ทิชา ชี้ สังคมมักโทษเหยื่อ ทำผู้ถูกกระทำไร้ทางออก เชื่อหากมีโอกาส จะลุกขึ้นสู้
จากกรณีที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม เมื่อรองหัวหน้าพรรคดังล่วงละเมิดทางเพศ ลวนลามหญิงวัย 18 ปี กระทั่งได้เข้าแจ้งความ และมีผู้เสียหายที่ถููกกระทำดังกล่าวเข้าแจ้งความแล้วกว่า 4 รายนั้น
ป้ามล หรือ นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ได้ออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวโดยว่า
“แบบนี้ใช่มั้ย …
ที่ร่วมสืบทอดในฐานะมรดกทางวัฒนธรรม : ชายเป็นใหญ่
สังคมที่ผู้หญิงแบกความรับผิดชอบทางเพศมาพร้อมกับการเกิด
สังคมที่ผู้ชายสำส่อนทางเพศได้ รับการอนุโลมเรื่องเพศได้ สังคมที่การประณามเหยื่อมาก่อนเสมอจนเหยื่อรู้สึกด้อยค่า
เหยื่อเฝ้าดูผู้กระทำ แต่กดทับตัวเอง และจมไปกับภาวะซึมเศร้า
เหยื่อปิดปาก เก็บตัว หมดอนาคต ถ้าไม่เข้มแข็งพอ
ผู้กระทำลอยนวล ฮึกเหิม ผลิตซ้ำ ส่งต่อ สืบทอด
วนลูป ไม่รู้จบ รู้สิ้น
แบบนี้ใช่มั้ย …
ที่ร่วมสืบทอดในฐานะมรดกทางวัฒนธรรม : ชายเป็นใหญ่”
“แค่ผู้ชายธรรมดาอนาจาร …ผู้หญิงธรรมดาที่ถูกสอนให้รักษาพรหมจรรย์ รักนวลสงวนตัว ก็ด้อยค่าตัวเองไปเรียบร้อยตั้งแต่นาทีแรกผ่านไป
นาทีต่อมา …เมื่อคิดถึงโรงพักที่เต็มไปด้วยเพศชาย แถมระบบนิเวศที่ไม่เป็นมิตรต่อคดีทางเพศ เลิกคิดเรื่องแจ้งความเรื่องการแสวงหาความเป็นธรรม เรื่องการนำคนผิดมาลงโทษ
ที่สำคัญ …ผู้หญิงทุกคนเรียนรู้ว่า ‘เราเกิดในบ้านเมืองที่เขาเลือกเบลมเหยื่อก่อน’
ฉะนั้นผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อ ทำได้อย่างเดียวคือ …ลงโทษตัวเอง ด้อยค่าตัวเอง บางคนไปไกลถึงภาวะซึมเศร้า !!!
ไม่ต้องพูดถึงผู้ชายผู้กระทำ …ที่มีชื่อเสียง มีเกราะกำบัง มีฉัตรแก้วกั้นเกศ ไม่ต้องพูดเรื่องการข่มขืนที่หนักกว่าอนาจาร ผู้หญิงคิดนาน คิดเยอะ คิดจนแทบบ้า …
เธอแทบจะไม่มีทางเลือก ทางออกให้ตัวเอง อย่าสงสัย อย่าถาม …ถ้าจังหวะมาถึง ถ้าโอกาสเอื้อ เธอจะดาหน้ากันออกมา !!!”
ทั้งยังได้ระบุด้วยว่า “หน้าที่เราคือ voice ต่อไป พร้อมๆ กับส่งไม้ต่อให้หนุ่มสาวผู้ปฏิเสธอำนาจนิยมรุ่นต่อไป”
