ผู้บาดเจ็บไฟไหม้ ‘เมาน์เท่น บี’ โอด เจ็บทั้งตัวและใจ เปิดร้านใหม่ เอาเงินมาเยียวยาบ้าง
จากกรณีที่ ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เผยว่า วันนี้เมาน์เท่น บี เปิดร้านใหม่วันแรก เปลี่ยนชื่อใหม่ เจ้าของเดิม ไปสนุกกันได้ และว่า “ดื่มกินให้สนุกเวลาเมาแล้วมาเยี่ยวหลังร้านก็ดูทำเลดีๆ หน่อย”
ก่อนตำรวจเข้าตรวจสอบและพบว่าแม้จะเป็นพื้นที่ “เมาน์เท่นบาร์แอนด์บิสโท” คนละพื้นที่กับที่ตั้ง “เมาน์เท่น บี” ที่ถูกไฟไหม้จนมีผู้เสียชีวิต 26 ศพ แต่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน และอยู่ในโฉนดแปลงเดียวกัน ซึ่งจังหวัดสั่งปิดเมาน์เท่น บีเป็นเวลา 5 ปี จึงต้องนำหลักฐานกลับไปตรวจสอบอย่างเคร่งครัด
ต่อมา นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือ เสี่ยบี เจ้าของเมาน์เท่น บี เผยทางเฟซบุ๊กยอมรับผิดเเละพร้อมจะชดใช้ในสิ่งที่ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ จำเป็นต้องทำมาหากิน ขออย่าโจมตีร้าน รับปากว่าจะพยายามดิ้นรนหาเงินมาชดใช้และเยียวยาต่อไป
ล่าสุด ฟร้อง ภูริณัฐ ไม้เจริญ นักดนตรีและเป็นหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้ ระบุทางเฟซบุ๊กต่อสิ่งที่เกิดขึ้นว่า เปิดร้านใหม่ ได้เงินแล้วก็เอามาเยียวยาพวกผมบ้างนะ ทุกวันนี้ไปทำแผลไม่ได้เงินสักบาท อ้างว่าผมไม่ได้นอน รพ.แล้ว แต่ผมเพิ่งไปผ่าตัดมา นอน รพ.มาครึ่งเดือน ยังไม่มีเหลียวแลสักนิด
รพ.ก็อยู่ในสัตหีบ ไม่เคยมาสน มาดูแลสักครั้ง ค่าเครื่องดนตรีที่เล่นให้ร้านคุณ ยังไม่ได้คืนสักบาท แต่มีปัญญาแจกเหล้าลูกค้า โปรโมตสารพัด ตลกสิ้นดีครับประเทศนี้
ปล.ผมคือนักดนตรีที่โดนไฟไหม้จากร้านร้านหนึ่งครับ
นอกจากนี้ นายภูริณัฐยังตอบข้อความผู้อื่นด้วยว่า (เงินเยียวยา) ได้มาแล้วช่วงเกิดเหตุแรกๆ ยอดรวมประมาณ 100k (100,000 บาท) แล้วก็เลิกให้ไปตั้งแต่ 5 ตุลาคม ยังไม่พอค่ารักษาที่นอน รพ.เลย ทุกวันนี้ออกจาก รพ.มาแล้ว ทำแผลวันเว้นวันมา 2 เดือน ค่าน้ำมันเท่าไหร่ ค่ารักษาอีก เพิ่งผ่าตัดมาตอนต้นเดือน มันก็รู้ แต่ไม่มีสักบาท มีแค่คำพูดว่าขอให้ผ่านไปด้วยดี แค่มาเยี่ยมยังไม่มาเลย (แต่ละคนได้เงินเยียวยาไม่เท่ากัน แต่รวมๆ ประมาณนี้)
ขณะเดียวกันยังมีผู้เสียหายจากเหตุการณ์เดียวกันร่วมแสดงความเห็น พร้อมย้ำว่า “เขาจะรู้บ้างมั้ยว่าคนที่สูญเสีย หรือคนที่เจ็บ เขาทรมานกาย ทรมานใจแค่ไหน”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง