ไม่ใช้เองก็ต้องจ่าย! ทำบัตรเครดิตหายไม่อายัด โดนรูดปรื๊ดไป 4 หมื่น แถมเรียกคืนไม่ได้

ไม่ใช้เองก็ต้องจ่าย! ทำบัตรเครดิตหายไม่อายัด โดนรูดปรื๊ดไป 4 หมื่น เรียกคืนไม่ได้

เป็นอุทาหรณ์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน สำหรับการถูกแฮก หรือ ขโมยบัตรเครดิต ซึ่ง หากรู้ตัวเร็ว ก็อาจจะป้องกันความเสียหายได้มาก แต่หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน อาจทำให้เสียหายหนัก และอาจจะไม่ได้รับเงินคืน

โดยเพจ ที่ปรึกษากฎหมายของชาวบ้าน ได้โพสต์เล่าเรื่องไว้ว่า

“บัตรเครดิตหาย แล้วมีคนนำไปใช้ และเพราะเหตุหรือพฤติการณ์อะไร ศาลถึงให้เขาจ่ายหนี้

ตามที่เคยบอกไว้ว่ารอให้คดีถึงที่สุดแล้วจะเอาเรื่องมาเล่า ครับ สรุปเรื่องย่อแบบชาวบ้านขาเม้าแล้วกัน เรื่องมีว่าคุณน้องคนนี้ได้ทำบัตรเครดิตหายไป แล้วมีคนเก็บนำบัตรเครดิตของน้องคนนี้ไปรูด.. ปรื๊ด..รูดปรื๊ดไป เกือบสี่หมื่นบาท แต่น้องคนนี้ก็ไม่ทราบว่าบัตรเครดิตหายไป และไม่ได้ดู SMS ในโทรศัพท์ (ทุกครั้งที่มีการใช้บัตร ธนาคารเจ้าของบัตรจะส่ง SMS แจ้ง) พอเวลาผ่านไป มีใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินที่มีรายการใช้บัตรเครดิต น้องเขาก็ไม่ได้แกะดู มารู้ตัวอีกครั้งว่าบัตรฯหายก็ปาเข้าไปร่วม 20 กว่าวันแล้ว ถึงค่อยไปแจ้งความ ซึ่งศาลวินิจฉัยเป็นพฤติการณ์ที่เป็นความบกพร่องและเป็นความประมาทอย่างร้ายแรงของผู้ใช้บัตรเครดิตเอง ที่ไม่กระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตัวเอง ศาลอุทธรณ์จึงมีพิพากษาให้คนใช้บัตรเครดิตจ่ายหนี้นั้น

Advertisement

ส่วนตัวแอดนั้น เคยถูกแฮกบัตรเครดิต มามากกว่า 4 ครั้ง (บัตรของ 3 ธนาคาร) แต่ละครั้งที่ถูกแฮกบัตรและมีรายการใช้จ่ายผ่านบัตร แอดไม่เคยได้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะแอดเห็น Sms แจ้งการใช้บัตร แอดจึงรีบโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์เพื่ออายัดและขอบัตรใหม่ ซึ่งมีครั้งหนึ่งที่โทรแจ้งช้าที่สุด ประมาณ 2 วันนับจากที่มีรายการแจ้งใช้บัตร ซึ่งมันก็จะสอดคล้องกับที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยไว้

สรุปบทเรียนจากประสบการณ์คนอื่น สำหรับคนที่มีบัตรเครดิต คือเราควรสำรวจการบัตรเครดิตในกระเป๋าเงิน อยู่เนืองๆ ว่าสูญหายไปไหนมั้ย มีรายการใช้บัตรแจ้งมาทาง sms หรือไม่ ถ้าเคสกรณีนี้มีการแจ้งอายัดไว แอด ว่าเขาก็ไม่ต้องจ่ายเพราะนอกจากที่เราไม่ได้ใช้แล้ว เรายังไม่ได้ประมาทอย่างร้ายแรงด้วย

นอกจากพฤติการณ์ของเราแล้วเรายังมีกฎหมายคุ้มครองด้วยคือประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2556 ข้อ 8 มีความว่า “ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจมีข้อตกลงกับผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่ให้ผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้า หรือใช้บริการที่ผู้บริโภคเพียงแจ้งความประสงค์ขอชําระค่าสินค้าหรือค่าบริการ โดยการแจ้งหมายเลข บัตรเครดิตด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษร ให้ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการทําการเรียกเก็บเงินจาก ผู้ประกอบธุรกิจ ต้องมีข้อสัญญาดังต่อไปนี้

Advertisement

(ก) ถ้าผู้บริโภคทักท้วง‼️ว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งซื้อสินค้าหรือไม่ได้เป็นผู้ขอรับบริการ‼️จากผู้ขายหรือ ผู้ให้บริการดังกล่าว ผู้ประกอบธุรกิจจะระงับการเรียกเก็บเงินจากผู้บริโภคทันที หรือในกรณีที่เรียกเก็บเงิน ไปแล้วจะคืนเงินให้กับผู้บริโภคทันที เว้นแต่ผู้ประกอบธุรกิจจะพิสูจน์ได้ว่า ภาระหนี้ที่เกิดขึ้นเป็น การกระทําของผู้บริโภคเองและใช้สิทธิเรียกคืนจากผู้บริโภคในภายหลัง

โพสต์หน้าจะหาเรื่องมาเล่าใหม่นะ แอด สัญญา”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image