เมื่อวันที่ 5 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสมาชิกเว็บไซต์ฟันทิป” เบิ้มผิดตรงไหน ” ตั้งกระทู้หัวข้อ “อุทาหรณ์เตือนใจ เที่ยวคนเดียวในอิโปห์ มาเลเซีย โดนปล้นและทำร่างกายจากคนมาเลเซีย 5 คน” โดยได้เล่าเหตุการณ์ที่ถูกปล้นและทำร้ายร่างกาย มีใจความสรุปว่า ทริปนี้ตั้งใจไว้ว่าจะไปสิงคโปร์เพื่อไปฉลองปีใหม่กับเพื่อนที่นั่น โดยแวะพักที่อิโปห์ 1 คืน วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 28 ธันวาคม 2559 เวลาประมาณ 7 – 8 โมงเช้า เรากำลังเดินออกไปหาข้าวเช้ากิน ของที่เอาติดตัวไปด้วยคือ กระเป๋ากล้อง กระเป๋าตัง (มีเงินมาเลประมาณ 100 MYR เงินสิงคโปร์ 30 SGD บัตรประชาชน บัตรเครดิต 2 ใบ บัตรเดบิตเอทีเอ็มสองใบ พาสปอร์ต กล้องถ่ายรูป และโทรศัพท์มือถือ iPhone6sPlus ความตั้งใจคือจะไปหาข้าวเช้ากินและซื้อของฝาก เดินออกมาจากที่พักได้ไม่นาน ไม่ถึง 10 นาที ก็เดินผ่านร้านอาหารจีนร้านนึง ซึ่งจะมีซอยติดกัน กำแพงสวยดี เลยเข้าซอยไปนิดนึง เพื่อถ่ายรูป หลังจากดูบรรยากาศรอบข้างแล้ว มีผู้คนเดินผ่าน หน้าปากซอยเป็นร้านอาหารจีน ซึ่งตอนเช้าคนกำลังเยอะ คิดว่าปลอดภัยแล้ว ก็เลยหยุดถ่ายรูป โดยเอากล้องวางบนขาตั้งกล้อง และใช้มือถือเป็นรีโมท
ซักพักนึงก็มีชายชาวมาเลย์ผิวสีดำ ขับรถมอไซค์ผ่านมา แล้วมาจอดตรงหน้าเรา พร้อมพยายามชวนคุย เราก็โต้ตอบกลับด้วยภาษาอังกฤษ แต่เหมือนชายคนนั้นจะไม่เข้าใจ ชายคนนั้นก็พยายามชวนคุยต่อ จนเรารู้สึกไม่โอเค มันแปลกๆแล้ว ก็เลยเตรียมจะเก็บของออก ในมือมีมือถืออยู่ ก็เลยกดแอบถ่ายรูปชายคนนั้นไว้ ชายคนนั้นรู้ตัว ก็เลยหยิบมือถือไปดู เราก็ด้วยสัญชาตญาณ ก็เลยคว้าคืนมา ก็กำลังจะเดินออก ชายคนนั้นก็พยายามชวนคุย เป็นภาษาอะไรก็ไม่รู้ (สันนิษฐานว่าเป็นภาษามาเล) ทันใดนั้น ไม่ถึงอึดใจ ก็มีรถมอไซค์สองคน ขับมาจากหน้าซอย และท้ายซอย(ซอยเป็นซอยไม่ลึกมาก สว่าง หน้าซอยและหลังซอยจะมองเห็นถนนอีกฝั่งนึง)
รถสองคันจอดลงพร้อมกันที่ข้างตัวเรา มีชายอีก 4 คน ลงมาจากรถสองคันนั้น และเริ่มทำการฉุดสิ่งของจากเราไป ด้วยสัญชาติญานหวงของของเรา ก็กระชากคืน และจะวิ่งหนี แต่ทั้ง 5 คนก็รุมเรา กระชากของทั้งหมดไปจากเรา เราก็ใช้แรงที่มียึดเหนี่ยวของทุกอย่างไว้กับตัวให้ได้มากที่สุด แล้วพยายามวิ่ง พร้อมตะโกนเสียงดังขอความช่วยเหลือ …. พวกโจร ก็เริ่มทำร้ายเราด้วยการรุมชกเราเข้าที่ใบหน้า ครั้งแล้วครั้งเล่า จนเราล้มลงกับพื้น เราพยายามกอดของไว้แน่นมากเท่าที่จะแน่นได้ สายตาเรามองไปทางหน้าซอย เห็นมีคนเดินผ่าน เราก็ตะโกนสุดเสียง เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีการช่วยเหลือใดๆจากคนที่เดินผ่านไป จนโจรได้ของไปทั้งหมด
พอพยุงตัวขึ้นได้ ก็รีบพาตัวเองออกจากซอย จากจุดเกิดเหตุ ถึงหน้าปากซอยที่มีร้านอาหารจีนนั้น ไม่ได้ไกลกันมาก ประมาณ 100 เมตร เมื่อถึงหน้าร้าน ก็ล้มลง คนในร้านอาหารก็เดินมามุงดู จนมีคนโทรเรียกรถพยาบาลให้ ไม่ถึง 3 นาที รถพยาบาลก็มารับพร้อมหิ้วเราขึ้นรถพยาบาลไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ก็พยายามช่วยห้ามเลือดบนใบหน้าเรา
ณ ตอนนั้น ไม่รู้เลยว่าหน้าเป็นยังไงบ้าง รู้แค่เลือดเต็มไปหมด เปรอะทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กลิ่นคาวเลือดคลุ้งตัวไปหมด หมอจึงเข็นเราเข้าห้องฉุกเฉินไป พร้อมกับให้ผ้าก็อซกัดไว้ เพื่อห้ามเลือด รออยู่นาน กว่าจะทำเรื่องเสร็จ มีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูอาการ มีนักศึกษาแพทย์เข้ามาดูเคสเรา เราเลยขอให้เค้าช่วยติดต่อโฮสเทลให้หน่อย ว่าเราไม่สามารถไปเช็คเอาท์ทัน 11 โมงนะ เพราะเรายังอยู่ที่รพ. เค้าก็ช่วยเหลือเต็มที่ พร้อมติดต่อเพื่อนเราที่สิงคโปร์ให้ด้วย เราก็นั่งรอบนเตียงฉุกเฉินอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง หมอฟันถึงจะมา แล้วเริ่มทำการรักษา เราเสียฟันล่างด้านซ้าย ไป 2 ซี่ ซี่หนึ่งหักครึ่งและยังเหลือรากฟันอยู่ ซึ่งหมอแนะนำให้กลับมาทำที่ไทย เพราะถ้าทำที่มาเลจะแพงมาก ส่วนอีกซี่นึงคือหักกลางเลย
นอกจากความเสียหายของสิ่งของ และร่างกายแล้ว ด้านจิตใจก็ค่อนข้างบาดเจ็บเช่นกัน ตอนนี้เรามีความหวาดกลัว คนมาเลผิวดำมากๆ ที่เขียนโพสต์นี้เพราะอยากจะขอเตือน คิดซะว่านี่เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่อยากท่องเที่ยวคนเดียว เดินทางคนเดียว ไม่ว่าที่ไหนก็แล้วแต่ ควรจะเลือกเมืองที่ปลอดภัย เหมาะกับการท่องเที่ยวคนเดียว หรือไปกันหลายคน ควรระวังตัวให้มากๆ แม้ว่าสถานที่ที่คุณไปจะดูปลอดภัยแค่ไหน เพราะขนาดเรา มีคนเดินผ่านไปมา ยังไม่ปลอดภัย และบาดเจ็บขนาดนี้ เหตุการณ์หลังจากนี้ ผมได้รับการช่วยเหลือจากหลายๆด้าน จนตอนนี้ผมปลอดภัยอยู่ที่ประเทศไทยแล้ว
