิดชอบผลที่จะตามมาใดๆ
เ ห็ น แ ก่ ตั ว
เราโกรธตรงนี้ ตรงที่คุณทำให้คนอื่นเค้าเสียหายไปด้วย คุณรักตัวเองไม่แปลก การรักตัวเองมันไม่ผิด ทุกคนก็รักตัวเอง แต่นี่มันเกินไป ถ้ามีคนแบบนี้เยอะๆ สังคมมันจะเป็นแบบไหน เราจะให้ลูกเราโตมาในสังคมแบบนี้หรอ?
นี่แหล่ะ ประเด็น”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image