รู้จัก ‘สุนัขค้นหา’ ทีมช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวตุรกี กว่าจะได้เป็น USAR Thailand ไม่ง่าย

ภาพโดย K9 : USAR Thailand

รู้จัก ‘สุนัขค้นหา’ หนึ่งในผู้ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวตุรกี กว่าจะร่วมทีม USAR Thailand ไม่ง่าย

เจ้าหน้าที่และสุนัขกู้ภัย K9 ภายใต้ ทีม USAR Thailand ที่รัฐบาลไทยเปิดปฏิบัติการ Thailand for Turkiye ช่วยผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวตุรกี เดินทางถึงสนามบินอดานา ตุรกี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ปฏิบัติการดังกล่าวมีเจ้าหน้าร่วมภารกิจทั้งหมด 42 นาย ประกอบด้วย สังกัดกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 20 คน, สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร จำนวน 11 คน, Thailand Rescue Dog Association (THAI RDA) จำนวน 2 คน และสุนัขกู้ภัย จำนวน 2 ตัว, วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 2 คน, บริษัท เอ็นพีซี เซฟตี้ แอนด์ เอ็นไวรอน เมนทอล เซอร์วิส จำกัด จำนวน 4 คน และทีมแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 3 คน

ในปฏิบัติการนี้ ผู้คนจำนวนหนึ่งให้ความสนใจ 2 สุนัข K9 ทั้ง “เซียร่า” และ “ซาฮาร่า” โดยเพจ K9 : USAR Thailand อัพเดตภาพระหว่างคณะอยู่ระหว่างการเดินทาง พบว่าเจ้าหน้าที่สายการบินให้ความดูแลทีม USAR Thailand รวมถึง 2 สุนัข K9 เป็นอย่างดี

2 สุนัขกู้ภัย เซียร่า และซาฮาร่า

สำหรับ ทีมสุนัขค้นหา (SAR Dog TEAM : Search and Rescue Dog) บ๊อกVlog เคยพาไปทำความรู้จักมาแล้ว โดยร่วมพูดคุยกับ สุทธิเกียรติ โสภณิก ประธานมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และผู้เชี่ยวชาญสุนัขกู้ภัย และ อลงกต ชูแก้ว แฮนด์เลอร์ (ผู้จูงสุนัข) ซึ่งปฏิบัติภารกิจร่วมกับสุนัข K9 “สิงโต” หนึ่งในทีม USAR Thailand

‘สุนัขกู้ภัยแห่งชาติ’ ทีมเดียวของประเทศไทย

ผอ.สุทธิเกียรติเผยว่า “สุนัขกู้ภัยแห่งชาติ” เป็นทีมที่รัฐบาลไทยตั้งขึ้น โดยรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากทุกด้านไว้ด้วยกัน ซึ่งทีมสุนัขกู้ภัยทั้งประเทศมีเพียง “ทีมเดียว” เราทำเรื่องนี้มานานแล้ว มีประวัติและผลงานเป็นที่ประจักษ์

ADVERTISMENT

ในด้านการฝึกนั้น ผอ.ระบุว่า ต้องใช้เวลามากกว่า 3-4 เท่า กล่าวคือ ถ้าเป็นสุนัขดมยา (ยาเสพติด) แค่ 6 เดือน ก็ออกไปปฏิบัติงานได้ แต่สุนัขที่ออกไปค้นหาและกู้ภัยต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี ที่สำคัญโอกาสสอบผ่านไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์

ภาพจาก K9 : USAR Thailand

ยากยิ่งกว่ายาก กว่าจะได้เป็นหนึ่งใน USAR Thailand

อลงกตเผยว่า การฝึกเพื่อให้ได้ สุนัขกู้ภัย (Search and Rescue Dog) นับว่ายากแล้ว แต่การได้เป็นสมาชิก USAR Thailand ยากยิ่งกว่า เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เรียกระดมพล เช่น ประเทศเพื่อนบ้านเกิดวิกฤตต้องระดมพลเร็วที่สุดภายใน 6 ชม. แล้วไปต่างประเทศเพื่อปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ในระยะเวลานานพอสมควร

อลงกตย้ำว่า ดังนั้น การใช้ชีวิต การประสานงานโดยไม่ต้องพึ่งพาใครในสถานการณ์วิกฤตเป็นสิ่งที่สมาชิกต้องเตรียมใจรับ สิ่งสำคัญมากว่าคือ “สุนัข” ต้องมีความพร้อมจริง ตลอดจน “แฮนด์เลอร์” ต้องฟิตด้วย

ภาพจาก K9 : USAR Thailand

กว่าจะเป็น ‘สุนัขค้นหาและกู้ภัย’ ไม่ง่าย

สำหรับการฝึกสุนัขเพื่อให้เป็น “สุนัขค้นหาและกู้ภัย” นั้น ผอ.สุทธิเกียรติแนะนำว่า ต้องให้สุนัขเริ่มฝึกตั้งแต่ยังเล็ก โดยหลักการสำคัญในการฝึกคือต้องมีความสุขในการทำงาน ทำงานเพื่อหา “เป้าหมาย” ที่เราต้องการ นั่นคือ “คน” ซึ่งเป็นคนที่ “ต้องการความช่วยเหลือ” อาจมีเลือดไหล และไม่เหมือนคนอื่น ดังนั้น ฝึกอย่างไรถึงจะแยกแยะ “คนทั่วไป” กับ “ผู้ประสบภัย” หรือ “ผู้ประสบภัยแล้วเสียชีวิต” ได้

อลงกตยกตัวอย่าง “สิงโต” ที่เริ่มฝึกตั้งแต่อายุ 4 เดือน เริ่มด้วยการทำความรู้จักเสียงต่างๆ ให้ฟังเสียงดัง เสียงที่เกิดจากการระเบิด เสียงเครื่องจักร ฯลฯ เพื่อให้คุ้นเคยกับการอยู่ในภาวะที่เสียงต่างกันออกไป ให้เจอกับหมาตัวอื่นๆ เผชิญสิ่งยั่วยุต่างๆ พร้อมกันนี้ต้องฝึกเรื่องการเชื่อฟังคำสั่ง เช่น สั่งให้นิ่ง

ภาพจากรายการ “บ๊อกVlog” ช่องยูทูบ Thailand International Dog Show เสื้อสีส้มคือ ผอ.สุทธิเกียรติ คนใส่ชุดฝึกคืออลงกต ที่จูง “สิงโต” อยู่

“คุณสุทธิเกียรติเป็นคนสำคัญของประเทศไทยในด้านการฝึกสุนัขกู้ภัยที่สุดแล้วจากการเทรนในหลายประเทศ เรามีหลักสูตรของเรา เหมือนเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ดังนั้น การฝึกเหล่านี้เราฝึกเองจนเชี่ยวชาญ เมื่อถึงเวลาก็จะเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาทดสอบ บางครั้งสอบแล้วไม่ผ่านทั้งหมดก็มี

“เราต้องฝึกในสถานการณ์ต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานอื่น เช่น การฝึกคอบร้าโกลด์ปี 2020 เราจำลองสถานการณ์ดินโคลนถล่ม สมมุติว่ามีผู้ประสบภัยติดในอาคาร สิงโตถูกส่งเข้าไปค้นหาราว 30 นาที เมื่อเจอแล้วจะส่งสัญญาณเรียกด้วยการ ‘เห่า’ แจ้งแฮนด์เลอร์ ซึ่งผมจะต้องแจ้งคนอื่นๆ ให้ส่งทีมพยาบาลไปรับ ก่อนจะกู้ผู้ประสบภัยออกไป” อลงกตระบุ

เขาย้ำว่า ปัจจุบันการฝึกมีหลายระดับมาก จากยากไปถึงยากมาก บางสิ่ง “สิงโต” ก็ยังทำไม่ได้ ที่สำคัญต้องซ้อมบ่อย กระทั่งอยู่บ้านก็ต้องซ้อม พละกำลังต้องดี ต้องดูแลกัน

ภาพจาก K9 : USAR Thailand

ต้องการอาสาสมัครร่วมภารกิจจำนวนมาก

ผอ.สุทธิเกียรติทิ้งท้ายว่า ทีม Search and Rescue Dog เป็นหน่วยงานแรกที่ต้องไปปฏิบัติงาน วัตถุประสงค์คือเข้าไปสำรวจและค้นหาผู้ประสบภัย นอกจากค้นหาแล้ว ต้องช่วยผู้ประสบภัยซึ่งเป็นนักกู้ภัยคนอื่นๆ ด้วย

“เราต้องการอาสาสมัครซึ่งต้องทำงานด้านนี้อีกจำนวนมากเพื่อรองรับภารกิจนี้ ดังนั้น การสร้างไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความอดทน ความรู้หลายๆ ด้าน ยินดีรับผู้สนับสนุน หรือผู้ร่วมเป็นทีมเดียวกัน”

ภาพจาก K9 : USAR Thailand
ภาพจาก K9 : USAR Thailand
ภาพจาก K9 : USAR Thailand
ภาพจาก K9 : USAR Thailand

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง