ถึงกับอึ้ง ทำแบบสอบถามในการบ้านลูก กลับเจอคนโทรมาขายประกัน ผู้ปกครองโดนกันเพียบ

ถึงกับอึ้ง ทำแบบสอบถามในการบ้านลูก กลับเจอคนโทรมาขายประกัน ผู้ปกครองโดนกันเพียบ

วิพากษ์วิจารณ์กันไม่น้อย เมื่อผู้ปกครองรายหนึ่ง ได้โพสต์เฟซบุ๊กลงในกรุ๊ป “ขอนแก่นร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่” เผยภาพของการบ้านลูก ที่แนบแบบสอบถามผู้ปกครอง เรื่องการเตรียมทุนการศึกษาไว้ให้ลูกแล้วหรือไม่ ก่อนที่จะมีบริษัทประกันโทรติดต่อมา

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว โพสต์ข้อความว่า “ลบโพสต์เก่าแปปนะครับ เกรงจะมีผลกระทบหลายๆด้าน จากการเตือนของเพื่อน ๆ
จากต้นเรื่อง ที่มีบริษัทโทรมาขายประกันวันอาทิตย์ บอกว่ามาจากการบ้านที่ลูกทำ
อยากจะเตือนครูหลายๆโรงเรียน ที่แอบแฝงการขายประกัน เอาข้อมูลผู้ปกครองไปให้บริษัท ในรูปแบบการบ้านของเด็ก ผมขอให้หยุดการกระทำเหล่านี้เลยนะครับ อย่าเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือในการขายประกัน
หรือถ้าคุณจะทำคุณก็ต้องเขียนให้ชัดเจนไปเลยว่าเป็นการกรอกข้อมูล ไปให้บริษัทประกัน แบบนั้นให้ผู้ปกครองเขาตัดสินใจเองว่าจะกรอกหรือไม่กรอก
ไม่ใช่มาในรูปแบบการบ้านที่บังคับให้เด็กต้องทำเป็นผมผมก็ต้องกรอกข้อมูลให้ครบ เพราะกลัวว่าลูกจะไม่ได้คะแนน ฝากไว้หน่อยนะครับ
ขออนุญาตยืมรูปมาจาก ผู้ปกครองที่โพสต์รอบที่แล้วนะครับแต่คนละโรงเรียน

Edit เพิ่ม สังเกตได้เลยครับว่ามีผู้ที่ถูกกระทำเยอะมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจมาเห็นโพสต์นี้จังเลยครับ มีคนทักข้อความมาต่อว่าผมด้วยว่าไม่ฉลาด ผมขอน้อมรับไว้ละกันนะครับ สิ่งไหนที่มันไม่ถูกต้องผมจะไม่ยอมครับ และสิ่งที่ผมโพสต์ไปผมไม่ได้ทำผิด ผมคิดว่าผมทำถูกแล้วครับขอบคุณครับที่เตือน”

ADVERTISMENT

โดยมีคนเข้าไปคอมเมนต์ กล่าวว่า ได้รับแบบสอบถามมากับการบ้านลูกเช่นกัน โดยบอกว่า

ADVERTISMENT

“เห็นด้วยค่ะ มีบอกว่าใครระบายสีสวยจะได้รางวัล พอบอกลูกว่าครูเค้าเอาไปส่งพวกขายประกันลูกไม่เชื่อร้องไห้บอกว่าตัวเองจะไม่ได้คะแนน”
“เมื่อวานมีโทรมาเช่นกันค่ะ จะเข้ามาเสนอที่บ้านเลย เลยแจ้งว่าไม่สะดวก เพราะตอนแรกที่กรอกข้อมูลไป เข้าใจว่าเขาหาข้อมูลสถิติ”

ทั้งนี้ นายอำนาจ (นามสมมุติ) พ่อของนักเรียนชั้นประถมศึกษา โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น นำภาพถ่ายเป็นใบงานแบบฝึกหัดระบายสีที่ลูกสาวได้มาจากครูที่โรงเรียน มาให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบดู หลังจากที่ผู้ปกครองท่านนี้ ถูกตัวแทนของบริษัทประกันชีวิต โทรศัพท์มาหาในวันหยุด เพื่อเสนอขายประกันและการออมเงินให้กับลูกสาว โดยตัวแทนบริษัทประกันแจ้งว่า ได้เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลมาจากการบ้านที่ทางโรงเรียนให้เด็กนักเรียนทำส่งครู ซึ่งการบ้านดังกล่าวมีลักษณะเป็นใบงานให้นักเรียนเลือกระบายสีลงในภาพอาชีพในฝันของตนเอง ระหว่างอาชีพตำรวจ และ พยาบาล

ในใบงานดังกล่าวยังให้ผู้ปกครองกรอกแบบสอบถาม เช่น 1.ท่านมีความประสงค์ให้บุตรของท่านเรียนถึงระดับใด 2.ท่านมีการเตรียมทุนการศึกษาให้บุตรของท่านแล้วหรือยัง 3.ท่านคิดว่าการวางแผนการเงินให้บุตรเพื่อเป็นทุนการศึกษาดีไหม 4.ถ้ามีสถาบันการเงินมาช่วยเก็บออม สนใจหรือไม่ และ 5.สร้างอนาคตเพื่อการศึกษาให้บุตรของท่าน สามารถเก็บออมได้เท่าไหร่ และให้เขียนชื่อ นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อลงในใบงานด้วย

นายอำนาจ เล่าว่า เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกสาวของตนเองซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ ได้การบ้านจากครูที่โรงเรียนมาทำที่บ้าน โดยเป็นใบงานที่ให้นักเรียนระบายสีลงในอาชีพที่ใฝ่ฝัน ซึ่งในใบงานมีอาชีพตำรวจและพยาบาล ตนเองก็ได้พาลูกทำการบ้านเหมือนปกติที่เคยพาทำ ซึ่งลูกของตนเองไม่ได้เลือกอาชีพตำรวจและพยาบาลเป็นอาชีพที่อยากเป็น แต่เพื่อให้มีการบ้านส่งครู ตนเองจึงให้ลูกระบายสีลงในทั้ง 2 อาชีพ และได้กรอกแบบสอบถามไปโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเป็นเพียงการบ้านของลูกเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน) เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีตัวแทนบริษัทประกันชีวิต โทรศัพท์มาที่เบอร์มือถือของตนเอง แล้วเสนอขายประกันและการออมเงิน ด้วยความสงสัยและแปลกใจว่า บริษัทประกันได้เบอร์โทรมาได้อย่าไร จึงได้สอบถามกับตัวแทนประกันที่โทรมา โดยทางตัวแทนประกันแจ้งว่า ได้เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลชื่อ นามสกุล มาจากใบงานที่โรงเรียนให้เด็กนำกลับไปทำการบ้านส่งครู เมื่อได้ยินคำตอบดังกล่าว ทำให้รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยและตั้งคำถามกับทางโรงเรียนว่า เหตุใดจึงนำข้อมูลของนักเรียนและผู้ปกครองไปให้บริษัทประกัน โดยที่ผู้ปกครองไม่ทราบเรื่อง

นายอำนาจ เล่าต่อว่า หลังเกิดเรื่องขึ้น ได้นำเรื่องราวนี้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งก็มีผู้ปกครองคนอื่น ๆ ที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน และ เรียกอยู่โรงเรียนอื่น ๆ ในเมืองขอนแก่น หลายคน เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ตนเองก็ถูกบริษัทประกันโทรหาเช่นกัน โดยอ้างว่า ได้เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลมาจากใบงานแบบเดียวกัน ทำให้บรรดาผู้ปกครองต่างไม่พอใจและสงสัยว่า โรงเรียนนำข้อมูลส่วนตัวไปให้บริษัทประกันโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองได้อย่างไร และเรื่องที่เกิดขึ้นผู้บริหารของโรงเรียนรับรู้หรือมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ จึงขอให้ออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image