เปิดเส้นทางชีวิต! ‘เอ จักรพรรดิ’ จากครอบครัวเกษตรกร สู่นักธุรกิจสบู่ผิวขาว ก่อน เป็น อ.เอ จักรพรรดิ

เปิดเส้นทางชีวิต! ‘เอ จักรพรรดิ’ จากครอบครัวเกษตรกร สู่นักธุรกิจสบู่ผิวขาว ก่อน เป็น อ.เอ จักรพรรดิ ลูกศิษย์แห่กราบไหว้ทั่วสารทิศ

กลายเป็นดราม่าทันทีจากกรณีภาพคนแห่ก้มกราบ อ.เอ จักรพรรดิ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า เขาคือใคร ทำไมถึงมีลูกศิษย์มากมายขนาดนี้สำหรับประวัติ “เอ จักรพรรดิ” เคยทำธุรกิจขายสบู่ผิวขาว ภายใต้แบรนด์ “นีออนไวท์” ภายใต้ชื่อบริษัท นีออนไวท์ ไทยแลนด์ จำกัด โดยขณะนั้น เอ จักรพรรด์ ใช้ชื่อจริง ว่า นายธนกฤต ผ่องใส กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีออนไวท์ ไทยแลนด์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย สกินแคร์ยี่ห้อ NEON และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอมาริต้า

โดยมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประมาณช่วงปี 2559 โดยช่วงแรกขายผ่านออนไลน์เป็นหลัก ทั้งในเรื่องการสื่อสารและภาพลักษณ์ของแบรนด์ จนต่อมาได้มีการเปิดหาพันธมิตรเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเป็นครั้งแรกประมาณช่วงปี 2560 เพื่อมาทำธุรกิจและร่วมเติบโตไปด้วยกัน โดยเมื่อมีตัวแทนจำหน่ายแล้วบริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตเป็น 2 เท่าจากปัจจุบันที่อยู่ที่ 200 ล้านบาทต่อปีเป็น 400 ล้านบาท

Advertisement

ทั้งนี้ เอ จักรพรรดิ หรือ เอ ธนกฤต นั้น ชีวิตลำบากตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เป็นชาวร้อยเอ็ด ที่บ้านทำอาชีพเกษตรกรรม ชีวิตลำบากตั้งแต่ยังเล็ก ต้องหาเลี้ยงตัวเองด้วยการรับจ้างทุกอย่างจนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรี ก่อนมาเป็นเจ้าของธุรกิจความงามอดีตเคยขาดทุนโดนเจ้าหนี้นอกระบบซ้อมเกือบปางตาย ถูกโกงหมดตัว ทั้งชีวิตมีเงิน 60 บาท สุดท้ายจับทางถูกไปขอความช่วยเหลือให้โรงงานผลิตสบู่ จากนั้นนำไปขาย อาศัยทำการตลาดแบบบ้านๆ ไม่น่าเชื่อยอดขายปีเดียว 300 ล้าน

เอ จักรพรรดิ เป็นลูกชายคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 3 คน ครอบครัวฐานะยากจน พี่ชายได้เรียนหนังสือจนถึงชั้นมัธยมศึกษา ส่วนตัวเองอาศัยทำงานรับจ้างทุกอย่าง ทำอาหาร ทำขนมไปขายที่โรงเรียน จ่ายค่าเทอมเองจนจบปริญญาตรี เป็นคนชอบค้าขาย เขาฝันไว้ตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นนักธุรกิจ

ฉะนั้น จึงเลือกเรียนด้านการตลาด พร้อมกับเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่จังหวัดมหาสารคามตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์โดนหลอกเข้าสู่ระบบเงินกู้ผิดกฎหมาย อายุ 21 ปีเป็นหนี้เกือบ 2 แสนบาท โดนซ้อมปางตาย ในที่สุดดรอปเรียน ต้องหนีไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่อยู่พัทยา ไปอยู่พัทยาได้ 5 เดือน สุดท้ายได้กลับมาจังหวัดมหาสารคามอีกครั้งเพราะมีการกวาดล้างแก๊งเงินกู้

Advertisement

เมื่อได้กลับมาเรียนต่อ จนสามารถคว้าใบปริญญาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามสำเร็จ คุณเอ บอกว่า ด้วยความรักงานแฟชั่นตัดสินใจมาเปิดห้องเสื้อที่กรุงเทพฯ ตัดเย็บชุดราตรี ชุดนางงาม ปรากฏโดนโกงขาดทุนยับเยิน ถึงขั้นต้องกลับไปทำนา

“ปี 2559 กลับไปตั้งหลักที่บ้านเกิด คิดว่าจะทำอะไรดี ส่วนตัวรักสวยรักงาม เกิดมาตัวดำอยากขาว เลยคิดจะทำสบู่ ทว่าไม่มีเงินทุน อาศัยขอความช่วยเหลือจากโรงงานให้ช่วยผลิตสินค้าให้ก่อน ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์นั้น โดยได้สบู่มา 3 สูตร นำไปทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง 3 หมู่บ้าน จำนวน 30 คน สุดท้ายได้สูตรที่ลงตัว สกัดจากมะขามป้อม คุณสมบัติเด่นช่วยให้ผิวนุ่ม และขาวขึ้น สบู่ล็อตแรกที่ผลิตออกมาจำนวน 300 ก้อน ขายออนไลน์ทั้งหมด

ในช่วงแรกถูกขายสบู่ผ่านเฟซบุ๊ก โดยเจ้าของใช้วิธีการตลาดแบบบ้านๆ ไม่มีพรีเซ็นเตอร์ ไม่มีสื่อโฆษณา มีเพียงคนใกล้ตัวที่มีปัญหาสภาพผิวสีเข้มมารีวิวสินค้าด้วยการใช้จริง อาทิ ชาวนา ชาวสวนยาง คนซ่อมรถ ยอดขายดีขึ้นจากวันละ 1 หมื่นบาท ค่อยๆ ทะยานขึ้นสู่หลักล้าน กระทั่งสูงสุดยอดขายวันละ 1.5 ล้านบาท ขายดีเกือบปี รายได้พุ่งขึ้นสูงถึง 300 ล้านบาท

จนต่อมา “เอ จักรพรรดิ” ขายของขลังหรือของมงคลต่างๆ ให้ลูกศิษย์ได้เช่าบูชา และต่อมาได้สร้างเทวาลัยพญานาค และพระพิฆเนศ เพื่อให้คนที่นับถือศรัทธา เข้ามากราบไหว้ขอพร รวมทั้งมีการลง นะ หน้าทอง ผ่านพระลักษณ์หน้าทอง ส่งผลให้ปัจจุบันมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาจากทั่วประเทศ ไปที่ไหนก็มีคนรู้จัก โดยปัจจุบัน อ.เอ จักรพรรดิ เป็น เจ้าของบริษัทจักรพรรดิมั่งคั่ง

ขอบคุณภาพจากยูทูป  เอ จักรพรรดิ,เพจ เอ จักรพรรดิ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image