แห่ชื่นชม นโยบาย ร.ร.ดัง จอดรถตู้เปิดท้าย คนขับเช็กซ้ำ ป้องกันเด็กติดค้างในรถ
สืบเนื่องจากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุลืมนักเรียนไว้ในรถรับ-ส่งจนสูญเสียชีวิตอยู่บ่อยครั้ง สร้างความสะเทือนใจแก่มวลชนเป็นอย่างมาก รวมไปถึงกรณีล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้น ใน จ.ชลบุรี หลัง “น้องจีฮุน” เด็กนักเรียนอายุ 7 ขวบ อยู่ชั้น ป. 2 โรงเรียนดังแห่งหนึ่งเสียชีวิตภายในรถตู้รับ-ส่งของโรงเรียน ส่งผลให้มาตรการความปลอดภัย และวินัย ความเอาใจใส่ ของครูผู้ดูแลและรับผิดชอบเด็ก กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม
ขณะเดียวกัน โลกออนไลน์ต่างให้การชื่นชม โรงเรียนบริบูรณ์วิทยา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้เผยแพร่นโยบายการดูแลนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ
โดยเพจดัง Drama-addict ได้แชร์โพสต์ของโรงเรียนซึ่งโพสต์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมให้ความเห็นว่า “อืม รร นี้เข้าท่า นอกจากจะมีการจดให้ครูตรวจจำนวนเด็กรอบนึง ยังให้คนขับรถมาตรวจซ้ำอีกรอบ ตามด้วยการจอดรถแบบเปิดประตูหลังไว้ perfect มาก ยังไงก็ไม่น่ามีเด็กติดในรถ หรือต่อให้ลืมในรถ ก็ไม่น่าตาย ออกมาทางประตูหลังได้”
ทั้งนี้ โพสต์ของโรงเรียนได้เผยแพร่รูปภาพรถตู้รับ-ส่งนักเรียนที่จอดเรียงแถวอยู่ โดยเปิดประตูรถตู้ทุกทางทิ้งไว้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญกับการจอดรถตู้รับ-ส่งนักเรียน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทั้งยังมีการอบรมให้ความรู้เด็กๆ ในการเอาตัวรอดเมื่อติดในรถด้วย
โดยโรงเรียนระบุว่า “เพื่อความปลอดภัย ทางโรงเรียนยังทำตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดมาอย่างต่อเนื่อง 👍🏻 ผู้ปกครองหายห่วงได้เลยค่ะ ทางโรงเรียนจะมีคุณครูประจำสายรถในการนับ ตรวจเช็คชื่อเด็ก ก่อนขึ้นและลงจากรถโรงเรียน
หลังจากส่งนักเรียน พนักงานขับรถจะมีการตรวจตราอีกหนึ่งรอบ ทำความสะอาดปัดกวาดภายในรถ #จุดแรก ณ บริเวณลานจอดรถด้านหลัง และ #จุดที่สอง ขับมาจอดที่โรงอาหารอีกครั้งในตอนบ่าย #ไม่มีเด็กตกค้างแน่นอนค่ะ
ทางโรงเรียนมีนโยบายว่าต้องเปิดประตูทิ้งไว้ เพื่อระบายอากาศ ให้อากาศภายในรถได้มีการถ่ายเท เพื่อเป็นอุทาหรณ์ในการปฎิบัติตนบนความไม่ประมาท ร่วมด้วยช่วยกันระมัดระวังและไม่ประมาทนะคะ”
นอกจากนี้ยังมี หลักสูตร Survival “การเอาตัวรอดจากการติดในรถ” (Survival of the car) ฝึกทักษะการเอาตัวรอดจากการติดในรถตู้) เด็กติดในรถตู้ ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ทางโรงเรียนได้เล็งเห็นความสำคัญ จึงได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ และปฏิบัติการซ้อมวิธีการเอาตัวรอด ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ควรสอนให้เด็กๆ เพื่อเอาตัวรอดจากเหตุฉุกเฉิน เช่น วิธีการบีบแตรขอความช่วยเหลือ วิธีการปลดล็อกรถ เปิดประตู เปิดหน้าต่าง วิธีการออกมาจากรถอย่างปลอดภัย และที่สำคัญที่สุด คือ ให้เด็กๆ สามารถปกป้องชีวิตตนเองได้ด้วยตัวเอง #จะดีแค่ไหนหากเขาสามารถปกป้องชีวิตตัวเองได้
ภายหลังจากที่โพสต์เผยแพร่ออกไป ได้มีผู้ใช้งานออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมอย่างต่อเนื่อง ดังเช่น
“โรงเรียนอื่นทำตามได้นะ ดีมากเลย”
“แบบนี่ดีเลยค่ะ ชอบมากเลย”
“ดีค่ะน่าจะไห้ทุก ร.ร.มีนโยบายเหมือนกันช่นนี้ไห้เป็นมาตราฐานเหมือนดันไห้หมดและรถรับส่งนักเรียนก็ควรจะมีสีไห้เด่นชัดกว้ารถทั่วไปนะคะ”
“เอาจริงๆ ถ้าครูและคนขับสละเวลาไม่ถึง 10 วินาทีขึ้นไปเดินตรวจ ก็จะไม่เกิดปัญหา การเปิดรถทิ้งไว้ก็เป็นแนวคิดที่ดี แต่กลัวพวกสัตว์อันตรายจะขึ้นไปซ่อนตัวอยู่”
“เป็นแนวปฏิบัติที่ดีมากๆค่ะ”
“แค่ ครู คนขับมีใจรักในอาชีพตน เหตุการณ์ย่อมไม่เกิด”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
– ทต.แหลมฟ้าผ่า สอนเด็กเล็ก เอาตัวรอดเมื่อติดในรถ ป้องกันหวั่นซ้ำรอย
– ตร.ไม่พบรอยเด็ก 7 ขวบ ทุบกระจกรถตู้ ครูเวร-คนขับรถแจง ไม่รู้เด็กอยู่บนรถแล้วเสียชีวิต
– ‘โกศลวัฒน์’ ชี้คนขับ-ครูลืมเด็ก 7 ขวบตายในรถผิด ม.291 ประมาท โทษหนักคุก 10 ปี ปรับ 2 แสน ต้องรับผิดแพ่ง
– แม่น้องจีฮุน คาใจลูกดับในรถ คนขับเผย ‘ประตูไม่ล็อก’ ชันสูตรเบื้องต้นชี้เด็กมีภาวะฮีทสโตรก
